บทความ | สาระน่ารู้อื่นๆ

ทำไม? แบตเตอรี่รถหมดไวกว่าปกติ

ทำไม? แบตเตอรี่รถหมดไวกว่าปกติ
14/12/2020  สาระน่ารู้อื่นๆ

ทำไม? แบตเตอรี่รถหมดไวกว่าปกติ

จอดรถทิ้งไว้สองวัน มาขับอีกครั้ง สตาร์ทไม่ติดซะงั้น แบตเตอรี่รถยนต์หมด เราจะรู้ได้อย่างไร? แล้วสาเหตุอะไรบ้างที่ทำให้แบตเตอรี่หมดไว วันนี้มีคำตอบมาให้ทุกคนแล้ว!!

ทำไม? แบตเตอรี่รถหมดไวกว่าปกติ | Smile Insure

สาเหตุที่ทำให้แบตเตอรี่หมดไว มีอะไรบ้าง?

แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ 

แบตเตอรี่เสื่อมสภาพ ให้ตัวแบตเตอรี่นั้นไม่สามารถเก็บประจุไฟฟ้าไว้ได้

เปิดไฟในรถ หรือ ไฟหน้ารถทิ้งไว้

การเปิดไฟในรถ หรือ ไฟหน้ารถทิ้งไว้ เป็นระยะเวลานาน เช่น เปิดทิ้งไว้ทั้งวันทั้งคืน รถยนต์บางรุ่นถูกออกแบบไฟหน้ามาให้เปิดทิ้งเอาไว้เองสักพัก จากนั้นจะปิดลงแบบอัติโนมัติ แต่ถ้าระบบตัดไฟเกิดความผิดพลาดขึ้น ก็จะทำให้ไฟเปิดอยู่ตลอดเลา และแน่นอนเลยว่าถ้าไฟถูกเปิดทิ้งไว้นาน ๆ ก็จะทำให้แบตเตอรี่รถยนต์หมดได้ไวขึ้นนั่นเอง

มีการรั่วไหลของระบบไฟฟ้าภายใน 

การรั่วไหลของระบบไฟฟ้าภายใน ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์หมด แต่ข้อนี้เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นค่อนข้างยาก อีกอย่างที่ต้องสังเกตก็คือ สภาพอากาศที่หนาวจัด หรือร้อนจัด จะเกิดขึ้นกับ แบตเตอรี่รถยนต์ ที่มีสภาพเก่า หรือสภาพไม่ดีแล้ว แต่จะไม่ส่งผลต่อ แบตเตอรี่รถยนต์ ใหม่

ทำไม? แบตเตอรี่รถหมดไวกว่าปกติ | Smile Insure

ระบบไฟฟ้าภายในที่เสื่อมสภาพ 

ระบบไฟฟ้าภายในที่เสื่อมสภาพ มีส่วนทำให้แบตเตอรี่รถยนต์หมดได้ ถ้าตัวแบตเตอรี่นั้นเสื่อมสภาพ ระบบไฟฟ้าต่างๆ เช่น วิทยุรถยนต์ ก็สามารถทำให้ แบตเตอรี่รถยนต์ หมดได้ หาก แบตเตอรี่รถยนต์ ของคุณไร้ประสิทธิภาพ

การที่แบตเตอรี่รถยนต์หลวม

ขั้วแบตเตอรี่นั้นมีสนิมเกาะหรือคราบขี้เกลือติดอยู่ จะทำให้เกิดการขัดขวางการทำงานของระบบชาร์จ และตัวมอเตอร์ที่ดึงกระแสไฟฟ้า ทำให้แบตเตอรี่รถยนต์หมด

ระบบชาร์จมีปัญหา

ขับรถอยู่ จู่ๆ แบตเตอรี่รถยนต์ เกิดงอแง เหมือนจะหมดในระหว่างที่กำลังขับรถอยู่ นั้นแสดงว่าระบบชาร์จไฟมีปัญหา

สายพานหลวม หรือมีรอยแตก 

สายพานหลวม หรือมีรอยแตกอาจจะเข้าไปขัดขวางการทำงานของปั่นไฟในการผลิตกระแสไฟฟ้าไปชาร์จแบตเตอรี่เพื่อไปใช้ในการทำงานต่างๆ

 ทำไม? แบตเตอรี่รถหมดไวกว่าปกติ | Smile Insure

สังเกตยังไง? เมื่อแบตเตอรี่รถ “ใกล้หมด”

ให้สังเกตและรีบตรวจสอบ เพราะอาจจะทำให้แบตเตอรี่รถยนต์หมดกลางทางขณะขับรถได้

1. ระบบไฟเกิดความผิดปกติ

เช่น ไฟหน้า ไฟเลี้ยว ไฟในห้องโดยสาร นั้นมีความสว่างน้อยลงกว่าเดิม แบตเตอรี่รถยนต์เริ่มมีปัญหาแล้ว เพราะประจุไฟฟ้าภายในแบตเตอรี่ไม่เพียงพอ หากปล่อยไว้เรื่อย ๆ จะทำให้แบตเตอรี่รถยนต์หมดได้ในที่สุด

2. รถยนต์สตาร์ทติดยาก แบบไม่ค่อยมีกำลัง

รถที่เราใช้งานได้ปกติ แต่เกิดสตาร์ทติดยากขึ้นมา รู้สึกเหมือนตัวรถยนต์นั้นไม่มีกำลัง และที่แย่มาก ๆ เลยก็คือรถยนต์สตาร์ทไม่ติด แบบนี้ก็มีสาเหตุเหมือนกันคือประจุไฟฟ้านั้นไม่เพียงพอ

3. การทำงานของระบบล็อค และกระจกไฟฟ้าช้าลง

ระบบกระจกไฟฟ้าเวลาที่เรากดขึ้น-ลง ก็จะมีลักษณะแบบขึ้นสุด-ลงสุดอย่างรวดเร็ว แต่ถ้าแบตเตอรี่รถยนต์ใกล้หมด ลักษณะที่มีก็จะตรงกันข้ามคือ มีการขึ้นลง-ช้า แถมยังมีเสียงมอเตอร์กระจกไฟฟ้าทำงานแบบหนืดๆ

ทำไม? แบตเตอรี่รถหมดไวกว่าปกติ | Smile Insure

แบตเตอรี่รถยนต์ “หมด” ทําไง?

จัมป์แบตเตอรี่รถยนต์คือขั้นตอนการแก้ ต้องขอความช่วยเหลือจากรถยนต์คันอื่นๆ เพื่อพ่วงแบตเตอรี่ โดยจะมีวิธีการใช้สายพ่วงคือ.. 

  1. หนีบสายสีแดงที่ขั้วบวกแบตเตอรี่ของรถยนต์คันที่สตาร์ทไม่ติด
  2. หนีบสายสีแดงที่ขั้วบวกแบตเตอรี่ของรถยนต์คันที่มาช่วยเรา
  3. หนีบสายสีดำที่ขั้วลบแบตเตอรี่ของรถยนต์คันที่มาช่วยเรา
  4. หนีบสายสีดำที่ขั้วลบแบตเตอรี่ของรถยนต์คันที่สตาร์ทไม่ติด 

ทำไม? แบตเตอรี่รถหมดไวกว่าปกติ | Smile Insure

หลังจากนั้นให้สตาร์ทรถยนต์คันที่มาช่วยเหลือเราก่อน จากนั้นค่อยไปสตาร์ทรถยนต์คันที่สตาร์ทไม่ติด เมื่อรถยนต์สตาร์ทติดเรียบร้อยแล้วให้ถอดสายพ่วงออกย้อนกลับตามลำดับโดยเริ่มจากข้อ 4 > 3 > 2 > 1

จากนั้นสิ่งที่ควรรีบทำให้เร็วที่สุดเลยก็คือ.. ไปเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ลูกใหม่ เพราะถ้าหากไม่เปลี่ยนแน่นอนเลยว่ารถยนต์ก็จะเจอปัญหาสตาร์ทไม่ติด และหากปล่อยเอาไว้นานนอกจากที่แบตเตอรี่รถยนต์หมดแล้ว ก็อาจจะส่งผลเสียต่อชิ้นส่วนอะไหล่ต่าง ๆ ภายในรถยนต์ได้

ทำไม? แบตเตอรี่รถหมดไวกว่าปกติ | Smile Insure

ถ้ารู้ว่ารถของตัวเองแบตเตอรี่ใกล้จะหมดให้รีบนำรถไปให้ช่างผู้เชี่ยวชาญช่วยตรวจสอบ เพื่อที่จะได้ทำการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ลูกใหม่อย่างไวที่สุด หากปล่อยเอาไว้นาน ไม่ส่งผลดีต่อรถยนต์อย่างแน่นอน

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ