บทความ | สาระน่ารู้อื่นๆ

เอาตัวรอดยังไง? เมื่อเบรกแตก

เอาตัวรอดยังไง? เมื่อเบรกแตก
17/06/2020  สาระน่ารู้อื่นๆ

เอาตัวรอดยังไง? เมื่อเบรกแตก

อุบัติเหตุบนท้องถนนที่นึกถึงแล้วขนหัวลุกอยู่บ่อยๆ คงหนีไม่พ้น “เบรกแตก” ถึงเหตุการณ์ “เบรกแตก” จะดูเกิดขึ้นได้ยาก แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันมักเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาค่ะ ถ้าวันหนึ่งมันเกิดขึ้นกับเรา เราจะรับมือและแก้ปัญหายังไง? วันนี้ Smile Insure ได้รวบรวมวิธีเอาตัวรอดเมื่อเบรกแตกมาให้ทุกคนได้เตรียมตัวรับมือ เรียนรู้วิธีป้องกันแล้วค่ะ

เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ต้องใจเย็นแล้วตั้งสติก่อนเลยนะคะ จากนั้นทำตามวิธีดังนี้

1. ลดคันเร่ง/ลดความเร็ว

สิ่งที่เราจะทำนั้นเรียกว่า ‘Engine Brake’ ค่ะ คือการหน่วงเครื่องยนต์ให้ความเร็วลดลงโดยการยกเท้าออกจากคันเร่ง จากนั้นลดตำแหน่งเกียร์ลง แล้วใช้วิธีกดปุ่ม Overdrive On หรือเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์จาก D มาเป็น 3 และลดต่ำลงมาเรื่อยๆ  วิธีนี้จะช่วยลดความเร็วอย่างกะทันหัน ทำให้เครื่องยนต์เกิดความหน่วง แต่อย่าลืมนะคะว่าเครื่องยนต์มักมีแรงเสียดทาน เราต้องใช้ให้เป็นประโยชน์นะทุกคน แต่ในรถหรูบางยี่ห้อจะมีระบบ Pre-Safe เพื่อตรวจพบว่ารถของคุณกำลังเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ระบบจะตึงเข็มขัดนิรภัยคู่หน้า และยืดหมอนรองศีรษะพร้อมสำหรับอุบัติเหตุ ระบบนี้มีความสามารถถึงขนาดที่จะปิดกระจกของรถก่อนการชน เพื่อปกป้องรถของเราได้เลยค่ะ

2. ดึงเบรกมือ 

หลังจากลดความเร็วลงในระดับนึงแล้ว การดึงเบรกมือก็เป็นตัวช่วยลดความเร็วได้อีกทางค่ะ สิ่งที่ต้องทำคือค่อยๆ ดึงเบรกมือขึ้นจนสุด ไม่ว่าจะเป็น E-Brake หรือ Emergency Brake วิธีนี้จะช่วยลดความเร็วที่ล้อหลังได้ แต่จำเอาไว้ว่าห้ามดึงแรงๆ เด็ดขาด เพราะว่ารถจะหมุนและอาจเกิดการคว่ำได้

3. ชิดซ้ายเข้าข้างทาง 

เมื่อเรารู้สึกว่าเครื่องยนต์เริ่มจะช้าลงแล้ว สิ่งที่ต้องทำคือจับพวงมาลัยให้มั่นแล้วชิดซ้ายเข้าข้างทาง บังคับรถไปตามทิศทาง แต่ถ้าหากมีรถกีดขวางให้ใช้วิธีการบีบแตร เพื่อส่งสัญญาณพร้อมกับเปิดไฟฉุกเฉินไปพร้อมๆ กัน 

แต่ในกรณีของคนที่ขับรถหรู หรือสปอร์ตคาร์ ที่จะมีระบบ ESP / VSC / ESC หรือเรียกง่ายๆ ว่า ‘ระบบควบคุมการทรงตัวของรถ’ ที่พิเศษขึ้นมาหน่อย เพราะระบบนี้มีเซ็นเซอร์ตรวจจับอาการของตัวรถเมื่อมีการเลี้ยว หรือทรงตัวผิดปกติ  ระบบจะเข้าไปช่วยผู้ขับขี่ทันทีโดยการส่งแรงเบรกไปยังล้อที่มีอาการไม่ยึดเกาะ พร้อมกับสั่งลด หรือตัดการทำงานของเครื่องยนต์ลง เพื่อช่วยให้ตัวรถกลับมาอยู่ในการควบคุมของผู้ขับขี่ได้ค่ะ

สาเหตุของอาการเบรกแตก

“เบรกแตก” เกิดมาจากความร้อนเวลาเราชอบขับรถแล้วเบรกกะทันหัน หรือเบรกบ่อยๆ เวลาที่ขับรถด้วยความเร็วสูง พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้น้ำมันเบรกซึมซับความร้อนเอาไว้จนระบายสู่ส่วนอื่นๆ ไม่ทัน และไม่มีแรงดันไปกระตุ้นผ้าเบรก จึงเกิดเป็นอาการเบรกแตกได้ค่ะ 

วิธีป้องกันเบรกแตก

  1. เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกทุก 1 ปี 
    ควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเบรกปีละครั้งเพราะน้ำมันเบรกมีสารที่สามารถดูดซึมความชื้นจากกอากาศได้ดี เราจึงต้องดูแลตรวจเช็คในส่วนของจุดนี้ เพื่อไล่ความชื้นในน้ำมันเบรกออก และป้องกันไม่ให้เกิดสนิม 
  2. ตรวจเช็คดูแลผ้าเบรก 
    ควรเลือกใช้ผ้าเบรกที่มีมาตรฐานนความร้อนได้สูง และต้องหมั่นดูแลตรวจเช็คสภาพในทุกๆ 3 เดือน ถ้าเราพบว่าผ้าเบรกหมด ให้รีบเปลี่ยนทันที นอกจากนี้จานเบรกบางก็ส่งผลทำให้มีเสียงดังบริเวณล้อได้ หากเราไม่รีบเปลี่ยนอาจทำให้ลูกสูบเบรกหลุด หรือเกิดอาการเบรกแตกตามมาได้ค่ะ 

Tips เหล่านี้เป็นสิ่งที่ทุกคนควรรู้เอาไว้ ถึงแม้ในความเป็นจริงเหตุการณ์อาจจะเกิดขึ้นโดยไม่มีเวลาตั้งตัว แต่สิ่งที่สำคัญคือการตั้งสติ เพราะว่าการมีสติจะทำให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีนั่นเองค่ะ แต่การทำประกันรถเอาไว้ก็จะอุ่นใจกว่าทุกการขับขี่นะคะ สนใจทำประกันภัยรถยนต์ ก็ติดต่อ Smile Insure ได้เสมอเลยค่ะ เรามีประกันภัยชั้นนำจาก: วิริยะ, กรุงเทพ, อาคเนย์, เมืองไทย, คุ้มภัยโตเกียวมารีน, แอลเอ็มจี, ไทยศรี, เอเชีย, สินทรัพย์, ธนชาต ให้คุณได้เลือกมากมายเลยค่า

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ