ไม่ว่าจะกี่ยุคสมัย การมีบ้านเป็นของตัวเองสักหลัง ก็ยังคงเป็นความฝันของใครหลายคน เพราะบ้านคือพื้นที่ปลอดภัย ที่ให้คนในครอบครัวมาใช้ชีวิตร่วมกันได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน และไม่ต้องเหนื่อยกับการย้ายที่อยู่ไปเรื่อยๆ

แต่การจะกู้เงินก้อนใหญ่มาซื้อบ้าน ไม่ใช่เรื่องง่าย และมีรายละเอียดมากมายที่ควรทราบ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ “การทำประกันบ้าน” ที่ธนาคารจะขอให้ผู้กู้ซื้อบ้านต้องทำเพิ่มเติม 

โดยที่ผู้กู้หลายคนอาจจะยังไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน จนทำให้ต้องเจอกับปัญหาหลายอย่างตามมา เช่น มีรายจ่ายเพิ่มขึ้น ได้ยอดกู้ไม่เต็มจำนวน เพราะต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันบ้านเพิ่ม ฯลฯ 

ถึงแม้ว่าค่าเบี้ยส่วนใหญ่จะแค่หลักพันบาท ไปถึงหลักหมื่นต้นๆ (เบี้ยประกันและทุนประกันขึ้นอยู่กับราคาบ้าน) แต่ก็อาจทำให้เกิดขาดสภาพคล่องทางการเงินไปชั่วขณะได้เหมือนกัน และส่งผลให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้ได้ 

อ่านเพิ่มเติม: 5 เหตุผลที่คนมีบ้านควรทำประกัน!

อย่างไรก็ตาม ถ้าเปิดอ่านกระทู้รีวิวเรื่องการกู้ซื้อบ้านจากเว็บบอร์ดต่างๆ จะพบว่า มีความคิดเห็นมากมายเกี่ยวกับการทำประกันตอนกู้ซื้อบ้าน เพราะบางคนบอกว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่ธนาคารบังคับให้ทำ เพื่อเป็นหลักค้ำประกันในการกู้ยืม 

ในขณะที่บางคนบอกว่า ไม่จำเป็นต้องทำประกันเพิ่มก็ได้ เป็นสิทธิ์ของผู้บริโภค จนทำให้ผู้ที่กำลังจะกู้ซื้อบ้าน เกิดคำถามขึ้นมาว่า ถ้าจะกู้ซื้อบ้าน จำเป็นต้องทำประกันบ้านด้วยหรือไม่? 

ดังนั้น เพื่อให้ทุกคนได้คลายความสงสัย และมีความรู้ความเข้าใจเรื่องประกันบ้านกับการกู้ซื้อบ้านมากขึ้น วันนี้ SMILE INSURE มีคำตอบ

ประกันบ้านคุ้มครองอะไรบ้าง?

ประกันบ้าน หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย จะให้ความคุ้มครองสิ่งปลูกสร้างที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย (ไม่รวมฐานราก) เช่น บ้าน ทาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด ตึกแถวสำหรับอยู่อาศัย ฯลฯ 

รวมถึงทรัพย์สินภายในสิ่งปลูกสร้างนั้นด้วย เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องตกแต่ง สิ่งติดตั้งตรึงตรา เครื่องใช้ภายในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน เป็นต้น

โดยมีเงื่อนไขความคุ้มครองครอบคลุมความเสียหายที่เกิดจากกรณีเหล่านี้ 

1. ไฟไหม้ รวมถึงไฟไหม้ป่า พุ่มไม้ พงรก และการเผาป่าเพื่อปราบพื้นที่

2. ฟ้าผ่า (รวมถึงความเสียหายต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เกิดจากการลัดวงจรจากฟ้าผ่า)

3. การระเบิดทุกชนิด

4. ภัยจากการเฉี่ยว และหรือการชนของยานพาหนะหรือสัตว์พาหนะ เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย เป็นต้น

5. ภัยจากอากาศยาน และหรือวัตถุที่ตกจากอากาศยาน รวมถึงจรวดซึ่งขับเคลื่อนด้วยตัวเองและยานอวกาศยกเว้นจรวดที่เป็นอาวุธ

อ่านเพิ่มเติม: ทำประกันบ้านดี๊ดี มีชัยไปกว่าครึ่ง!

อีกทั้งยังสามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมในส่วนอื่นได้อีก เช่น

1. ภัยเนื่องจากน้ำ ที่เกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุจากการปล่อยการรั่วไหล หรือการล้นออกมาของน้ำหรือไอน้ำ จากท่อน้ำ ถังน้ำ ระบบทำความร้อน ระบบทำความเย็น ระบบปรับอากาศ เครื่องสูบน้ำ รวมถึงน้ำฝนที่ไหลผ่านเข้าไปภายในอาคารจากการเสียหายของหลังคา หน้าต่าง ประตู วงกบประตูหน้าต่าง ช่องลม ช่องรับแสงสว่าง ท่อน้ำหรือรางน้ำ

2. ภัยจากลมพายุ

3. ภัยจากน้ำท่วม หมายถึง น้ำซึ่งไหลล้นหรือไหลออกจากทางน้ำปกติ ซึ่งเป็นได้ทางน้ำธรรมชาติ และทางน้ำที่สร้างขึ้น (ไม่รวมรางน้ำบนหลังคา) หรือเกิดจากท่อน้ำสาธารณะแตก รวมถึงน้ำท่วมจากลมพายุ น้ำป่า และโคลนถล่ม

4. ภัยจากแผ่นดินไหว หรือภูเขาไฟระเบิด หรือคลื่นใต้น้ำ หรือสึนามิ ที่มีสาเหตุจากธรรมชาติ และให้หมายรวมถึงน้ำท่วม จากแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟระเบิด ที่มีสาเหตุจากธรรมชาติ 

5. ภัยจากลูกเห็บ น้ำฝน น้ำค้างแข็ง หิมะ ทราย หรือฝุ่นละออง ที่ไหลผ่านเข้าไปในอาคาร ตามร่องแตกร้าวของอาคาร สิ่ง หรือน้ำจากเครื่องพรมน้ำหรือท่อน้ำอื่นๆ ที่เกิดเสียหายขึ้นเนื่องจากลูกเห็บโดยตรง

อ่านเพิ่มเติม: ข้อควรรู้เมื่อเกิดอัคคีภัยในบ้านพักอาศัย

*ความคุ้มครองและทุนประกัน เป็นไปตามเงื่อนไขของบริษัทประกัน

พูดได้ว่าการทำประกันบ้าน หรือประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย เป็นตัวช่วยดีๆ ที่จะทำให้คุณและคนในครอบครัว อยู่บ้านได้อย่างอุ่นใจมากยิ่งขึ้น 

และพร้อมรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝันที่อาจสร้างความเสียหายในอนาคตได้เป็นอย่างดี เพราะประกันสามารถคุ้มครองบ้าน และทรัพย์สินของคนในบ้านได้จากหลายกรณี  

กู้ซื้อบ้านจำเป็นต้องทำประกันบ้านไหม?

สำหรับข้อสงสัยที่ว่า ถ้าจะกู้ซื้อบ้านจำเป็นต้องทำประกันบ้านไหม? คำตอบคือ “จำเป็น” โดยเมื่อธนาคารอนุมัติสินเชื่อบ้านแล้ว จะขอให้ผู้กู้ทำประกันบ้าน หรือประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัยด้วยทันที 

อ่านเพิ่มเติม: บ้านไม่ได้เสี่ยงพัง ทำไมยังต้องทำประกันบ้าน?

เพื่อเพิ่มความคุ้มครองให้บ้าน และทรัพย์สินภายในบ้าน ลดภาระค่าใช้จ่าย รวมถึงลดความเสี่ยงด้านการชำระหนี้ ที่เกิดจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน 

เพราะสิ่งที่ผู้กู้ควรรู้คือ การกู้ซื้อบ้าน ธนาคารจะใช้บ้านหลังที่ซื้อเป็นทรัพย์สินค้ำประกัน ดังนั้นตัวบ้านจะยังไม่ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ซื้อจนกว่าจะผ่อนหมด นั่นหมายความว่า ถ้าไม่ได้ทำประกันบ้าน 

อ่านเพิ่มเติม: ไม่เชื่ออย่าลบหลู่! “ตัวเลข” กับความเชื่อเรื่องบ้าน

และระหว่างนั้นเกิดไฟไหม้บ้านทั้งหลัง คุณจะต้องรับผิดชอบความเสียหายทั้งหมดเอง และยังต้องผ่อนบ้านต่อไปด้วย

ส่วนประกันประเภทอื่น เช่น ประกันชีวิตคุ้มครองวงเงิน เป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้ โดยอ้างอิงคำตอบส่วนหนึ่งจากเว็บบอร์ดของคปภ. ที่กล่าวว่า 

    “ตามหลักของการประกันภัย ธนาคารไม่สามารถบังคับได้ ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของผู้ซื้อเอง หากเราจะไม่ทำประกันเพื่อคุ้มครอง ก็ต้องยืนยันกับธนาคาร”

แต่ทุกวันนี้ เรามักจะเห็นว่าคนกู้ซื้อบ้าน จะทำประกันบ้านควบคู่กับประกันชีวิตไปด้วยเลย นั่นเป็นเพราะว่า นอกจากประกันบ้านจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายจากเหตุการณ์ร้ายๆ ได้แล้ว ยังเป็นตัวช่วยดีๆ ที่ทำให้ผู้กู้ได้รับข้อเสนอที่น่าสนใจอีกด้วย เช่น ลดดอกเบี้ยในการผ่อนชำระ เป็นต้น 

ไม่จำเป็นต้องซื้อประกันบ้านผ่านธนาคารเสมอไป จริงไหม?

อย่างไรก็ตาม แม้ธนาคารจะเป็นผู้อนุมัติเงินกู้ซื้อบ้าน แต่การซื้อประกันบ้าน หรือประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย ไม่จำเป็นต้องซื้อผ่านธนาคารเหล่านั้นเสมอไป เพราะบางครั้งแผนประกันของธนาคารก็ไม่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของบ้านได้แบบตรงใจ 

ทั้งในเรื่องเงื่อนไขความคุ้มครอง ความเหมาะสมกับบสภาพแวดล้อมรอบๆ บ้าน ลักษณะของตัวบ้าน ทุนประกัน และเบี้ยประกัน 

อ่านเพิ่มเติม: ประกันบ้านสำคัญไฉน?

ดังนั้น ผู้กู้จึงสามารถตัดสินใจเลือกซื้อแผนประกันที่มีเงื่อนไขความคุ้มครองตรงกับตามความต้องการของตัวเองได้อย่างเต็มที่ และได้รับความคุ้มค่าที่มากขึ้น เช่น เลือกซื้อประกันที่ถูกใจ แบบต่อเนื่อง 3 ปี เป็นต้น 

อ่านเพิ่มเติม: ประกันอัคคีภัย สำหรับบ้านอยู่อาศัย เลือกยังไงให้คุ้ม?

เนื่องจากการทำประกันบ้านต่อเนื่องหลายปี จะได้รับส่วนลดค่าเบี้ยลงเรื่อยๆ จึงคุ้มกว่าที่จะทำประกันแค่ปีต่อปี บริษัทจะคิดเบี้ยประกันภัยเพียง 250% ของเบี้ยประกันภัย 1 ปี เท่านั้น

โดยซื้อประกันผ่านบริษัทประกัน ตัวแทนประกัน หรือซื้อประกันออนไลน์ก็ได้ แต่ต้องเป็นบริษัทที่ผ่านการรับรองจากคปภ. และมีเงื่อนไขความคุ้มครองตามที่ธนาคารผู้อนุมัติสินเชื่อกำหนดไว้ 

บทสรุปเรื่องการกู้ซื้อบ้านและการทำประกันบ้าน

การกู้ซื้อบ้านจำเป็นต้องทำประกันบ้านด้วย เพื่อเพิ่มความคุ้มครอง และลดความเสี่ยงให้กับผู้กู้สินเชื่อซื้อบ้าน และธนาคาร เพราะอย่างที่เราทราบกันดีว่า สินเชื่อบ้านเป็นสินเชื่อระยะยาว ซึ่งในห้วงเวลาที่ยาวนานนี้ อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นได้ตลอดเวลา

ทั้งนี้ ธนาคารจะขอให้ผู้กู้สินเชื่อบ้าน ต้องทำประกันบ้าน หรือประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย ส่วนประกันรูปแบบอื่นๆ จะเป็นเพียงอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มความคุ้มครองให้รอบด้านมากขึ้น 

ผู้กู้สามารถเลือกได้ว่า จะซื้อประกันในส่วนนี้เพิ่มเติมหรือไม่ซื้อก็ได้ 

อ่านเพิ่มเติม: จะทำประกันภัยบ้าน ต้องรู้อะไรบ้าง?

โดยการซื้อประกันบ้านประเภทต่างๆ สามารถทำได้หลายวิธี คือ ซื้อผ่านธนาคารผู้อนุมัติสินเชื่อ ซื้อผ่านบริษัทประกัน ซื้อผ่านตัวแทนประกัน และวิธีที่ง่ายที่สุดอย่างการซื้อประกันออนไลน์ผ่านโบรกเกอร์ชั้นนำ 

สุดท้าย อย่าลืมปรึกษาเจ้าหน้าที่สินเชื่อของธนาคาร ก่อนตัดสินใจซื้อประกันบ้าน หรือประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย เพื่อให้ประกันที่ซื้อคุ้มค่า และสามารถสร้างประโยชน์กับตัวบ้าน และตัวผู้กู้ได้มากที่สุด 

ขอบคุณข้อมูลจาก

• สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย 
• สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (การประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย)