บทความ | สาระน่ารู้อื่นๆ

“ม่านถุงลมนิรภัย” และ “ถุงลมนิรภัย” ต่างกันอย่างไร

“ม่านถุงลมนิรภัย” และ “ถุงลมนิรภัย” ต่างกันอย่างไร
12/11/2020  สาระน่ารู้อื่นๆ

ม่านถุงลมนิรภัย” และ “ถุงลมนิรภัย” ต่างกันอย่างไร

ถุงลมนิรภัย เป็นอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยของรถยนต์ที่เรามักจะได้ยินคุ้นหูอยู่บ่อยๆ ซึ่งคนส่วนใหญ่ทั่วไปก็จะรู้แค่ว่า ถุงลมนิรภัย จะออกมาก็ต่อเมื่อรถยนต์เกิดอุบัติเหตุเท่านั้น แต่จริงๆแล้วถุงลมนิรภัยมีหลักการทำงานที่น่าทึ่งกว่านั้น 

นอกจากนี้ยังมี ม่านถุงลมนิรภัย ที่เป็นอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยอีกอย่างนึง ถ้าอยากรู้ว่า ถุงลมนิรภัย และ ม่านถุงลมนิรภัย ช่วยในความปลอดภัยยังไง และแตกต่างกันตรงไหน วันนี้เราจะมาบอกเล่าให้ฟัง

“ม่านถุงลมนิรภัย” และ “ถุงลมนิรภัย” ต่างกันอย่างไร | Smile Insure

ถุงลมนิรภัย (Airbag) 

ถุงลมนิรภัย ทำมาจากถุงไนลอนหรือโพลีเอไมด์ที่บรรจุแก๊สไนโตรเจนไว้ภายใน โดยทั่วไปจะบรรจุแก๊สได้ประมาณ 60-70 ลิตร ซึ่งจะพองตัวอย่างรวดเร็วเมื่อมีแรงกระแทกเกิดขึ้น โดยรถยนต์แต่ละคันจะมีถุงลมนิรภัยติดตั้งตามจุดที่ต่างกันไปแล้วแต่วิศวกรนักออกแบบ ทำหน้าที่เหมือนเป็นหมอนรองผู้โดยสารที่ออกแบบมาเพื่อการขยายตัวอย่างรวดเร็วในขณะที่เกิดการชนกันของรถ เพื่อป้องกันศรีษะและหน้าอกของผู้โดยสารจากการกระแทกกับสิ่งต่างๆภายในรถ เช่น พวงมาลัย 

ซึ่งถุงลมนิรภัยนั้นไม่ได้มีลักษณะเป็นเบาะนิ่มๆ หากแต่เต็มไปด้วยแก๊สไนโตรเจน ซึ่งเมื่อเกิดการชนและถุงลมนิรภัยมีการทำงาน พองตัวออกมาอย่างรวดเร็วตามตำแหน่งที่ได้ติดตั้งไว้ 

“ม่านถุงลมนิรภัย” และ “ถุงลมนิรภัย” ต่างกันอย่างไร | Smile Insure

ถุงลมนิรภัย จะมีเซ็นเซอร์ตรวจจับการชนและการกระแทกที่รุนแรงกว่ากำหนดไว้ เมื่อเซ็นเซอร์ตรวจจับได้ว่ารถยนต์กำลังเกิดอุบัติเหตุอยู่ ก็จะพองตัวด้วยความเร็ว 300 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง โดยใช้เวลาเพียง 0.04 วินาที และจะยุบตัวลงอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้หน้าจมค้างไว้

หากผู้โดยสารไม่คาดเข็มขัดนิรภัย อาจทำให้ถุงลมนิรภัยกระแทกเข้ากับตัวจนได้รับการบาดเจ็บแทน เนื่องจากถุงลมนิรภัยได้ออกแบบติดตั้งมาเพื่อการทำงานที่เหมาะสมที่สุดในสภาวะที่ผู้โดยสารคาดเข็มขัดนิรภัยเท่านั้น หากนึกว่าความเจ็บหากโดนถุงลมนิรภัยฟาดจะเจ็บขนาดไหน ก็ลองนึกถึงเวลาที่โดนหมอนข้างฟาดดู เจ็บกว่านั้นหลายเท่าเลยแหละ

“ม่านถุงลมนิรภัย” และ “ถุงลมนิรภัย” ต่างกันอย่างไร | Smile Insure

ม่านถุงลมนิรภัย (Curtain Airbag) 

ม่านถุงลมนิรภัย มีการทำงานในลักษณะเดียวกับถุงลมนิรภัย แต่ต่างกันตรงตำแหน่งในการติดตั้งเท่านั้น เพราะม่านถุงลมนิรภัย จะติดตั้งด้านข้างในตัวรถยนต์ เพื่อป้องกันไม่ให้ศรีษะและใบหน้ากระแทกกับกระจกข้างซึ่งเกิดจากแรงปะทะ มีลักษณะเป็นถุงลมที่พองตัวขึ้นมาบริเวณกระจกทั้งด้านผู้ขับและผู้โดยสารของรถยนต์ พร้อมกันนี้เข็มขัดนิรภัยก็ทำงานด้วยการดึงกลับด้วยเช่นกัน แต่ม่านถุงลมจะมีแต่ในรถที่มีราคาแพงเสียเป็นส่วนใหญ่ 

สำหรับจำนวนถุงลมนิรภัยใน รถยนต์นั้น ถ้าเป็นรถรุ่นพื้นฐาน ราคาไม่แพงมาก หรือรถยุคเก่าเริ่มพัฒนา ก็จะมีถุงลม 1 ใบ ที่พวงมาลัย เอาไว้ป้องกันคนขับเพียงอย่างเดียว และมีการพัฒนาขึ้นเป็นถุงลม 2 ใบ เพิ่มด้านคนนั่งขึ้นมา หรือที่เรียกว่า Side Airbag

“ม่านถุงลมนิรภัย” และ “ถุงลมนิรภัย” ต่างกันอย่างไร | Smile Insure

แต่ปัจจุบัน ระบบถุงลมนิรภัยพัฒนามากขึ้นแล้ว ในรถรุ่นที่มีราคาหน่อย อาจจะมีถุงลมถึง 4 ใบ เพิ่มด้านข้างเบาะ เพื่อป้องกันแรงการชนด้านข้าง หรือมากกว่า 6 ใบ มีด้านหลังเพิ่มขึ้น มาอีก แล้วก็มีที่กระจกประตู 4 บาน หรือที่เราเรียกว่า ม่านถุงลมนิรภัย หรือ Curtain Airbag นี่แหละ ซึ่งถุงลมจะพองออกมาเหมือนเป็นม่านป้องกันกระแทกไว้อีกชั้น กรณีถูกชน ปะทะข้างอย่างรุนแรง เพื่อไม่ให้หน้าและศรีษะไปกระแทกกับแรงปะทะ 

นับว่าเป็นเทคโนโลยีที่น่าสนใจ ในรถหลายรุ่นยังมีการติดตั้งถุงลงนิรภัยมาในจุดอื่นๆ เพื่อปกป้องส่วนอื่นๆของร่างกายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ถุงลมนิรภัยป้องกันเข่าและขา Knee Airbag ติดตั้งอยู่ใต้คอนโซลฝั่งผู้ขับขี่ ช่วยป้องกันขา, หัวเข่า และ ถุงลมนิรภัยตรงพื้นใต้เท้า Carpet Airbag ที่จะช่วยผ่อนและรองรับแรงกระแทกของเท้าที่จะไปกระแทกกับพื้นอีกด้วย ในกรณีที่จำเป็นต้องติดตั้งเบาะนั่งเด็กไว้ด้านหน้า ควรปรับระยะห่างระหว่างเบาะนั่งและคอนโซลหน้าให้มากที่สุด เพื่อให้เด็กได้รับแรงปะทะน้อยที่สุด 

“ม่านถุงลมนิรภัย” และ “ถุงลมนิรภัย” ต่างกันอย่างไร | Smile Insure

แล้ว ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมนิรภัย ทำงานต่างกันยังไง?

  • ม่านถุงลมนิรภัย ช่วยป้องกันและซับแรงกะแทกในส่วนศรีษะโดยตรง 
  • ถุงลมนิรภัย จะรองรับแรงกระแทกในส่วนของทั้งศรีษะลงมาถึงหน้าอก 

ดังนั้นความเหมือนของการทำงานของสองอุปกรณ์นี้คือเพื่อความปลอดภัยเหมือนกัน 

แต่ความแตกต่างในการทำงานของทั้งสองส่วนนี้คือการปกป้องอวัยวะคนละส่วน ซึ่งในรถหนึ่งคันถ้ามีทั้ง ถุงลมนิรภัย และม่านถุงลมนิรภัย ยังไงก็ปลอดกว่า ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการขับขี่ด้วยความปลอดภัย ระมัดระวัง เพราะถึงแม้มีอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยยังไง ก็ไม่ได้ช่วยอะไรหากเราขับขี่ด้วยความประมาทนะ

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ