บ้านมือสอง VS บ้านใหม่ เลือกยังไงดี?
ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน “การซื้อบ้าน” ก็ยังคงเป็นเป้าหมายหมายสูงสุดในชีวิตของคนส่วนใหญ่
แต่ทุกวันนี้ มีบ้านมือสองและบ้านใหม่จากโครงการต่างๆ ให้เลือกซื้อได้มากมาย จนหลายคนอาจตัดสินใจไม่ได้สักทีว่าจะซื้อบ้านแบบไหน เพราะบ้านมือสองทำเลนู้นก็ดี ราคาโซนนี้ก็โดน โครงการใหม่นั้นก็ฮอต
วันนี้ SMILE INSURE เลยมีคำแนะนำดีๆ มาฝากทุกคน รับรองว่าจะช่วยให้เห็นความแตกต่างของบ้านมือสองและบ้านใหม่ได้ชัดเจนมากขึ้น และตัดสินใจซื้อบ้านได้ง่ายขึ้นด้วย
ข้อดีของบ้านมือสองที่ต้องรู้
ซื้อง่าย เพราะราคาขายไม่สูง เมื่อเทียบกับบ้านใหม่ในทำเลเดียวกัน สามารถตกแต่ง หรือรีโนเวทบ้านทั้งหลังได้ตามต้องการ ทำให้ได้บ้านที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร
สามารถเข้าอยู่ได้เลย เพราะบ้านสร้างเสร็จแล้ว และมักจะมีระบบสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า ประปา สัญญาณอินเทอร์เน็ต พร้อมใช้งานอยู่แล้ว
อ่านเพิ่มเติม: 5 เหตุผลที่คนมีบ้านควรทำประกัน!
ผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน สามารถสำรวจ และศึกษาสภาพแวดล้อมรอบๆ บ้านก่อนตัดสินใจซื้อได้ ว่าตรงกับความต้องการมากน้อยแค่ไหน? หรือมีปัญหาอะไรบ้าง?
เช่น เพื่อนบ้าน การเดินทาง การจัดเก็บขยะ แหล่งมั่วสุม การคัดกรองบุคคลภายนอก การทำงานของรปภ.และนิติบุคคล การระบายน้ำในช่วงหน้าฝน เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติม: รวยไม่เลิก! 8 ทริคจัดบ้านเสริมฮวงจุ้ยให้ดวงสุดปัง
สะดวกสบาย ใช้ชีวิตได้ง่าย เพราะบ้านมือสองส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในแหล่งชุมชน ที่ใกล้กับแหล่งสำคัญต่างๆ เช่น ตลาด โรงเรียน ห้างสรรพสินค้า คลินิก สถานพยาบาล เป็นต้น
ได้รับวงเงินกู้สูงไม่ต่างจากบ้านมือหนึ่ง
ซึ่งบางครั้งอาจสูงกว่าราคาขายของบ้าน ทำให้ผู้กู้ยังเหลืองบประมาณสำหรับตกแต่งบ้านเพิ่มเติม ข้อตกลงในการซื้อขาย มีความยืดหยุ่นสูง เพราะส่วนใหญ่เจ้าของบ้านเดิมจะเป็นผู้ขายเอง ดังนั้นหลายๆ อย่างจึงสามารถต่อรองได้ ไม่ว่าจะเป็นการลดราคาค่าบ้าน ค่าใช้จ่ายวันโอน หรือค่าภาษี
อ่านเพิ่มเติม: 7 เรื่องสำคัญ ที่คนอยากซื้อบ้านใหม่ต้องรู้!
ข้อด้อยของบ้านมือสอง
ตัวบ้านผ่านการใช้งานมาแล้ว แม้ภายนอกจะยังดูสวยงามอยู่ แต่โครงสร้างภายในที่มองไม่เห็น อาจเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา ดังนั้น ผู้ซื้อจึงควรเผื่องบประมาณในการซ่อมแซมไว้ด้วย
บ้านมือสองอาจสร้างความไม่สบายใจให้ผู้อยู่อาศัยได้ เพราะไม่สามารถรู้ประวัติเดิมของบ้านได้อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะกับบ้านที่อาจผ่านมือเจ้าของมาแล้วหลายคน หรือเจ้าของเดิมตั้งใจไม่พูดความจริง เช่น ตัวบ้านตั้งอยู่บนพื้นที่ที่อาจโดนเวนคืน เคยมีคนเสียชีวิตภายในบ้าน เป็นต้น
อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัว และการสร้างความสัมพันธ์กับคนรอบข้างมากสักหน่อย เพราะบ้านมือสองมักจะอยู่ในแหล่งชุมชนที่เพื่อนบ้านสนิทกันอยู่แล้ว หรือมีลักษณะการใช้ชีวิตบางอย่างที่ค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์
สอบถามเพิ่มเติม ทักแชทมาได้เลยนะคะ
ไม่สามารถผ่อนค่าดาวน์บ้านเหมือนการซื้อบ้านใหม่ได้
บางครั้งข้อตกลงในการซื้อขายที่ยืดหยุ่นเกินไป อาจทำให้ผู้ซื้อเสียเปรียบกว่าผู้ขาย เช่น ผู้ขายอาจลดราคาค่าบ้านให้ แต่แลกกับการที่ผู้ซื้อจะต้องจ่ายค่าภาษีเงินได้ให้ผู้ขาย ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ค่าภาษีเงินได้ในส่วนนี้ ผู้ขายบ้านจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบเอง
ข้อดีของบ้านใหม่ในโครงการ
มีแบบบ้านให้เลือกซื้อได้เยอะ โดยไม่จำเป็นต้องเผื่องบเพื่อรีโนเวทเหมือนการซื้อบ้านมือสอง ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องโครงสร้างบ้าน เพราะทุกอย่างถูกสร้างขึ้นมาใหม่ และสามารถตรวจสอบโครงสร้างบ้านอย่างละเอียดก่อนการรับมอบบ้านได้
สามารถเลือกซื้อได้มั่นใจ และถูกใจมากขึ้น เพราะหาข้อมูลเปรียบเทียบโครงการต่างๆ ได้ง่าย ทั้งในเรื่องความน่าเชื่อถือของโครงการ และรีวิวจากลูกบ้านต่างโครงการ
บ้านใหม่มักจะมาพร้อมสภาพแวดล้อมใหม่ ไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านที่สร้างขึ้นใหม่ นิติบุคคลชุดใหม่ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย
โครงการบ้านมักจะมีโปรโมชั่นน่าสนใจออกมาดึงดูดลูกค้า เช่น ลดดอกเบี้ย ฟรีค่าโอน ฟรีค่าส่วนกลางในช่วงแรก ลดราคาค่าบ้าน แถมฟรีชุดเฟอร์นิเจอร์ มอบสิทธิ์ลุ้นรับของขวัญพิเศษ เป็นต้น
ข้อด้อยของบ้านใหม่
เมื่อเทียบกับบ้านมือสองในทำเลเดียวกัน บ้านใหม่จะราคาสูงกว่ามาก ซึ่งถ้าอยากซื้อบ้านใหม่ ในราคาไม่สูง อาจต้องดูเป็นทำเลชานเมือง
ไม่สามารถตกแต่ง หรือต่อเติมบ้านได้อย่างอิสระ เพราะเจ้าของโครงการ หรือนิติบุคคล มักจะมีข้อกำหนดในการควบคุมดูแล เช่น ต้องวางเงินค้ำประกันเมื่อจะทำการต่อเติมบ้าน
ไม่สามารถเข้าอยู่ได้ทันที เพราะต้องรอโครงการสร้างบ้านให้เสร็จก่อน และต้องเผื่อเวลาในการตรวจบ้านก่อรับมอบ หรือบางโครงการที่ใหม่มากๆ อาจต้องใช้เวลาในการวางระบบสาธารณูปโภคก่อน
บ้านมือสอง VS บ้านใหม่ เลือกยังไงดี?
ถ้ารู้ข้อดี-ข้อด้อยของบ้านมือสองและบ้านใหม่แล้ว แต่ยังตัดสินใจไม่ได้อยู่ดี ว่าจะซื้อบ้านแบบไหน เราแนะนำให้นำข้อดี-ข้อด้อยของบ้านทุกหลังที่สนใจ มาเปรียบเทียบตามปัจจัยด้านล่างนี้ด้วย เพื่อให้ตัดสินใจเลือกบ้านได้ถูกต้อง และถูกใจ
เลือกบ้านจากความต้องการของตัวเองและคนในครอบครัว
อย่างแรกที่ควรนำมาตัดสินใจ คือ ความต้องการของผู้อยู่อาศัย เพราะถ้าทำเลดี ราคาดี แต่ตัวบ้านไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการ ก็จะทำให้ไม่มีความสุขในระยะยาว เช่น สมาชิกในครอบครัวมีรถยนต์ 2 คัน
ดังนั้นบ้านที่ตอบโจทย์ได้ดีที่สุด คือต้องสามารถจอดรถในบ้านได้ 2 คัน เพราะถ้าเลือกบ้านที่จอดรถในบ้านได้ 1 คัน และต้องจอดหน้าบ้านอีก 1 คัน อาจกีดขวางพื้นที่ส่วนรวม และมีปัญหากับเพื่อนบ้านได้
เลือกบ้านจากงบประมาณ
เมื่อรู้แล้วว่าความต้องการของตัวเองและครอบครัวคืออะไร ต่อมาคือการตั้งงบประมาณที่สามารถซื้อได้ คือ เมื่อหักค่าใช้จ่ายประจำรายเดือนแล้ว ต้องสามารถผ่อนจ่ายค่าบ้านได้แบบไม่ตึงมือ ตลอดระยะเวลา 20 ปีขึ้นไป
อ่านเพิ่มเติม: รู้ไว้ก่อนตัดสินใจซื้อ! บ้านน็อคดาวน์ทําประกันได้ไหม?
เลือกบ้านจากไลฟ์สไตล์
นอกจากนั้น ก็ควรดูเรื่องไลฟ์สไตล์ของคนในบ้านด้วย เพราะแต่ละคนชอบไม่เหมือนกัน เช่น บางคนชื่นชอบการเข้าสังคม ชอบการเที่ยวกลางคืน แต่บางคนอาจชอบใช้ชีวิตเรียบง่าย อยากอยู่ท่ามกลางความสงบ
เลือกบ้านจากโอกาสในการทำกำไรในอนาคต
สำหรับใครที่อยากสร้างกำไรในอนาคต ก็ควรศึกษาโอกาสการเติบโตของย่านที่อยู่อาศัยนั้นด้วย เช่น การสร้างรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย การพัฒนาเป็นย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติม: จริงหรือไม่? กู้ซื้อบ้านต้องทําประกันด้วย
อย่ามองข้ามการทำประกันบ้าน
แต่สุดท้ายนี้ ไม่ว่าคุณจะเลือกซื้อบ้านมือสอง หรือบ้านใหม่ ก็อย่าลืมให้ความสำคัญกับการทำประกันบ้าน หรือประกันอัคคีภัย เพื่อเพิ่มความอุ่นใจให้ทุกคนในครอบครัว เพราะประกันจะให้ความคุ้มครองบ้าน และทรัพย์สินภายในบ้าน จากอุบัติเหตุต่างๆ ได้มากมาย ได้แก่
- ไฟไหม้ ฟ้าผ่า (รวมถึงความเสียหายต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เกิดจากการลัดวงจรจากฟ้าผ่า)
- ระเบิด ภัยจากการเฉี่ยว และหรือการชนของยานพาหนะ หรือสัตว์พาหนะ เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย เป็นต้น
- ภัยจากอากาศยาน และหรือวัตถุที่ตกจากอากาศยาน รวมถึงจรวดซึ่งขับเคลื่อนด้วยตัวเองและยานอวกาศ ยกเว้นจรวดที่เป็นอาวุธ
- ภัยเนื่องจากน้ำ อันเกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุจากการปล่อย การรั่วไหล หรือการล้นออกมาของน้ำหรือไอน้ำจากท่อน้ำ ถังน้ำ ระบบทำความร้อน ระบบทำความเย็น ระบบปรับอากาศ เครื่องสูบน้ำ และรวมถึงน้ำฝนที่ไหลผ่านเข้าไปภายในอาคาร จากการเสียหายของหลังคา หน้าต่าง ประตู วงกบประตูหน้าต่าง ช่องลม ช่องรับแสงสว่าง ท่อน้ำหรือรางน้ำ
- ภัยจากลมพายุ
- ภัยจากน้ำท่วม หมายถึง น้ำซึ่งไหลล้นหรือไหลออกจากทางน้ำปกติซึ่งจะเป็นทางน้ำธรรมชาติ หรือจะเป็นทางน้ำที่สร้างขึ้นก็ดี (ไม่รวมถึงรางน้ำบนหลังคา) หรือเกิดจากท่อน้ำสาธารณะแตก ทำให้เกิดการท่วมของน้ำจากภายนอกของอาคารที่เอาประกันภัยไว้ หรืออาคารที่เก็บทรัพย์สินที่เอาประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ รวมถึงน้ำท่วมอันเกิดจากลมพายุ น้ำป่า และโคลนถล่ม
- ภัยจากแผ่นดินไหว หรือภูเขาไฟระเบิด หรือคลื่นใต้น้ำ หรือสึนามิ ที่มีสาเหตุจากธรรมชาติ และให้หมายความรวมถึงน้ำท่วม อันมีสาเหตุจากแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟระเบิดที่มีสาเหตุจากธรรมชาติ ทั้งนี้ ไม่คุ้มครองความเสียหายโดยตรงหรือโดยทางอ้อมที่เกิดจากภัยแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟระเบิดอันเกิดจากวัตถุใดๆ จากอวกาศ
- ภัยจากลูกเห็บ ให้หมายความรวมถึง น้ำฝน น้ำค้างแข็ง หิมะ ทราย หรือ ฝุ่นละอองดังกล่าวไหลผ่านเข้าไปในอาคาร ตามร่องแตกร้าวของอาคาร สิ่งปลูกสร้างที่ได้รับความเสียหายอันเกิดจากลูกเห็บโดยตรงเท่านั้น หรือน้ำจากเครื่องพรมน้ำหรือท่อน้ำอื่นๆ ที่เกิดเสียหายขึ้นเนื่องจากลูกเห็บโดยตรง
*ความคุ้มครองเป็นไปตามเงื่อนไขของแต่ละบริษัทประกัน
สำหรับการทำประกันบ้าน หรือประกันอัคคีภัย เจ้าของบ้านสามารถศึกษาข้อมูล และซื้อประกันออนไลน์ได้ง่ายๆ ผ่านโบรกเกอร์ชั้นนำที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)