หน้าฝน บ้านพัง จัดการอย่างไรให้อยู่หมัด?
“บ้าน” เป็นที่อยู่อาศัยสำคัญสำหรับเราทุกคน การเลือกบ้านก่อนตัดสินใจซื้อแม้จะสำคัญเพียงใด แต่เมื่อซื้อบ้านแล้วการดูแลก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมากเช่นกัน แม้วัตถุต่างๆ ที่ใช้ในการสร้างบ้าน 1 หลัง
จะมีอายุการใช้ที่ยาวนานแต่เมื่อเจอกับภัยธรรมชาติ ฤดูต่างๆ ที่ผลัดเปลี่ยนตลอดทั้งปีก็เป็นปัจจัยที่ส่งผลให้บ้านเสื่อมโทรมลงได้
ยิ่งช่วงหน้าฝนที่มีทั้งลมฝนและพายุถือเป็นช่วงที่บ้านมีโอกาสจะพังและทรุดโทรมไวอย่างมาก แต่จะดีกว่าไหม? ถ้าเราเตรียมบ้านให้พร้อมรับมือหน้าฝนตั้งแน่เนิ่นๆ เพื่อให้บ้านของเรายังคงสวยอยู่ตลอดไป
วันนี้ SMILE INSURE จึงขอแนะนำวิธีเตรียมพร้อมจัดการปัญหาบ้านพังหน้าฝน อย่างไรให้อยู่หมัด! เพื่อให้บ้านของเราแข็งแรงไม่ทรุดโทรม และไม่พังในช่วงหน้าฝน
3 ปัญหาหลักที่คนมีบ้านต้องพบเจอ
1. ปัญหาน้ำเข้าทางหน้าต่าง-ประตู
มักจะเป็นปัญหาหลังจากการใช้งานจริงไปช่วงหนึ่ง อาจเกิดความเสื่อมของวัสดุโดยเฉพาะไม้ธรรมชาติที่มีการยืดหดตัว หรือปลวกกัดกิน จึงควรหมั่นเฝ้าระวังอยู่เสมอ
วิธีแก้ไข เพิ่มบัวหน้าต่าง และใช้ซิลิโคน หรือกาวพียูทายาแนวรอยต่อ ช่วยป้องกันปัญหาได้
2. ปัญหาน้ำรั่วทางหลังคา
ตรวจสอบบริเวณสันหลังคา หรือสันตะเข้ หากครอบสันหลังคาแตกร้าว หรือมีรอยแตกกะเทาะของปูนใต้ครอบ ให้ซ่อมแซมให้เรียบร้อย การใช้ปูนพอกอุดรอยรั่วมักจะเกิดปัญหาซ้ำ การแก้ไขปัญหาในระยะยาว คือการรื้อครอบหลังคาแล้วเปลี่ยนใหม่
วิธีแก้ไข เปลี่ยนรางน้ำตะเข้ใหม่ตลอดทั้งแนว และตรวจสอบรางตะเข้ใหม่ว่ามีความกว้างและรองรับน้ำได้เพียงพอ
3. ปัญหาฝ้าบวม และขึ้นราจากน้ำรั่วซึมผ่านหลังคา
เป็นการป้องกันปัญหาต่อเนื่องจากส่วนของหลังคา ที่มักส่งผลต่อฝ้าเพดานในบ้านด้วยเช่นกัน ซึ่งลักษณะของการแก้ปัญหาจะแบ่งตามวิธีการติดตั้งฝ้าเป็นหลัก
- ฝ้าเว้นร่อง หรือฝ้าที-บาร์ หากเกิดการบวมน้ำ แตกเสียหาย กรณีนี้ต้องแก้ไขได้โดยการถอดฝ้าแผ่นที่จะเปลี่ยนออก
- ฝ้าฉาบเรียบ กรีด เจาะ แผ่นฝ้าที่เสียหายออก หรือถ้ามีโครงฝ้าจุดที่ต้องเปลี่ยนอยู่แล้วให้ใช้สกรูยึดเข้ากับโครงเดิมได้ จากนั้นใช้ปูนยิปซั่มฉาบแนวรอยต่อ และขัดแต่งรอยต่อด้วยกระดาษทราย แล้วทาสีทับให้เนียนเสมอกันทั้งผืน
อ่านเพิ่มเติม : ไขข้อสงสัย ฝนตกทําให้เป็นหวัดจริงหรือไม่?
7 วิธีเตรียมบ้านให้พร้อมรับหน้าฝน!
1. ตรวจสอบรอยรั่วซึมหลังคาบ้าน
ช่วงฤดูฝน สิ่งแรกที่ต้องทำเลยก็คือ ตรวจสอบหลังคาบ้านของทุกจุด เช็กให้ดีว่ามีรอยรั่วไหม เพื่อจะได้ซ่อมแซมและอุดรูรั่วนั้นให้ทันก่อนจะถึงวันฝนตก และเป็นการป้องกันปัญหาที่จะตามมา เช่น น้ำซึมเข้าบ้าน
2. ตรวจสอบระเบียงกันสาด
กันสาดเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยกันฝนไม่ให้สาดเข้ามาถึงตัวบ้าน เราจึงต้องตรวจสอบกันสาดทั้งบริเวณระเบียงบ้าน และขอบหน้าต่าง เพื่อให้แน่ใจว่ากันสาดของบ้านเรายังไม่ชำรุด ยังสามรถใช้งานได้อยู่
3. ทำความสะอาดท่อและรางน้ำ
ท่อและรางน้ำมักจะเป็นจุดที่มีสิ่งสกปรกเข้าไปอุดตันบริเวณนั้น เช่น เศษดิน ใบไม้ และฝุ่น ทำให้เราต้องทำความสะอาด เพราะหากปล่อยไว้แล้วเกิดฝนตก ก็จะทำให้เกิดคราบสกปรกเกาะผนังบ้านได้
4. เช็กปลั๊กไฟในบ้าน และปลั๊กไฟกลางแจ้ง
เป็นจุดเสี่ยงที่สำคัญมาก เพราะหากเกิดกระแสฟรั่วไหลจะทำให้เกิดอันตรายได้ ทางที่ดีควรเดินระบบไฟในบ้านแยกออกจากส่วนอื่นๆ เพื่อสามารถปิดการใช้งานในช่วงหน้าฝนได้ ก็จะสามารถใช้ระบบไฟในช่วงหน้าฝนได้อย่างปลอดภัย
5. ติดตั้งปั๊มระบายน้ำเสีย
สำหรับบ้านที่มีชั้นใต้ดิน ถือเป็นพื้นที่เสี่ยงที่สุดในช่วงหน้าฝน จึงแนะนำให้เลือกติดตั้งเครื่องปั๊มระบายน้ำเสีย ซึ่งจะช่วยในการระบายน้ำที่เกิดจากฝนตกหนัก เพราะแค่ระบบระบายน้ำปกติระบายไม่ทัน อาจทำให้เกิดน้ำท่วมบ้าน
6. ทาสีย้อมไม้กันน้ำ
สำหรับบ้านที่เป็นบ้านไม้ เมื่อเจอทั้งแดดและฝน จะทำให้ไม้ผุเป็นรอยแตกได้ง่าย และน้ำฝนจะซึมเข้าไปถึงเนื้อไม้ เราควรทาสีย้อมไม้ เพื่อเป็นการเคลือบไม้อีกหนึ่งชั้นให้ไม้สวยงามและยังยืดอายุการใช้งาน ให้ยาวนานขึ้นอีกด้วย
7. เตรียมอุปกรณ์
เตรียมอุกรณ์ให้พร้อมเมื่อเข้าสู่ช่วงหน้าฝน เช่น กระสอบทราย ผ้ายางกันน้ำ เพราะการที่ฝนตกหนักอาจจะทำให้ท่อระบายน้ำไม่ทัน และอาจทำให้ท่วมบ้านของเราได้
วิธีดูแลเฟอร์นิเจอร์ในบ้านช่วงหน้าฝน
เฟอร์นิเจอร์ไม้
เฟอร์นิเจอร์ที่ทำมาจากไม้ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ชั้นวางของ ตู้ มีวิธีดูแลรักษา คือ ปัดฝุ่นออกให้เรียบร้อย แล้วใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดเช็ดทำความสะอาดเครื่องเรือนให้สะอาด
หลังจากนั้นใช้ผ้าแห้งเช็ดซ้ำอีกรอบ หากต้องการความเงางามของเนื้อไม้ให้ใช้น้ำยาขัดเงาไม้ขัดซ้ำ ทิ้งให้แห้ง
ไม้เนื้ออ่อน เช่น ไม้ไผ่ หวาย มักนำมาทำเป็นเช่น โต๊ะ เก้าอี้ เตียงนอน ชั้นวางของ มีวิธีการดูแลรักษาโดย ปัดฝุ่นของเฟอร์นิเจอร์ สะอาด แล้วนำผ้าชุบน้ำบิดหมาดๆ
เช็ดทำความสะอาดให้เรียบร้อยแล้วน้ำผ้าแห้งเช็ดซ้ำอีกรอบ ควรฉีดยาฆ่าแมลงเพื่อป้องกันมอด แล้วนำออกตากแดด
เฟอร์นิเจอร์ประเภทหนัง
เฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้ ถ้าเปียกนํ้าจะทําให้ขึ้นราได้ง่าย และหากโดนน้ำทำให้เกิดกลิ่นอับเหม็น จึงควรทำความสะอาดโดยการใช้แปรงอ่อนๆ ปัดฝุ่นออกจากเฟอร์นิเจอร์ เพื่อให้สิ่งสกปรกออกให้หมดก่อน แล้วให้ใช้ผ้า แปรงขัดหนัง หรือฟองน้ำขัดให้ทั่ว
อ่านเพิ่มเติม : บ้านไม่ได้เสี่ยงพัง ทำไมยังต้องทำประกันบ้าน?
ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นหนังกลับ ให้ทำการปัดฝุ่นออกให้สะอาดโดยใช้ไม้ขนไก่ หรือเครื่องดูดฝุ่น โดยปัดไปในทิศทางเดียวกัน ระวังอย่าให้เกิดความชื้นและความร้อน เพราะจะทำให้เสียรูปทรงได้
เพราะการดูแลบ้านเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก เนื่องจากเราต้องอาศัยอยู่ภายในบ้าน เพราะฉะนั้นเราจึงควรเตรียมวิธีการดูแลรักษาบ้านเพื่อป้องกันปัญหาของบ้านที่อาจจะเกิดในหน้าฝน และควรดูแลบ้านอย่างถูกวิธี เพื่อให้บ้านของเราดูไม่โทรม ไม่เก่า และยังดูแข็งแรง
อ่านเพิ่มเติม : 5 เหตุผลที่คนมีบ้านควรทำประกัน!บ้าน?ต้องทำประกันบ้าน?
นอกจากดูแลบ้าน การทําประกันอัคคีภัยก็เป็นสิ่งสําคัญที่ไม่ควรละเลย เพราะประกันอัคคีภัยจะช่วยคุ้มครองบ้าน ทรัพย์สิน ยิ่งช่วงใกล้หน้าฝนเป็นฤดูที่ค่อนข้างเสี่ยงนํ้าท่วมสูงถ้ามีประกันไว้ก็จะช่วยในเรื่องคุ้มครองนํ้าท่วมด้วย
สิ่งสำคัญ ที่คนมีบ้านต้องมีสิ่งนี้?
ประกันภัยที่อยู่อาศัย เป็นอีก 1 ตัวเลือกที่คนมีบ้านควรจะทำประกันบ้านไว้ เพราะจะช่วยคุ้มครองบ้านที่เราอาศัยอยู่ ยิ่งฤดูฝน สิ่งที่จะตามมาแบบไม่คาดคิดนั้นมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพายุ ลูกเห็บ น้ำท่วม ฯลฯ
ที่ทำให้บ้านสียหายบ้านพัง และประกันบ้านยังคุ้มครอง เฟอร์นิเจอร์รวมไปถึงทรัพย์สินมีค่าภายในบ้านได้ ทำประกันบ้านไว้แม้ตัวอยู่ใกล้บ้านยังไงก็อุ่นใจกว่าเสมอ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน