เมื่อฤดูฝนตกหนัก น้ำท่วมสูงวนมาถึง “ประกันบ้าน” ก็เป็นสิ่งที่ใครหลายคนพูดถึง และต้องการ เพราะรู้มาว่า สามารถช่วยคุ้มครองความเสียหายจากน้ำท่วมบ้านได้    

แต่ทุกวันนี้มีประกันบ้านให้เลือกซื้อได้เยอะมาก ไม่รู้ว่าประกันแบบไหนที่จะคุ้มครองกรณีน้ำท่วมบ้านได้? และประกันที่ซื้อไว้แล้วจะใช้ได้ไหม? 

ใครที่สงสัยในเรื่องนี้อยู่ วันนี้ SMILE INSURE มีข้อมูลดีๆ มาฝากทุกคนกันอีกแล้ว

ประกันบ้านมีกี่ประเภท?

หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า “ประกันบ้าน” ที่เราเรียกกันติดปากอย่างทุกวันนี้ ไม่ได้มีแค่ประเภทเดียว เพราะข้อมูลจากสมาคมประกันวินาศภัยไทยระบุไว้ว่า ประกันบ้านนั้นมี 2 ประเภท

1. ประกันอัคคีภัยทั่วไป 

ประกันอัคคีภัยที่เหมาะกับสถานที่มีไว้ประกอบการทำธุรกิจโดยเฉพาะ เพราะมีเงื่อนไขความคุ้มครองที่ค่อนข้างจำกัด คือ ให้ความคุ้มครองอาคารและสิ่งปลูกสร้าง (ไม่รวมฐานราก) ที่ใช้เป็นที่ประกอบกิจการต่างๆ 

เช่น ร้านค้า โกดัง โรงงาน เป็นต้น รวมถึงทรัพย์สินที่ถูกระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันอัคคีภัยนั้น เช่น เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์สำนักงาน เครื่องใช้ไฟฟ้า สต๊อกสินค้า เครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตสินค้า ฯลฯ จากเหตุการณ์เหล่านี้ 

อ่านเพิ่มเติม: บ้านมือสอง VS บ้านใหม่ เลือกยังไงดี?

• ไฟไหม้ แต่ไม่รวมถึงการระเบิดอันเป็นผลมาจากไฟไหม้ (เว้นแต่แรงระเบิดของแก๊สใช้สำหรับทำแสงสว่างหรือประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัย) ความเสียหายโดยตรงหรือโดยอ้อมจากแผ่นดินไหว ความเสียหายต่อทรัพย์สินที่เอาประกันภัยที่เกิดจากการบูดเน่า การระอุตามธรรมชาติ หรือการลุกไหม้ขึ้นเอง และในระหว่างกรรมวิธีใด ๆ ซึ่งใช้ความร้อนหรือการทำให้แห้ง

• ฟ้าผ่า

• การระเบิดของแก๊สที่ใช้สำหรับทำแสงสว่างหรือประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัยเท่านั้น ยกเว้นการระเบิดของแก๊สเนื่องจากภัยแผ่นดินไหว

แต่ทั้งนี้ สามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมในด้านอื่นๆ เพิ่มเติมได้อีก เช่น ภัยแผ่นดินไหว ภัยน้ำท่วม ภัยจากลูกเห็บ ภัยนัดหยุดงาน การจลาจลและการกระทำอันมีเจตนาร้าย ภัยต่อเครื่องไฟฟ้า เป็นต้น

2. ประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย

ประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย หรือที่รู้จักกันในชื่อ “ประกันอัคคีภัยบ้าน” เป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองมากกว่าประกันอัคคีภัยทั่วไป คือ คุ้มครองที่อยู่อาศัยรูปแบบต่างๆ 

อ่านเพิ่มเติม: รู้ไว้ก่อนตัดสินใจซื้อ! บ้านน็อคดาวน์ทําประกันได้ไหม?

เช่น บ้าน ทาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด ตึกแถวสำหรับอยู่อาศัย ห้องชุดสำหรับอยู่อาศัยในแฟลต อาคารชุด คอนโดมิเนียม ฯลฯ รวมถึงทรัพย์สินภายในสิ่งปลูกสร้างด้วย เช่น เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ภายในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน เครื่องครัว เครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น 

โดยประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย จะคุ้มครองที่อยู่อาศัย และทรัพย์สินจากเหตุการณ์ต่อไปนี้

• ไฟไหม้ รวมถึงไฟไหม้ป่า พุ่มไม้ พงรก และการเผาป่าเพื่อปราบพื้นที่

• ฟ้าผ่า (รวมถึงความเสียหายต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เกิดจากการลัดวงจรจากฟ้าผ่า)

• การระเบิดทุกชนิด

• ภัยเนื่องจากน้ำ อันเกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุจากการปล่อยการรั่วไหล หรือการล้นออกมาของน้ำหรือไอน้ำ จากท่อน้ำ ถังน้ำ ระบบทำความร้อน ระบบทำความเย็น ระบบปรับอากาศ เครื่องสูบน้ำ รวมถึงน้ำฝนที่ไหลผ่านเข้าไปภายในอาคารจากการเสียหายของหลังคา หน้าต่าง ประตู วงกบประตูหน้าต่าง ช่องลม ช่องรับแสงสว่าง ท่อน้ำหรือรางน้ำ

• ภัยจากน้ำท่วม หมายถึง น้ำซึ่งไหลล้นหรือไหลออกจากทางน้ำปกติซึ่งจะเป็นทางน้ำธรรมชาติ หรือจะเป็นทางน้ำที่สร้างขึ้น (ไม่รวมรางน้ำบนหลังคา) หรือเกิดจากท่อน้ำสาธารณะแตก ทำให้เกิดการท่วมของน้ำจากภายนอกของอาคารที่เอาประกันภัยไว้ หรืออาคารที่เก็บทรัพย์สินที่เอาประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ รวมถึงน้ำท่วมอันเกิดจากลมพายุ น้ำป่า และโคลนถล่ม

สอบถามเพิ่มเติม ทักแชทมาได้เลยนะคะ

• ภัยจากลมพายุ

• ภัยจากการเฉี่ยว และหรือการชนของยานพาหนะหรือสัตว์พาหนะ เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย เป็นต้น

• ภัยจากอากาศยาน และหรือวัตถุที่ตกจากอากาศยาน รวมถึงจรวด ซึ่งขับเคลื่อนด้วยตัวเองและยานอวกาศยกเว้นจรวดที่เป็นอาวุธ

• ภัยจากแผ่นดินไหว หรือภูเขาไฟระเบิด หรือคลื่นใต้น้ำ หรือสึนามิ ที่มีสาเหตุจากธรรมชาติ และให้หมายความรวมถึงน้ำท่วม อันมีสาเหตุจากแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟระเบิด ที่มีสาเหตุจากธรรมชาติ ทั้งนี้ไม่คุ้มครองความเสียหายโดยตรงหรือโดยทางอ้อม ที่เกิดจากภัยแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟระเบิดอันเกิดจากวัตถุใดๆ จากอวกาศ

• ภัยจากลูกเห็บ ให้หมายความรวมถึง น้ำฝน น้ำค้างแข็ง หิมะ ทราย หรือ ฝุ่นละอองดังกล่าวไหลผ่านเข้าไปในอาคาร ตามร่องแตกร้าวของอาคาร สิ่งปลูกสร้างที่ได้รับความเสียหายอันเกิดจากลูกเห็บโดยตรงเท่านั้น หรือน้ำจากเครื่องพรมน้ำหรือท่อน้ำอื่นๆ ที่เกิดเสียหายขึ้นเนื่องจากลูกเห็บโดยตรง

หมายเหตุ เงื่อนไขความคุ้มครองขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละบริษัทประกัน 

ประกันอัคคีภัยแบบไหนที่คุ้มครองกรณีน้ำท่วมบ้าน?

แต่ถ้าถามว่า สรุปแล้วประกันแบบไหนคุ้มครองกรณีน้ำท่วมบ้านบ้าง? ก็ตอบได้ว่า “ทุกประเภทที่กล่าวมา ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในกรมธรรม์” เพราะประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย ให้ความคุ้มครองภัยจากน้ำท่วมอยู่แล้ว ส่วนประกันอัคคีภัยแบบทั่วไป 

ถ้าได้ซื้อความคุ้มครองภัยน้ำท่วมเพิ่มเติมไว้ ก็จะให้ความคุ้มครองในเรื่องนี้ด้วยเหมือนกัน 

เพราะฉะนั้น เจ้าของบ้านหรือเจ้าของสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ควรอ่านและทำความเข้าใจรายละเอียดความคุ้มครองที่ปรากฎอยู่ในกรมธรรม์ให้ครบถ้วน ทั้งก่อนและหลังตัดสินใจทำประกัน เพื่อไม่ให้พลาดในจุดสำคัญ เมื่อต้องเจอกับน้ำท่วมบ้าน

แต่ถ้าถามว่าประกันแบบไหนที่คุ้มค่าสำหรับกรณีน้ำท่วมบ้านมากที่สุด? ก็คงไม่พ้นประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัย เพราะสามารถให้ความคุ้มครองภัยน้ำท่วมได้ทันที โดยไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อความคุ้มครองนี้เพิ่มเติมอีก 

เรียกได้ว่าจ่ายครั้งเดียวก็ได้รับความคุ้มครองที่ครบถ้วนแล้ว

ขั้นตอนการเคลมประกันอัคคีภัย

แต่ไม่ว่าบ้านคุณจะทำประกันอัคคีภัยแบบไหนไว้ ถ้าเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมหนัก จนทำให้บ้าน และทรัพย์สินได้รับความเสียหาย ก็จะมีขั้นตอนการเคลมประกันที่เหมือนกัน ดังนี้

1. เมื่อน้ำท่วมบ้าน ให้เจ้าของบ้านติดต่อบริษัทประกันทันที เพื่อแจ้งเหตุการณ์และความเสียหายที่เกิดขึ้น 

2. เก็บหลักฐานความเสียหายให้ครบถ้วน ด้วยการถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ จดบันทึกเหตุการณ์ และจัดเก็บสิ่งของที่เกิดความเสียหายไว้จนกว่าเจ้าหน้าที่ประกันหรือผู้ที่เกี่ยวข้องจะมาถึง 

3. รอเจ้าหน้าที่ประกันเข้ามาประเมินความเสียหาย (กรณีเป็นอุบัติเหตุรุนแรง จำเป็นต้องให้เจ้าหน้าที่ของบริษัทประกันเข้ามาตรวจสอบเอง)

อ่านเพิ่มเติม: จริงหรือไม่? กู้ซื้อบ้านต้องทําประกันด้วย

4. ให้ช่างหรือผู้รับเหมาประเมินราคาความเสียหาย (กรณีเป็นอุบัติเล็กน้อย ซึ่งบริษัทประกันแจ้งให้เจ้าของบ้านดำเนินการหาช่างหรือผู้รับเหมาเองได้) 

5. เตรียมเอกสารสำคัญตามที่บริษัทประกันร้องขอ เช่น หนังสือเรียกร้องของผู้เอาประกัน สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของผู้เอาประกัน ภาพถ่ายหรือวิดีโอที่แสดงถึงความเสียหาย ใบเสนอราคาหรือใบเสร็จค่าซ่อมของผู้รับเหมา 

สำเนาบันทึกประจำวันของเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ (เฉพาะกรณีที่ต้องมีการแจ้งความ) หนังสือยอมรับผิดของบุคคลภายนอก (เฉพาะกรณีที่เกิดความเสียหายจากการกระทำของบุคคลอื่น) เป็นต้น และจัดส่งเอกสารดังกล่าวให้กับบริษัทประกันภัย

6. รอรับค่าสินไหมทดแทนตามช่องทางที่ได้ตกลงไว้กับบริษัทประกัน 

อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นประกันอัคคีภัยสำหรับคนพักอาศัยในคอนโด หรือที่เรียกว่าประกันคอนโด เจ้าของคอนโดจะต้องแจ้งนิติบุคคลคอนเป็นขั้นตอนแรกสุด แล้วค่อยดำเนินการในเรื่องอื่นๆ ต่อ 

เพราะนิติบุคคลมีหน้าที่ในการดูแลคอนโดนั้นๆ และส่วนใหญ่ คอนโดใหม่มักจะมีการทำประกันอัคคีภัยเพื่อรับผิดชอบความเสียหายของลูกบ้านในภาพรวมไว้อยู่แล้ว ซึ่งอาจมีเงื่อนไขบางอย่างที่ร่วมรับผิดชอบในกรณีน้ำท่วมคอนโดด้วย 

ดังนั้น ถ้าคุณอยู่อาศัยในคอน แล้วเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมคอนโด อย่าลืมแจ้งความเสียหายกับทั้งนิติบุคคลคอนโด และบริษัทประกันอัคคีภัยของตนเอง เพื่อให้ได้รับการชดเชยที่ครบถ้วน

หวังว่าหลังจากอ่านบทความนี้จะทำให้ทุกคนรู้แล้วว่า ประกันแบบไหนบ้างที่คุ้มครองบ้านจากภัยน้ำท่วม และสามารถเคลมประกันได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม 

แต่ถ้าวันนี้ใครยังไม่มีประกันบ้าน อย่ารอช้าที่จะปรึกษาติดต่อ SMILE INSURE 

ขอบคุณข้อมูลจาก

• สมาคมประกันวินาศภัย