เมื่อซื้อคอนโดมาแล้ว นอกจากเรื่องการตกแต่งภายใน “ประกันอัคคีภัย” ก็เป็นเรื่องที่หลายคนให้ความสำคัญไม่แพ้กัน 

โดยหนึ่งในข้อสงสัยของคนมีคอนโด คือ จำเป็นต้องทำประกันอัคคีภัยเหมือนคนมีบ้านหรือไม่? เพราะอย่างที่รู้กันดีว่าคอนโดมีลักษณะหลายอย่างที่แตกต่างจากบ้านเป็นหลัง อีกทั้งโครงการคอนโดต่างๆ ก็มักจะมีการทำประกันอัคคีภัยเอาไว้แล้วด้วย

คำตอบของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร? มาดูไปพร้อมกันเลย

รู้จักประกันอัคคีภัย

ประกันอัคคีภัย หรือชื่อเต็มๆ ว่า ประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย เป็นประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยทุกประเภท (ไม่นับรวมฐานราก) และให้ความคุ้มครองทรัพย์สินภายในสิ่งปลูกสร้างนั้นด้วย 

เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน เครื่องครัว เครื่องนุ่งห่ม เครื่องดนตรี ฯลฯ 

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีชื่อว่า “ประกันอัคคีภัย” แต่ประกันประเภทนี้ไม่ได้คุ้มครองกับแค่เหตุการณ์ไฟไหม้เท่านั้นนะ เพราะยังให้ความคุ้มครองครอบคลุมไปถึงเหตุการณ์ไม่คาดฝันอีกมากมาย ได้แก่ 

1. ไฟไหม้ รวมถึงไฟไหม้ป่า พุ่มไม้ พงรก และการเผาป่าเพื่อปราบพื้นที่

2. ฟ้าผ่า (รวมถึงความเสียหายต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เกิดจากการลัดวงจรจากฟ้าผ่า)

3. ภัยจากระเบิด

4. ภัยจากการเฉี่ยว และหรือการชนของยานพาหนะหรือสัตว์พาหนะ เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย เป็นต้น

5. ภัยจากอากาศยาน และหรือวัตถุที่ตกจากอากาศยาน รวมถึงจรวดซึ่งขับเคลื่อนด้วยตัวเองและยานอวกาศยกเว้นจรวดที่เป็นอาวุธ

6. ภัยเนื่องจากน้ำ อันเกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุจากการปล่อยการรั่วไหล หรือการล้นออกมาของน้ำหรือไอน้ำจากท่อน้ำ ถังน้ำ ระบบทำความร้อน ระบบทำความเย็น ระบบปรับอากาศ เครื่องสูบน้ำ และรวมถึงน้ำฝนที่ไหลผ่านเข้าไปภายในอาคารจากการเสียหายของหลังคา หน้าต่าง ประตู วงกบประตูหน้าต่าง ช่องลม ช่องรับแสงสว่าง ท่อน้ำหรือรางน้ำ

7. ภัยจากลมพายุ

8. ภัยจากน้ำท่วม 

9. ภัยจากแผ่นดินไหว หรือภูเขาไฟระเบิด หรือคลื่นใต้น้ำ หรือสึนามิ ที่มีสาเหตุจากธรรมชาติ 

10. ภัยจากลูกเห็บ

*ความคุ้มครองเป็นไปตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกัน ควรศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจทำประกันอัคคีภัย    

ข้อดีของการทำประกันอัคคีภัย

นอกจากจะให้ความคุ้มครองในหลายกรณีแล้ว ประกันอัคคีภัยยังมีข้อดีอีกมากมาย เช่น 

1. ช่วยเพิ่มความอุ่นใจตลอดเวลาที่พักอาศัย

ผู้พักอาศัยจะอุ่นใจได้มากขึ้นเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือเจอพายุลมแรง จนตัวบ้านเสียหาย เพราะจะมีผู้ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายอย่างเต็มที่

2. ช่วยเพิ่มความสบายใจแม้ไม่มีใครอยู่บ้าน 

ในช่วงเวลาที่ไม่มีคนอยู่บ้าน แม้ว่าเจ้าของบ้านจะปิดแก๊ส ปิดไฟ สับคัทเอาท์ หรือปิดวาล์วน้ำเรียบร้อยแล้ว แต่ก็อาจจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันกับตัวบ้านหรือทรัพย์สินภายในบ้านได้ตลอดเวลา 

ดังนั้นถ้าคุณอยากไปทำธุระ หรือเที่ยวพักผ่อนอย่างสบายใจ ประกันอัคคีภัยคือคำตอบ เพราะสามารถให้ความคุ้มครองบ้านและทรัพย์สินภายในบ้านได้ตลอดเวลา แม้ว่าจะไม่มีคนอยู่ในบ้าน

อ่านเพิ่มเติม: รวมเรื่องน่ารู้ก่อนตัดสินใจทำ “ประกันอัคคีภัย” 

3. ช่วยให้ผู้ทำประกันได้รับความคุ้มค่า 

ค่าเบี้ยประกันอัคคีภัยเริ่มต้นตั้งแต่หลักพันบาทขึ้นไป แต่สามารถคุ้มครองความเสียหายได้มากกว่าค่าเบี้ยประกันหลายเท่าตัว 

นอกจากนั้น ถ้าทำประกันอัคคีภัยต่อเนื่องมากกว่า 1 ปีขึ้นไป จะยิ่งได้รับความคุ้มค่ามากขึ้น เพราะบริษัทประกันมักจะมีส่วนลดค่าเบี้ยให้เป็นพิเศษ 

*ค่าเบี้ยประกันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ลักษณะของสิ่งปลูกสร้าง สถานที่ตั้ง การติดตั้งอุปกรณ์ดับเพลิง เป็นต้น

อ่านเพิ่มเติม: หน้าฝน บ้านพัง จัดการอย่างไรให้อยู่หมัด?

4. ประกันอัคคีภัย ช่วยเพิ่มโอกาสในการพิจารณาสินเชื่อ

สำหรับผู้ต้องการกู้ยืมสินเชื่อประเภทต่างๆ ที่ต้องใช้ที่อยู่อาศัยเป็นหลักค้ำประกัน ประกันอัคคีภัยจะช่วยให้กู้สินเชื่อผ่านได้ง่ายขึ้น เพราะถือว่าเป็นหนึ่งในตัวช่วยลดความเสี่ยงด้านค่าใช้จ่าย 

หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันกับตัวบ้าน หรือทรัพย์สินภายในบ้าน ทำให้เจ้าของบ้านไม่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน

อยู่คอนโด ทำประกันอัคคีภัยได้ไหม? 

ถึงแม้ว่าหลายคนจะรู้จักประกันอัคคีภัย ในแง่ของการเป็นประกันบ้าน แต่อย่างที่บอกไปแล้วว่า ประกันอัคคีภัยนั้นความคุ้มครองสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ตึกแถวเพื่อการอยู่อาศัย ห้องชุด แฟลต ซึ่งหมายรวมถึงคอนโดมิเนียมด้วย 

อ่านเพิ่มเติม: จริงหรือไม่? กู้ซื้อบ้านต้องทําประกันด้วย

ดังนั้นคนอยู่คอนโดจึงสามารถทำประกันอัคคีภัยได้ และจะได้รับความคุ้มครองเช่นเดียวกับคนที่พักอาศัยอยู่ในสิ่งปลูกสร้างรูปแบบอื่น
  

อยู่คอนโด จำเป็นต้องทำประกันอัคคีภัยไหม?

อยู่คอนโดก็ทำประกันประกันอัคคีภัย หรือประกันคอนโดได้ แต่จำเป็นต้องทำประกันอัคคีภัยไหม?

สำหรับคนที่สงสัยในเรื่องนี้ SMILE INSURE แนะนำว่าจำเป็นต้องทำ ด้วยเหตุผล 2 ข้อ ดังนี้

1. แม้ว่ากฎหมายจะกำหนดให้โครงการคอนโดต่างๆ ต้องทำประกันอัคคีภัย แต่ประกันนั้นมักจะให้ความคุ้มครองกับแค่พื้นที่ส่วนกลาง และตัวห้องของผู้พักอาศัยเฉพาะที่มีความเกี่ยวข้องกับโครงการเท่านั้น 

อ่านเพิ่มเติม: 7 ปัญหายอดฮิตที่ชาวคอนโดต้องเจออย่างเลี่ยงไม่ได้

แต่ไม่ได้คุ้มครองถึงทรัพย์สินอื่นๆ ที่เจ้าของห้องจัดหามาภายหลัง เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องดนตรี ฯลฯ ดังนั้นถ้าเจ้าของห้องไม่ได้ทำประกันอัคคีภัยในส่วนของห้องตัวเองเพิ่มเติมเอาไว้ ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่เสี่ยงพอสมควร เพราะอาจต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายจำนวนมาก

อ่านเพิ่มเติม: 7 เรื่องสำคัญ ที่คนอยากซื้อบ้านใหม่ต้องรู้!

2. สำหรับคอนโดเก่าที่สร้างมานานหลายสิบปีแล้ว นิติบุคคลคอนโดอาจไม่ได้ทำประกันอัคคีภัยไว้ต่อเนื่อง และไม่ได้แจ้งเรื่องนี้กับผู้พักอาศัยอย่างตรงไปตรงมา นั่นหมายความว่า หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เจ้าของห้องคอนโดก็ต้องแบกรับความเสียหายมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว

ซื้อประกันอัคคีภัยออนไลน์ สะดวกสบายที่สุด

สำหรับการซื้อประกันอัคคีภัย หรือประกันคอนโด ในยุคนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องยาก เพราะสามารถซื้อประกันออนไลน์ได้เลย 

แต่ถ้าอยากซื้อประกันออนไลน์ให้ถูกใจ แนะนำให้หาข้อมูลจากหลายแหล่งมาเปรียบเทียบกัน แล้วไปซื้อประกันออนไลน์กับโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ มีการจดทะเบียนบริษัทอย่างถูกต้องตามกฎหมาย 

และได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) (ตรวจสอบใบอนุญาตของโบรกเกอร์ได้ที่ https://smart.oic.or.th/EService/Menu2) 

นอกจากนั้นอาจดูเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ช่องทางการติดต่อที่หลากหลาย ประสบการณ์การทำงานของโบรกเกอร์ การให้ข้อมูลที่ครบถ้วน โปรโมชั่น เป็นต้น

วิธีเคลมประกันอัคคีภัยเมื่ออยู่คอนโด

หากทำประกันอัคคีภัยหรือประกันคอนโดไว้แล้ว แต่ยังไม่เคยเคลมประกันมาก่อนเลย และไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร SMILE INSURE แนะนำดังนี้ 

1. ให้เจ้าของคอนโดติดต่อบริษัทประกันทันที เพื่อแจ้งเหตุการณ์และความเสียหายที่เกิดขึ้น 

2. เก็บหลักฐานความเสียหายให้ครบถ้วน ด้วยการถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ จดบันทึกเหตุการณ์ และจัดเก็บสิ่งของที่เกิดความเสียหายไว้จนกว่าเจ้าหน้าที่ประกันหรือผู้ที่เกี่ยวข้องจะมาถึง 

3. รอเจ้าหน้าที่ประกันเข้ามาประเมินความเสียหาย (กรณีเป็นอุบัติเหตุรุนแรง จำเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันเข้ามาตรวจสอบเอง)

4. ให้ช่างหรือผู้รับเหมาประเมินราคาความเสียหาย (กรณีเป็นอุบัติเล็กน้อย ซึ่งบริษัทประกันแจ้งให้เจ้าของคอนโดดำเนินการหาช่างหรือผู้รับเหมาเองได้) 

5. เตรียมเอกสารสำคัญตามที่บริษัทประกันร้องขอ เช่น หนังสือเรียกร้องของผู้เอาประกัน สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้เอาประกัน ภาพถ่ายหรือวิดีโอที่แสดงถึงความเสียหาย ใบเสนอราคาหรือใบเสร็จค่าซ่อมของผู้รับเหมา สำเนาบันทึกประจำวันของเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ (เฉพาะกรณีที่ต้องมีการแจ้งความ) หนังสือยอมรับผิดของบุคคลภายนอก (เฉพาะกรณีที่เกิดความเสียหายจากการกระทำของบุคคลอื่น) เป็นต้น และจัดส่งเอกสารดังกล่าวให้กับบริษัทประกันภัย

6. รอรับค่าสินไหมทดแทนตามช่องทางที่ได้ตกลงไว้กับบริษัทประกัน 

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่แต่ละบริษัทฯ กำหนด

“ไม่ว่าคุณจะอยู่บ้านหรืออยู่คอนโด “ประกันอัคคีภัย” ก็ยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ”

  มาเพิ่มความอุ่นใจ และเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นกับคอนโดของคุณ ด้วยการทำประกันอัคคีภัยหรือประกันคอนโดเอาไว้ตั้งแต่วันนี้ดีกว่า

ขอบคุณข้อมูลจาก

• สมาคมประกันวินาศภัย