“บ้าน” เป็นทรัพย์สินมูลค่าสูง ที่คนส่วนใหญ่เลือกผ่อนจ่ายระยะยาวหลายสิบปี ดังนั้นเมื่อซื้อบ้านใหม่ทั้งที หลายคนจึงเลือกที่จะทำประกันด้วย เพื่อเพิ่มความคุ้มครอง และช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในยามเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน 

เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม แผ่นดินไหว เหตุระเบิด เป็นต้น แต่สำหรับใครที่กำลังจะซื้อบ้านใหม่ แต่ยังไม่รู้ว่าควรทำประกันอะไรบ้าง? SMILE INSURE ชวนมาหาคำตอบกับบทความนี้

ประกันที่ควรทำเมื่อซื้อบ้านใหม่

เมื่อซื้อบ้านใหม่แล้ว ประกันที่ควรทำมากที่สุดก็คือ “ประกันบ้าน” เพราะเป็นประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งตัวบ้าน และทรัพย์สินอื่นๆ ภายในบ้านด้วย ดังนั้นถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมา 

โดยเฉพาะในเวลาที่คุณยังผ่อนบ้านไม่หมด ประกันบ้านก็จะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้ ซึ่งทำให้เจ้าของบ้านไม่เสียสภาพคล่องทางการเงิน และมีเงินเหลือไปใช้จ่ายในส่วนอื่นๆ

อ่านเพิ่มเติม: น้ำท่วมบ้าน! ประกันแบบไหนคุ้มครองบ้าง?

อย่างไรก็ตาม ถ้าทำเรื่องกู้ซื้อบ้านผ่านธนาคาร ธนาคารก็จะกำหนดให้ผู้กู้ต้องทำประกันบ้านอยู่แล้ว เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงด้านการชำระหนี้ที่อาจเกิดขึ้น แต่ผู้กู้สามารถเลือกแผนประกัน 

และบริษัทประกันได้ตามความต้องการ (ภายใต้เงื่อนไขที่ธนาคารกำหนด) ไม่จำเป็นต้องทำประกันบ้านของธนาคารนั้นๆ เสมอไป 

อ่านเพิ่มเติม: อยู่คอนโด จำเป็นต้องทำประกันอัคคีภัยหรือไม่?

นอกจากนี้ ผู้กู้ซื้อบ้านกับธนาคารยังสามารถทำประกันอื่นๆ เพิ่มเติมได้อีก เช่น ประกันชีวิตที่มีวงเงินครอบคลุมราคาบ้าน เพื่อสร้างความมั่นใจให้คนในครอบครัวว่า

หากเกิดเหตุร้ายกับตัวผู้กู้จนถึงขั้นเสียชีวิต หนี้สินก็จะไม่ตกไปถึงบุคคลอื่น เพราะวงเงินประกันเพียงพอกับการจ่ายหนี้ที่เหลืออยู่

ประกันบ้านคุ้มครองกรณีไหนบ้าง? 

ประกันบ้าน หรือชื่อเต็มว่า “ประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย” จะให้ความคุ้มครองบ้าน และทรัพย์สินภายในบ้าน จากเหตุการณ์เหล่านี้

• ไฟไหม้ รวมถึงไฟไหม้ป่า พุ่มไม้ พงรก และการเผาป่าเพื่อปราบพื้นที่

• ฟ้าผ่า (รวมถึงความเสียหายต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เกิดจากการลัดวงจรจากฟ้าผ่า)

• การระเบิดทุกชนิด

• ภัยเนื่องจากน้ำ อันเกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุจากการปล่อยการรั่วไหล หรือการล้นออกมาของน้ำหรือไอน้ำ จากท่อน้ำ ถังน้ำ ระบบทำความร้อน ระบบทำความเย็น ระบบปรับอากาศ เครื่องสูบน้ำ รวมถึงน้ำฝนที่ไหลผ่านเข้าไปภายในอาคารจากการเสียหายของหลังคา หน้าต่าง ประตู วงกบประตูหน้าต่าง ช่องลม ช่องรับแสงสว่าง ท่อน้ำหรือรางน้ำ

อ่านเพิ่มเติม: 7 เรื่องสำคัญ ที่คนอยากซื้อบ้านใหม่ต้องรู้!

• ภัยจากน้ำท่วม หมายถึง น้ำซึ่งไหลล้นหรือไหลออกจากทางน้ำปกติซึ่งจะเป็นทางน้ำธรรมชาติ หรือจะเป็นทางน้ำที่สร้างขึ้น (ไม่รวมรางน้ำบนหลังคา) หรือเกิดจากท่อน้ำสาธารณะแตก ทำให้เกิดการท่วมของน้ำจากภายนอกของอาคารที่เอาประกันภัยไว้ หรืออาคารที่เก็บทรัพย์สินที่เอาประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ รวมถึงน้ำท่วมอันเกิดจากลมพายุ น้ำป่า และโคลนถล่ม

• ภัยจากลมพายุ

• ภัยจากการเฉี่ยว และหรือการชนของยานพาหนะหรือสัตว์พาหนะ เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย เป็นต้น

• ภัยจากอากาศยาน และหรือวัตถุที่ตกจากอากาศยาน รวมถึงจรวด ซึ่งขับเคลื่อนด้วยตัวเองและยานอวกาศยกเว้นจรวดที่เป็นอาวุธ

อ่านเพิ่มเติม: รู้ไว้ก่อนตัดสินใจซื้อ! บ้านน็อคดาวน์ทําประกันได้ไหม?

• ภัยจากแผ่นดินไหว หรือภูเขาไฟระเบิด หรือคลื่นใต้น้ำ หรือสึนามิ ที่มีสาเหตุจากธรรมชาติ และให้หมายความรวมถึงน้ำท่วม อันมีสาเหตุจากแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟระเบิด ที่มีสาเหตุจากธรรมชาติ ทั้งนี้ไม่คุ้มครองความเสียหายโดยตรงหรือโดยทางอ้อม ที่เกิดจากภัยแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟระเบิดอันเกิดจากวัตถุใดๆ จากอวกาศ

• ภัยจากลูกเห็บ ให้หมายความรวมถึง น้ำฝน น้ำค้างแข็ง หิมะ ทราย หรือ ฝุ่นละอองดังกล่าวไหลผ่านเข้าไปในอาคาร ตามร่องแตกร้าวของอาคาร สิ่งปลูกสร้างที่ได้รับความเสียหายอันเกิดจากลูกเห็บโดยตรงเท่านั้น หรือน้ำจากเครื่องพรมน้ำหรือท่อน้ำอื่นๆ ที่เกิดเสียหายขึ้นเนื่องจากลูกเห็บโดยตรง

*เงื่อนไขความคุ้มครองขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละบริษัทประกัน 

ต้องเลือกประกันบ้านอย่างไรถึงจะดี? 

สำหรับวิธีการเลือกประกันบ้านให้ดี และคุ้มค่ามากที่สุด คือ เลือกให้ตรงกับความต้องการของผู้อยู่อาศัย โดยดูว่าตนเองและคนในครอบครัวต้องการความคุ้มครองในกรณีไหนบ้าง 

และควรเลือกให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมของบ้านด้วย เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้เปรียบเทียบแผนประกันจากบริษัทต่างๆ และตัดสินใจทำประกัน

เช่น ถ้าบ้านที่เพิ่งซื้อเป็นบ้านมือสอง แม้ภายนอกจะยังดูสวยเหมือนใหม่ แต่ก็อาจมีความเสี่ยงที่ท่อน้ำประปาในจุดที่ตามองไม่เห็นจะรั่วซึมได้ ดังนั้นประกันที่จะตรงกับความต้องการมากที่สุดก็ต้องมีการระบุว่าให้ความคุ้มครองภัยเนื่องจากน้ำ เป็นต้น

รวมถึงควรเลือกประกันบ้านที่เหมาะสมกับงบประมาณที่มี เพราะประกันบ้านเป็นประกันระยะสั้นประมาณ 1-3 ปีเท่านั้น ถ้าอยากให้บ้านได้รับความคุ้มครองต่อเนื่อง ก็ต้องทำประกันเรื่อยๆ 

ดังนั้นถ้าคุณอยากจ่ายค่าเบี้ยแบบสบายๆ ไม่ต้องกู้หนี้ยืมสินให้เป็นภาระเพิ่มเติม ก็ควรเลือกแผนประกันที่มีค่าเบี้ยไม่เกินงบที่ตั้งไว้ 

ประกันที่ควรทำเมื่อซื้อบ้านใหม่ คือ ประกันบ้าน หรือประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย เพื่อเป็นตัวช่วยเพิ่มความอุ่นใจให้ผู้อยู่อาศัย แต่ก็สามารถทำประกันประเภทอื่นเพิ่มเติมได้อีก เพื่อลดความเสี่ยงในด้านต่างๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการผ่อนจ่ายค่าบ้าน 

สอบถามเพิ่มเติม ทักแชทมาได้เลยนะคะ

อย่างไรก็ตาม “ประกันบ้าน” ไม่ได้ให้ความคุ้มครองแค่กับบ้านเดี่ยว หรือบ้านแฝดเท่านั้น เพราะยังให้ความคุ้มครองที่อยู่อาศัยรูปแบบอื่นๆ ด้วย เช่น ทาวน์เฮ้าส์ ตึกแถวสำหรับอยู่อาศัย คอนโดมิเนียม ฯลฯ 

ดังนั้นไม่ว่าคุณจะซื้อบ้านใหม่ คอนโดใหม่ หรือที่อยู่อาศัยในรูปแบบไหน ก็ทำประกันบ้านได้ และควรทำด้วย เพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝันนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา 

ขอบคุณข้อมูลจาก

• สมาคมประกันวินาศภัย