ฝนตกหนักนะ รถคุณไหวหรอ?

เข้าสู่เดือนมิถุนายน ก็จะอยู่ในช่วงฤดูฝนของประเทศไทยจนถึงเดือนตุลาคม ซึ่งจะมีฝนตกหนักมาก ทำให้วิสัยทัศน์ในการขับรถลดลง และยังทำให้รถติดจนเซ็ง แต่หลายคนอาจจะลืมไปว่าเรื่องที่จะทำให้คุณเซ็งกว่าคือ “น้ำฝน” ตัวการที่ทำให้อุปกรณ์ของรถสึกหรอได้ รู้แบบนี้แล้ว เราจึงต้องเตรียมความพร้อมรับมือ และเรียนรู้เทคนิคการดูแลรถในหน้าฝนกันให้ดีนะครับ

ที่ปัดน้ำฝน 

ที่ปัดน้ำฝนเป็นสิ่งแรกที่ต้องดูแล เพราะเมื่อฝนตกหนัก ทำให้วิสัยทัศน์ในการขับรถลดลง คุณจะต้องใช้ที่ปัดน้ำฝนปัดน้ำที่กระจกออกเพื่อทำให้คุณมองเห็นเส้นทางได้ดีขึ้น หากที่ปัดน้ำฝนเริ่มทำความสะอาดกระจกไม่สะอาดก็ควรรีบเปลี่ยนยางปัดน้ำฝน และอย่าลืมหมั่นตรวจและเติมน้ำยาล้างกระจกเป็นประจำนะครับ 

ยางรถยนต์

ถึงจะไม่ใช่ฤดูฝน เรื่องของยางรถยนต์ยังไงก็ยังสำคัญในการขับรถเป็นอย่างมาก เพราะยางรถช่วยในการเกาะถนน ไม่ให้รถลื่นไถล ไม่ทำให้รถของคุณเสียการทรงตัว ดังนั้น ควรตรวจเช็คสภาพของเนื้อยางรถว่ามีความยืดหยุ่นไหม และดอกยางมีความสูงน้อยกว่า 2.5 มิลลิเมตรหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยและรักษาประสิทธิภาพในการชับรถนะครับ

ระบบเบรก

ระบบเบรกเป็นส่วนสำคัญอย่างมากในการขับรถ ถ้าระบบเบรกพังอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ เราควรมั่นนำรถเข้าเช็คระบบเบรก ว่ามีน้ำมันเบรกรั่วหรือไม่ ผ้าเบรกมีฝุ่นหรือดินเข้าไปติดหรือไม่ แต่เราสามารถที่จะสังเกตความผิดปกติของผ้าเบรกได้จากเสียง กลิ่นไหม้ หรือไฟเบรกบนหน้าปัดรถ ซึ่งถ้าเกิดความผิดปกติควรรีบนำรถเข้าอู่ทันทีนะครับ 

ไฟสัญญาณ

ไฟสัญญาณจะเพิ่มความปลอดภัยในทุกการเดิน ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสภาพอากาศแบบไหน ก่อนการเดินทางทุกครั้ง ควรเช็ค ไฟต่ำ ไฟสูง ไฟเบรก ไฟตัดหมอกหน้าและหลัง ไฟฉุกเฉิน ไฟเลี้ยว ไฟถอยหลัง และอื่นๆ หากหลอดไหนพัง หรือทำงานได้ไม่สมบูรณ์ควรรีบเปลี่ยนนะครับ

ไม่ว่าฝนจะตกหนักแค่ไหน ก็ไม่ต้องหวั่นใจอีกต่อไป แต่อย่างไรก็ตาม ควรนำรถเข้าเช็คที่อู่ซ่อม หรือศูนย์ซ่อมที่คุณไว้ใจเพื่อความปลอดภัยของคุณ และคนรอบข้าง แต่จะง่ายกว่า ถ้ามี Smile Insure เป็นที่ปรึกษา เพราะเรื่องรถๆ ไว้ใจเรา ไม่ว่าจะเดินทางไปไหนก็อุ่นใจแน่นอน

ขอบคุณวีดีโอจาก: YouTube