ต้องรู้! ประกันสุขภาพไม่จ่ายกรณีไหนบ้าง?
ใครที่กำลังอยู่ในช่วงตัดสินใจจะทำประกันสุขภาพ อย่าพลาดบทความนี้! เพราะ SMILE INSURE มีสาระดีๆ เกี่ยวกับประกันสุขภาพมาฝากกันอีกแล้ว
ครั้งนี้เป็นสาระน่ารู้เกี่ยวกับ ‘กรณีที่ประกันสุขภาพจะไม่จ่าย หรือไม่รับเคลม’ เหตุการณ์อันน่าเศร้าที่คนทำประกันไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ก็มักจะมีให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ
รับรองได้ว่าเมื่ออ่านจบแล้ว ทุกคนจะเข้าใจประกันประเภทนี้มากขึ้น และรู้ว่าต้องทำอย่างไรต่อไป เพื่อให้ตัวเองเคลมประกันสุขภาพได้ โดยไม่พลาดในจุดสำคัญ
ประกันสุขภาพมีข้อดีมากกว่าที่คิด
เมื่อพูดถึงประกันสุขภาพ บางคนอาจคิดว่าเป็นประกันที่มีข้อดีในเรื่องการให้ความคุ้มครองสุขภาพเพียงอย่างเดียว แต่ความจริงแล้ว ประกันประเภทนี้มีข้อดีมากกว่านั้น อาทิ
อ่านเพิ่มเติม: ซื้อประกันสุขภาพแบบไหน ถึงจะได้สิทธิลดหย่อนภาษี
1. ให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งปัญหาสุขภาพ และการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ ซึ่งผู้เอาประกันสามารถเข้ารับการรักษาในสถานพยาบาลชั้นนำ ได้ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
2. ช่วยให้ผู้เอาประกันวางแผนชีวิตได้ดีขึ้น เพราะความคุ้มครองของประกันครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลราคาสูง จึงทำให้ผู้เอาประกันได้รับการรักษาที่ดีที่สุดในราคาสบายกระเป๋า
และยังคงมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดี อีกทั้งยังเป็นประกันที่ไม่ได้ผูกมัดในระยะยาว จึงช่วยให้ผู้เอาประกันสามารถปรับเปลี่ยนแผนประกันให้สอดคล้องกับความต้องการได้อย่างยืดหยุ่น
3. ประกันสุขภาพเป็นประกันที่ลดหย่อนภาษีได้ เรื่องนี้สำคัญมากกับคนวัยทำงาน ที่จำเป็นต้องเสียภาษีเงินได้เป็นประจำทุกปี โดยเฉพาะกับคนที่รายได้สูง เพราะต้องจ่ายเงินทิ้งเปล่าไปเป็นจำนวนมาก
ดังนั้นใครที่มีรายได้ถึงเกณฑ์เสียภาษีแล้ว และไม่อยากจ่ายภาษีทิ้งไปเฉยๆ ก็สามารถนำเงินจำนวนนั้น มาใช้ในประโยชน์ในการซื้อประกันสุขภาพได้
ประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่?
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า ประกันสุขภาพนำมาลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 100,000 บาท ตามลักษณะของประกัน ดังนี้
1. ประกันสุขภาพตนเอง
ผู้ที่ซื้อประกันสุขภาพให้ตนเอง สามารถนำมูลค่าเบี้ยประกันใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามจริง แต่ไม่เกิน 25,000 บาท/ปี แต่ถ้าซื้อประกันสุขภาพควบคู่กับประกันชีวิตที่มีกำหนดตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
จะนำมาลดหย่อนภาษีได้ตามจริง สูงสุดไม่เกิน 100,000 บาท (เฉพาะเบี้ยประกันที่จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป)
2. ประกันสุขภาพพ่อแม่
มูลค่าเบี้ยประกันสุขภาพที่ซื้อให้พ่อแม่ก็นำมาลดหย่อนภาษีได้เช่นกัน แต่ต้องเป็นพ่อแม่แท้ๆ ที่ผูกพันกันทางสายเลือด และพ่อแม่จะต้องมีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี เท่านั้น
โดยลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกินคนละ 15,000 บาท คือ ใช้สิทธิ์ลดหย่อนจากประกันของพ่อได้ไม่เกิน 15,000 บาท และใช้สิทธิ์ลดหย่อนจากประกันของแม่ได้อีกไม่เกิน 15,000 บาท
โดยถ้าในครอบครัวมีลูกหลายคน และแต่ละคนต้องการใช้สิทธิลดหย่อนภาษี จะต้องคิดแบบหารเฉลี่ย
3. ประกันสุขภาพคู่สมรส
นอกจากนี้ ประกันสุขภาพที่ทำให้คู่สมรสตามกฎหมาย ก็ใช้ลดหย่อนภาษีได้ตามจริงไม่เกิน 15,000 บาท/ปี แต่จะใช้สิทธิ์ได้ก็ต่อเมื่อคู่สมรสไม่มีรายได้เท่านั้น
อ่านเพิ่มเติม: เลือกให้ถูก ซื้อประกันสุขภาพตอนไหน? คุ้มที่สุด!
ประกันสุขภาพไม่จ่ายกรณีไหนบ้าง?
สำหรับกรณีที่ประกันสุขภาพจะไม่จ่าย หรือไม่รับเคลมเลย มีดังนี้
1. เจ็บป่วยด้วยโรคที่เป็นมาก่อนทำประกัน ทั้งโรคที่เป็นมาตั้งแต่กำเนิด และโรคเรื้อรังที่ยังรักษาไม่หาย เช่น เบาหวาน ความดัน เกาต์ ภูมิแพ้ตัวเอง ไตวาย ฟอกไต ล้างไต
ตาบอด 2 ข้าง หูหนวก 2 ข้าง โรคหัวใจทุกประเภทที่ยังไม่มีการผ่าตัด เป็นต้น
2. การเข้ารับการรักษาที่เกินจำเป็น หรือไม่มีข้อบ่งชี้จากแพทย์ เช่น ขอนอนโรงพยาบาลเอง โดยที่แพทย์ไม่ได้ลงความเห็นว่าต้องแอดมิด หรือขอตรวจ CT Scan โดยไม่มีข้อบ่งชี้
อ่านเพิ่มเติม: ตรวจสุขภาพประจําปี ต้องตรวจโรคอะไรบ้าง?
3. เจ็บป่วยในช่วงระยะรอคอย หรือ ช่วงที่ประกันสุขภาพยังไม่เริ่มคุ้มครอง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะไม่เกิน 120 วัน หลังจากทำประกัน ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรคและแผนประกัน
4. เจ็บป่วยด้วยโรค หรือสาเหตุที่ระบุไว้ในกรมธรรม์อย่างชัดเจนแล้ว เช่น
การตั้งครรภ์ แท้งบุตร หรือคลอดบุตร
โรคที่ระบุว่าไม่ให้ความคุ้มครอง เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ โรคเกี่ยวกับความผิดปกติทางสายตา โรคทางจิตเวช เป็นต้น
การตรวจ รักษา ใช้ยา หรือศัลยกรรม ที่เกี่ยวข้องกับความสวยความงาม และการชะลอความเสื่อมของวัย
การรักษาหรือบำบัดโรคที่เกิดจากการติดยาเสพติด บุหรี่ และสุรา
การตรวจ หรือรักษาโรคที่ยังอยู่ในระหว่างทดลอง
การตรวจรักษาโดยแพทย์ทางเลือก ที่นอกเหนือแพทย์แผนปัจจุบัน
การฆ่าตัวตาย การพยายามฆ่าตัวตาย และการทำร้ายร่างกายตนเอง รวมถึงการที่ผู้รับผลประโยชน์จงใจฆาตกรรมผู้เอาประกันด้วย
อ่านเพิ่มเติม: ประกันสุขภาพ ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่?
การบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากการกระทำภายใต้ฤทธิ์ยายาเสพติด และสุรา (ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดมากกว่า 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์)
การบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากการที่ผู้เอาประกันก่ออาชญากรรมที่มีความผิดสถานหนัก หรือขณะถูกจับกุม หรือหลบหนีการจับกุม
การบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากการแข่งรถหรือแข่งเรือทุกชนิด แข่งม้า แข่งสกีทุกชนิด เจ๊ตสกี สเก็ต ชกมวย โดดร่ม (เว้นแต่การโดดร่มเพื่อรักษาชีวิต) ขณะกำลังขึ้นหรือกำลังลงหรือโดยสารอยู่ในบอลลูน หรือเครื่องร่อน เล่นบันจี้จั๊มพ์ ดำน้ำที่ต้องใช้ถังอากาศและเครื่องช่วยหายใจใต้น้ำ
สงคราม การรุกรานของศัตรูต่างชาติ การก่อการร้าย รวมถึงการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นขณะที่ผู้เอาประกันปฏิบัติหน้าที่เป็นทหาร ตำรวจ หรืออาสาสมัคร ที่เข้าปฏิบัติการในสงคราม หรือปราบปราม
การแผ่รังสี หรือการแพร่ของสารกัมมันตภาพรังสี
หากพบว่าผู้เอาประกันปกปิด หรือปลอมแปลงข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับสุขภาพ หรือข้อมูลอื่นๆ ที่มีผลต่อการพิจารณาอนุมัติความคุ้มครอง บริษัทประกันมีสิทธิ์ปฏิเสธการเคลม และยกเลิกกรมธรรม์ในภายหลังได้
มายเหตุ: เงื่อนไขการไม่คุ้มครองของแต่ละบริษัทประกันอาจแตกต่างกันไป ควรศึกษาและสอบถามข้อมูลให้ละเอียดก่อนตัดสินใจทำประกันสุขภาพ
เมื่อรู้แบบนี้แล้ว ก็ควรรีบทำประกันสุขภาพตั้งแต่ที่ยังสุขภาพแข็งแรงอยู่ และหลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจทำให้บริษัทประกันปฏิเสธความคุ้มครองในภายหลัง
เพื่อให้การจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพในแต่ละครั้ง เกิดประโยชน์มากที่สุด ทั้งในเรื่องความคุ้มครองสุขภาพ การวางแผนชีวิต และการลดหย่อนภาษี