ยุโรปเป็นทวีปที่เต็มไปด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิต แต่ละประเทศก็มีเสน่ห์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นประวัติศาสตร์อันยาวนาน วัฒนธรรมที่หลากหลาย หรือสถาปัตยกรรมสุดอลังการ แต่ละที่ก็มีเสน่ห์แตกต่างกันไป

SMILE INSURE จะพาคุณไปรู้จักกับ 10 แลนด์มาร์คสุดฮอตที่คุณไม่ควรพลาดในปี 2024 นี้! รับรองว่าถ้าได้ไปเที่ยวสักครั้งจะได้ความประทับใจกลับมาแน่นอน

1. Eiffel tower in Paris หอไอเฟล

หอไอเฟล เป็นแลนด์มาร์คที่มีชื่อเสียงที่สุดของกรุงปารีสและประเทศฝรั่งเศส เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1887 โดยใช้เวลาก่อสร้างทั้งสิ้นรวม 2 ปี 2 เดือน และ 5 วัน 

แลนด์มาร์คแห่งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก แต่ยังเป็นประจักษ์พยานแห่งความก้าวหน้าทางวิศวกรรมของยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม และเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่ล้ำค่าของโลก 

อ่านเพิ่มเติม: ทําประกันเดินทางต่างประเทศ เคลมอะไรได้บ้าง?

ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัย หอไอเฟลก็ยังคงเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่มนุษย์สร้างขึ้นที่น่าประทับใจที่สุดในประวัติศาสตร์ และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวจุดเช็คอินสำคัญของกรุงปารีสที่ใครต่อใครจะต้องถ่ายรูปเก็บไว้แน่นอน

การเดินทางไป Eiffel tower in Paris

• รถไฟใต้ดิน (Metro) สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ Bir-Hakeim (สาย 6) หรือ Trocadéro (สาย 6 และ 9)
• รถบัส: มีหลายสายที่ผ่านหอไอเฟล เช่น สาย 42, 69, 72, 82, และ 87
• เรือ: ใช้บริการเรือ Batobus ที่แล่นในแม่น้ำแซน

(แนะนำให้ซื้อตั๋วล่วงหน้าทางออนไลน์เพื่อหลีกเลี่ยงการรอคิวยาว)

2. Colosseum Italy โคลอสเซียม

สถานที่ท่องเที่ยวที่มีอายุมากกว่า 2,000 ปี และเป็นแรงบันดาลใจให้กับภาพยนต์ชื่อดังมากมายในการสร้าง อาทิเช่น เกลดิเอเตอร์ (Gladiator ปี 2000) ที่มีฉากต่อสู้ ในสนามประลอง จะเป็นที่ใดไม่ได้นั่นคือ โคลอสเซียม

อ่านเพิ่มเติม: เที่ยวต่างประเทศทั้งที ทําประกันเดินทางแบบไหนดี? ให้คุ้มที่สุด!

โคลอสเซียมได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก ซึ่งยืนยันถึงคุณค่าอันล้ำเลิศของสถานที่แห่งนี้ ภายในโคลอสเซียมมีนิทรรศการและการนำเสนอข้อมูลที่น่าสนใจ ช่วยให้ผู้เยี่ยมชมได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์อย่างลึกซึ้ง 

นอกจากความงามของตัวอาคารแล้ว บริเวณรอบๆ โคลอสเซียมยังมีทิวทัศน์ที่สวยงาม เหมาะแก่การถ่ายภาพและชื่นชมบรรยากาศสถานที่แห่งนี้ 

การเดินทางไป Colosseum Italy

• รถไฟใต้ดิน (Metro): ใช้สาย B ลงที่สถานี Colosseo ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับโคลอสเซียม
• รถบัส: มีหลายสายที่ผ่านโคลอสเซียม เช่น สาย 51, 75, 85, 87, และ 118
• เดิน: หากพักในบริเวณใจกลางเมือง การเดินไปโคลอสเซียมก็เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะจะได้ชมสถานที่สำคัญอื่นๆ ระหว่างทางด้วย
  
  

3. Neuschwanstein Castle ปราสาทนอยชวานชไตน์

เริ่มก่อสร้างในปี ค.ศ. 1869 เป็นปราสาทตั้งอยู่ในเทือกเขาแอลป์แถบรัฐบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี สร้างในสมัยพระเจ้าลูทวิชที่ 2 แห่งบาวาเรีย ในช่วง ค.ศ. 1845–1886 เป็นปราสาทยุโรปที่งดงามมากที่สุดของโลก และเป็นต้นแบบของการสร้างปราสาทเทพนิยายเจ้าหญิงนิทรา ที่สวนสนุกดิสนีย์แลนด์

หลังจากการสวรรคตของลุดวิกที่ 2 ในปี 1886 ปราสาทถูกเปิดให้สาธารณชนเข้าชม ทำให้ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวเข้าชมกว่า 1.4 ล้านคนต่อปี

การเดินทางไป Neuschwanstein Castle

• การเดินทางจากเมืองใหญ่ มิวนิค ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงโดยรถยนต์หรือรถไฟ ฟุสเซิน (Füssen) เมืองที่อยู่ใกล้ที่สุด ห่างจากปราสาทประมาณ 4 กิโลเมตร
• การเดินทางโดยรถไฟ จากมิวนิค นั่งรถไฟไปยังสถานี Füssen และจาก Füssen นั่งรถบัสสาย 73 หรือ 78 ไปยังหมู่บ้าน Hohenschwangau
• การเดินทางโดยรถยนต์ ขับรถตามทางหลวง A7 ไปทางใต้จนถึง Füssenจาก Füssen ตามป้ายบอกทางไปยังปราสาท

จากหมู่บ้าน Hohenschwangau สู่ปราสาท

• เดินเท้า ใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที เส้นทางค่อนข้างชัน
• รถม้า มีบริการรถม้าขึ้นไปใกล้ปราสาท
• รถรับส่ง มีรถรับส่งจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวไปยังจุดชมวิว Marienbrücke

เวลาเปิดทำการ

เปิดทุกวัน ยกเว้นวันที่ 1 มกราคม, 24-25 ธันวาคม, และ 31 ธันวาคม

(เวลาเปิด-ปิดอาจแตกต่างกันตามฤดูกาล ควรตรวจสอบก่อนไป)

4. Sagrada familia Spain ซากราดา ฟามีเลีย

เป็นสัญลักษณ์ของเมืองบาร์เซโลนาชื่อเต็มๆ ว่า Temple Expiatori de la Sagrada Família ผลงานชิ้นสุดท้ายของสถาปนิกชื่อดังชาวคาตาลันชื่อ อันโตนิ เกาดิ ซึ่ง ซากราดา ฟามีเลีย ไม่เพียงแต่เป็นสถานที่ทางศาสนาเท่านั้น 

แต่ยังเป็นผลงานทางสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและเป็นสัญลักษณ์ของเมืองบาร์เซโลนา ด้วยความสวยงามอลังการ และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ของวิหารแห่งนี้ จึงทำให้ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ทั้งที่ยังสร้างไม่เสร็จ

การเดินทางไป Sagrada familia Spain

• รถไฟใต้ดิน (Metro) สะดวกและประหยัดที่สุด
• ใช้สาย L2 (สีม่วง) หรือ L5 (สีน้ำเงิน) ลงที่สถานี Sagrada Família
• รถบัส หลายสายผ่านซากราดา ฟามีเลีย เช่น 19, 33, 34, 43, 44, 50, 51, B20 และ B24
• รถทัวร์ Hop-on Hop-off: มีจุดจอดที่ซากราดา ฟามีเลีย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการชมสถานที่สำคัญอื่นๆ ด้วย

5. Buckingham Palace พระราชวังบัคกิงแฮม

พระราชวังบัคกิงแฮม (Buckingham Palace) เป็นพระราชวังเก่าแก่มีอายุมากกว่า 300 สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1703 เป็นหนึ่งในพระราชวังที่ประทับของราชวงศ์อังกฤษ เป็นสถานที่ของการเฉลิมฉลองระดับชาติ 

อ่านเพิ่มเติม: ประกันเดินทาง คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลฉุกเฉินหรือไม่?

สถานที่จัดงานเลี้ยงรับรองหรือจัดงานระดับประเทศ ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ สถานที่แห่งนี้เปิดให้ประชาชนเข้าชมบางส่วนในช่วงฤดูร้อน (กรกฎาคม-ตุลาคม)

การเดินทางไป Buckingham Palace

• รถไฟใต้ดิน (Underground/Tube) Green Park (สาย Jubilee, Piccadilly, และ Victoria) St. James's Park (สาย District และ Circle) Victoria (สาย Victoria, District, และ Circle) จากสถานีเหล่านี้ ใช้เวลาเดินประมาณ 5-10 นาที
• รถบัส สาย 11, 24, 211, 239, และ C1 จอดใกล้พระราชวังป้ายรถบัสชื่อ "Buckingham Palace Road" อยู่ใกล้ที่สุด
• รถแท็กซี่ สามารถเรียกแท็กซี่ลอนดอนแบบดั้งเดิม (Black Cab) หรือใช้บริการ Uber

6. Elizabeth Tower  หอนาฬิกา Big Ben

เป็นที่รู้จักอย่างเป็นทางการในชื่อ St Stephen's Tower หอเซนต์สตีเฟน หรือหอบิกเบน หนึ่งในนาฬิกาที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก สัญลักษณ์สำคัญของทั้งกรุงลอนดอนและสหราชอาณาจักร 

รวมถึงปรากฎอยู่ในงานศิลปะ หนังสือ ภาพยนตร์ และโทรทัศน์มากมาย ในปัจจุบันใช้เป็นรัฐสภาอังกฤษ ตั้งอยู่ทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพระราชวัง หอนาฬิกาบิ๊กเบน เป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก

การเดินทางไป Elizabeth Tower  

• รถไฟใต้ดิน (Underground/Tube):

สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ Westminster (สาย Circle, District, และ Jubilee)เมื่อออกจากสถานี จะเห็น Elizabeth Tower ได้ทันที

• รถบัส สายที่ผ่าน: 11, 24, 148, 211ป้ายรถบัสใกล้ที่สุดคือ "Parliament Square" หรือ "Westminster Station"
  
  

7. Louvre Museum พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ ปารีส – ฝรั่งเศส

พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre Museum) เป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส  เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่ใหญ่ที่สุดในโลก หรือที่หลายคนรู้จักกันว่าเป็นที่มาของภาพโมนาลิซา เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโลก 

และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของปารีสและฝรั่งเศส สถานที่นี้มีบทบาทสำคัญในการอนุรักษ์ประวัติศาสตร์ศิลปะ เป็นสัญลักษณ์ของประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และศิลปะของฝรั่งเศสและโลกตะวันตก

การเดินทางไป Louvre Museum

• รถไฟใต้ดิน (Metro) สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ Palais-Royal Musée du Louvre (สาย 1 และ 7) สถานี Louvre-Rivoli (สาย 1) ก็อยู่ใกล้เช่นกัน
• รถบัส สาย 21, 24, 27, 39, 48, 68, 69, 72, 81, 95 ผ่านบริเวณลูฟร์
• รถไฟ RER ใช้สาย A ลงที่สถานี Chatelet-Les Halles แล้วเดินหรือต่อ Métro
  
  

8. Venice เวนิส

เวนิส (Venice) เมืองหลวงแห่งภูมิภาค Veneto ของ ประเทศอิตาลี มีลักษณะเป็นเกาะเล็กเกาะน้อยรวมกันกว่า 100 เกาะ เกิดเป็นลากูนบน ทะเลเอเดรียติก (Adriatic Sea) 

ผืนน้ำที่คั่นระหว่างเกาะต่างๆ จะมีสะพานเชื่อมถึงกัน พื้นดินทั้งหลายนั้นแท้จริงแล้วเป็นเกาะใหญ่น้อยมาร้อยรวมกันเสมือนผ้าผืนใหญ่ที่อยู่กลางน้ำ

การเดินทางไป Venice

• เครื่องบินระหว่างประเทศ บินตรงไปยังสนามบิน Marco Polo (VCE) จากหลายเมืองใหญ่ในยุโรปและทั่วโลก สายการบินหลัก เช่น Alitalia, Lufthansa, British Airways, Air France มีเที่ยวบินไปเวนิส เดินทางจากเมืองอื่นในอิตาลี
• รถไฟความเร็วสูง (Frecciarossa, Italo) จากโรม มิลาน หรือฟลอเรนซ์

9. Basilica di San Marco มหาวิหารซานมาร์โก

โบสถ์สำคัญแห่งเมืองเวนิสที่เริ่มสร้างขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 823 ผสมผสานศิลปะของหลายยุคขึ้นไว้ด้วยกัน ตั้งแต่ไบเซนไทน์ โรมาเนสก์ โกธิค จนถึงเรอเนสซองซ์ 

หลังคาของมหาวิหารซานมาร์โกสร้างแบบโดมสุเหร่าของศาสนาอิสลาม โดมกลางมีขนาดใหญ่ที่สุด ประดับโมเสกสีทองอร่ามตั้งแต่หลังคาจรดพื้น จึงได้รับสมญานามว่า “Church of Gold” มาตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 11 เลยทีเดียว 

อ่านเพิ่มเติม: รู้ก่อนซื้อ! ประกันเดินทางคุ้มครองอะไรบ้าง?

การเดินทางไป Basilica di San Marco

• เดิน หากคุณพักอยู่ในตัวเมืองเวนิส (Venice), การเดินไปที่ Basilica di San Marco เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพียงแค่ตามลำธาร Grand Canal จาก Ponte di Rialto หรือ Rialto Bridge ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ.
• เรือ (Vaporetto) สามารถใช้บริการ Vaporetto (เรือพ่วง) ที่เชื่อมโยงกับพื้นที่ต่าง ๆ ของเวนิส ซึ่งจะมีการเรือที่จอดใกล้ Basilica di San Marco ในทางทิศตะวันออกของ Piazza San Marco.

10. Grand Canal แกรนด์ คาแนล 

หรือเรียกเป็นภาษาอิตาเลียนว่า “คานาเล่ แกรนเด้” เป็นคลองที่มีชื่อเสียงในด้านการท่องเที่ยว และเป็นจุดหมายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยวที่อยากล่องเรือกอนโดล่า

นักท่องเที่ยวนิยมไปนั่งเรือกอนโดลาลัดเลาะไปตามคูคลองในเวนิส ซึ่งจะผ่านสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญต่างๆ ในเมือง รวมถึงได้สัมผัสกับความสวยงาม และวิถีชีวิตของชาวเมือง

การเดินทางไป Grand Canal

Vaporetto (เรือขนส่งสาธารณะ)

• เส้นทางที่ 1 เส้นทางที่แนะนำสำหรับการชมบรรยากาศสวยงามของ Grand Canal คือเส้นทางของ Vaporetto ซึ่งวิ่งตาม Grand Canal จาก Piazzale Roma ไปยัง St. Mark's Basin (ที่เทียบกับพิพิธภัณฑ์เข็มนาฬิกา).
• เส้นทางที่ 2 เส้นทางของ Vaporetto เส้นทางที่ 2 (Line 2) ซึ่งวิ่งรอบเวนิสเมื่อวิ่งทางทิศตะวันตกของ Grand Canal และมีจุดพักที่ Piazza San Marco.

Gondola   (เรือเช่า) 

• Gondola จะเป็นวิธีการเดินทางที่โรแมนติกและสวยงามมาก ซึ่งคุณสามารถเช่า Gondola จากสถานที่ต่าง ๆ ตามริมแม่น้ำ หรือติดต่อ Gondolier (นักพากิน) ที่จะพาคุณไปรอบ Grand Canal ในราคาที่ตกลงกันได้
  
  

สำหรับสายเที่ยว การได้ท่องเที่ยวต่างประเทศเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้นและมีความสุขที่สุด แต่การเตรียมตัวก่อนการเดินทางก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้คุณได้มั่นใจกับการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย 

การทำประกันการเดินทางเป็นหนึ่งในประกันที่ควรทำ เพราจะช่วยคุ้มครองเมื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินหรือปัญหาที่ไม่คาดคิดขึ้นระหว่างการเดินทาง 

เช่น การป่วยหรือเจ็บป่วย, การสูญเสียทรัพย์สิน, หรือการเสียหายต่อทรัพย์สิน คุณจะได้รับการคุ้มครองทางการเงินและการช่วยเหลือจากบริษัทประกันการเดินทาง แล้วคุณจะพบว่ามันเป็นการลงทุนกับการเดินทางที่คุ้มค่าที่สุด