บทความ | สาระน่ารู้อื่นๆ

เลือกน้ำมันเครื่องยังไง ให้รถไม่พัง?!

เลือกน้ำมันเครื่องยังไง ให้รถไม่พัง?!
10/07/2019  สาระน่ารู้อื่นๆ

เลือกน้ำมันเครื่องยังไง ให้รถไม่พัง?!


 

เครื่องยนต์เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องดูแลเป็นพิเศษ หากเลือกน้ำมันเครื่องผิดหรือไม่ถูกกับเครื่องยนต์ที่คุณใช้อยู่อาจทำให้เครื่องยนต์ของคุณพังได้ นอกจากเครื่องยนต์จะพังแล้ว ยังมีผลกระทบกับเงินในกระเป๋าของเราด้วย  


 เลือกน้ำมันเครื่องยังไง ให้รถไม่พัง?! ❘ Smile Insure

น้ำมันเครื่อง หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า น้ำมันหล่อลื่น มีหน้าที่ลดแรงเสียดทานของวัตถุหรือเครื่องยนต์ที่เสียดสีกัน ช่วยระบายความร้อน สามารถป้องกันกำลังอัดของเครื่องยนต์รั่วไหล ป้องกันการกัดกร่อนจากสนิมและกรดต่างๆ และยังช่วยทำความสะอาดเขม่าและเศษโลหะภายในเครื่องยนต์ได้ด้วย ในการเลือกซื้อน้ำมันเครื่องขึ้นอยู่กับประเภทเครื่องยนต์ ซึ่งสามารถดูได้จากคู่มือการใช้งานรถยนต์ และค่าความหนืดของน้ำมันเครื่อง หากไม่มั่นใจควรถามผู้ชำนาญการเพื่อความปลอดภัยจะดีกว่า โดยปกติแล้วน้ำมันเครื่องจะแบ่งเป็น 3 ประเภทดังนี้

  

น้ำมันเครื่องชนิดธรรมดา (Synthetic)

เป็นน้ำมันเครื่องที่กลั่นจากน้ำมันปิโตรเลียม จะมีความหนืดมาก เหมาะกับรถที่ใช้งานมานานและต้องการความหนืดสูง เพื่อช่วยเคลือบช่องว่างของชิ้นส่วนภายในเครื่องยนต์ ซึ่งมีระยะถ่ายน้ำมันเครื่องอยู่ที่ 5,000 กิโลเมตร

 



น้ำมันเครื่องชนิดกึ่งสังเคราะห์ (Semi Synthetic)

เป็นน้ำมันเครื่องที่ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นธรรมดากับน้ำมันเครื่องชนิดสังเคราะห์ เหมาะกับรถที่มีสมรรถนะสูงและปานกลาง ซึ่งมีระยะถ่ายน้ำมันเครื่องอยู่ที่ 8,000 – 10,000 กิโลเมตร


น้ำมันเครื่องสังเคราะห์ (Fully Synthetic

เป็นน้ำมันเครื่องที่ผลิตจากน้ำมันหล่อลื่นที่สังเคราะห์จากน้ำมันปิโตรเลียม เหมาะกับรถที่มีเครื่องยนต์สมรรถนะสูงและปานกลาง ที่ต้องการปกป้องอย่างรวดเร็วและทนรอบจัดได้ ซึ่งมีระยะถ่ายน้ำมันเครื่องอยู่ที่ 15,000 – 20,000 กิโลเมตร


ดังนั้น การเลือกน้ำมันเครื่องขึ้นอยู่กับค่าความหนืดของน้ำมัน รวมถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์ภายในของรถรุ่นนั้นๆ ยิ่งรถมีอายุการใช้งานที่มากขึ้นความก็ควรจะปรับความหนืดให้มากขึ้นเพื่อเพิ่มความถึกในกับรถด้วย ลองนำคำแนะนำของเราไปใช้ดูนะคะ แต่จะง่ายกว่า ถ้ามี Smile Insure เป็นที่ปรึกษา เพราะเรื่องรถๆ ไว้ใจเรา ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนก็อุ่นใจแน่นอน


ขอบคุณวีดีโอจาก: https://www.youtube.com/watch?v=DK3EEwXqhwc

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ