ประกันสุขภาพ ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่?
ประกันสุขภาพ ลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่?
จำได้ไหมว่าในแต่ละปี คุณต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดากันไปเท่าไหร่? เคยเสียดายไหม เวลาที่ต้องจ่ายเงินภาษีเพิ่มไปเฉยๆ?
จะดีกว่าไหม ถ้าวันนี้เงินนั้นจะเปลี่ยนไปเป็นสิ่งที่ช่วยคุ้มครองชีวิต และช่วยให้จ่ายภาษีน้อยลงได้?
เมื่อพูดถึงการจ่ายภาษี เชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่คนมีรายได้อยู่ในเกณฑ์ต้องจ่ายภาษีมักจะมองหาอยู่เสมอ คือ ตัวช่วยในการลดหย่อนภาษีอย่าง “ประกันสุขภาพ” เพราะได้ประโยชน์ทั้งในเรื่องความคุ้มครองด้านสุขภาพ ชีวิต และยังช่วยลดหย่อนรายจ่ายด้านภาษีประจำปีได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ด้วยความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน หรือไม่รู้ข้อมูลที่แท้จริงว่าประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่ ทำให้ที่ผ่านมายังคงมีคนบางส่วนที่แม้จะทุ่มเทเงินไปทำประกันสุขภาพแบบเต็มที่ แต่ก็อาจจะต้องจ่ายภาษีในจำนวนที่เยอะมากอยู่ดี
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากทำประกันสุขภาพเพื่อลดหย่อนภาษี แต่ไม่อยากเจอเหตุการณ์จ่ายซ้ำซ้อนแบบนี้ล่ะก็ ขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดบทความนี้
ทำไมใครๆ ถึงลดหย่อนภาษีด้วยประกันสุขภาพ?
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ใครๆ ต่างก็เลือกประกันสุขภาพมาเป็นตัวช่วยดีๆ ในการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คือ เป็นประกันที่มาพร้อมสิทธิประโยชน์มากมาย
1. ช่วยคุ้มครองสุขภาพและชีวิต
ปัญหาด้านสุขภาพและอุบัติเหตุ เป็นเรื่องที่คาดการณ์ล่วงหน้าไม่ได้ และอาจกลายเป็นเรื่องยุ่งยาก เมื่อต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล เพราะนั่นหมายถึงการต้องหยุดงาน ขาดรายได้ และต้องจ่ายค่ารักษาเป็นเงินก้อนใหญ่ ซึ่งอาจมากเกินกว่าที่งบของประกันสังคม หรือสวัสดิการของบริษัทมีให้
ดังนั้นการทำประกันในส่วนนี้เอาไว้ จะช่วยดูแลและคุ้มครองค่าใช้จ่ายได้ตลอดกระบวนการรักษา ตั้งแต่ติดต่อโรงพยาบาล ส่งตัวเข้ารักษา พักฟื้น ชดเชยรายได้จากการหยุดงาน ตลอดจนถึงวันสุดท้ายที่ออกจากโรงพยาบาล ทำให้คุณเบาใจเรื่องค่าใช้จ่าย ไม่ต้องนำเงินเก็บออกมาใช้จนหมด หรือต้องกู้เงินจนเป็นหนี้
2. ได้รับบริการแบบพรีเมียมในราคาที่คุ้มค่า
ประสบการณ์เดิมๆ เกี่ยวกับการเข้าโรงพยาบาลของมนุษย์เงินเดือน คือ ถ้าใครที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษาอาการเจ็บป่วย ก็จะเลือกเข้าโรงพยาบาลรัฐ แต่ก็ต้องแลกมากับการรอคิวนานเป็นวัน
เพราะบุคลากรทางการแพทย์มีไม่พอกับจำนวนผู้ป่วย ส่วนใครที่รอไม่ไหว หรืออยากซื้อเวลา เพราะงานรออยู่ ก็ต้องอดทนไปเข้าโรงพยาบาลเอกชนที่ค่าใช้จ่ายแพงกว่าหลายเท่าตัว
แต่ “ประกันสุขภาพ” จะช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ที่ดีกว่าเดิม เพราะเมื่อไหร่ที่คุณเจ็บป่วย หรือเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันขึ้นมา ประกันที่จ่ายค่าเบี้ยเพียงเล็กน้อยนี้ จะช่วยให้คุณสามารถเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเอกชนที่มีอุปกรณ์ครบครัน
และมีบริการแบบพรีเมียมได้ทันที หมดปัญหาเรื่องการรอคิวจนเสียงาน หรือการจ่ายค่ารักษาบานปลาย
3. มีความยืดหยุ่น ไม่ผูกมัดระยะยาว
อีกหนึ่งข้อดีของประกันรูปแบบนี้ คือ การไม่ผูกมัดให้ต้องจ่ายเบี้ยประกันในระยะยาว สามารถจ่ายครั้งเดียวจบ และตัดสินใจทำใหม่ได้ปีต่อปี เหมาะกับคนที่ต้องการปรับเปลี่ยนแผนการใช้จ่ายเงินให้สอดคล้องกับรายได้ และค่าภาษีในแต่ละปี
4. ช่วยลดหย่อนภาษีประจำปีได้
ที่สำคัญ ประกันสุขภาพยังนำมาลดหย่อนภาษีได้มากถึง 100,000 บาทเลยทีเดียว ช่วยให้คุณได้รับความคุ้มค่ามากขึ้น เพราะสามารถเปลี่ยนเงินภาษีที่อาจจ่ายไปแบบทิ้งเปล่า ให้กลายเป็นความคุ้มครองที่มีประโยชน์กับทั้งตนเองและครอบครัวได้
ประกันสุขภาพคุ้มครองอะไรบ้าง?
ปัจจุบันมีประกันสุขภาพส่วนบุคคลจากหลายบริษัทให้เลือกมากมาย และแต่ละแผนประกันก็มีเงื่อนไขความคุ้มครองต่างกันไป โดยสามารถเลือกซื้อความคุ้มครองได้ดังนี้
1. การรักษาตัวในโรงพยาบาล (ผู้ป่วยใน) ให้ความคุ้มครองเมื่อผู้เอาประกันภัยต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยใน ครอบคลุมค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการพยาบาล ค่าบริการทั่วไป และค่าใช้จ่ายในกรณีที่มีการรักษาพยาบาลหรือผ่าตัดฉุกเฉินภายใน 24 ชั่วโมง หลังจากเกิดอุบัติเหตุ
2. การรักษาพยาบาลโดยการผ่าตัด ให้ความคุ้มครองสำหรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัดโดยแพทย์หรือศัลยแพทย์ และการปรึกษาแพทย์ในกรณีมีการผ่าตัด
3. การดูแลโดยแพทย์ ให้ความคุ้มครองสำหรับค่าใช้จ่ายในการดูแลโดยแพทย์ของโรงพยาบาลแต่ละวัน หรือค่าปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรค
4. การรักษาพยาบาลที่ไม่ได้อยู่รักษาตัวในโรงพยาบาล (ผู้ป่วยนอก) ให้ความคุ้มครองสำหรับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่คลินิกหรือแผนกผู้ป่วยนอกของโรงพยาบาล
5. การคลอดบุตร ให้ความคุ้มครองสำหรับค่าใช้จ่ายในการพักรักษาตัวในโรงพยาบาล
6. การรักษาฟัน
7. การดูแลโดยพยาบาลพิเศษ ที่มีความจำเป็นตามคำสั่งของแพทย์
8. การรักษาการบาดเจ็บ หรือการเจ็บป่วยที่ประเมินแล้วว่าจะมีค่าใช้จ่ายสูง
ข้อควรรู้ แผนประกันที่คุ้มครองหลายด้าน จะมาพร้อมค่าเบี้ยประกันที่สูงขึ้น
ประเภทของประกันสุขภาพที่ลดหย่อนภาษีได้
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่คุณจะตัดสินใจทำประกันสุขภาพเพื่อลดภาษี นอกจากจะดูที่ความคุ้มครองแล้ว ควรรู้ด้วยว่าประกันที่ลดหย่อนภาษีได้นั้นมีกี่ประเภท และแต่ประเภทลดหย่อนภาษีได้เท่าไหร่ เพื่อให้วางแผนการใช้เงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ไม่ต้องคอยลุ้นว่าจะเจอกับเหตุการณ์ที่ทำประกันแล้ว แต่ยังต้องจ่ายภาษีไม่ต่างจากเดิม
ประกันสุขภาพที่จะนำมาลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา จะต้องเป็นประกันเฉพาะบุคคลเดียว ไม่ใช่ประกันกลุ่ม โดยแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้
1. ประกันสุขภาพตนเอง
ผู้ที่ซื้อประกันสุขภาพให้ตนเอง สามารถนำมูลค่าเบี้ยประกันมาลดหย่อนภาษีได้ตามจริง แต่ไม่เกิน 25,000 บาท/ปี แต่ถ้าซื้อประกันสุขภาพควบคู่กับประกันชีวิตที่มีกำหนดตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป
เมื่อคิดมูลค่ารวมแล้ว จะต้องไม่เกิน 100,000 บาท (ข้อกำหนดสำหรับเบี้ยประกันที่จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป)
2. ประกันสุขภาพพ่อแม่
สำหรับใครที่ต้องแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งไปซื้อประกันสุขภาพให้กับพ่อแม่ จะสามารถนำค่าใช้จ่ายนั้นมาลดหย่อนภาษีได้ก็ต่อเมื่อ พ่อแม่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาท/ปี เท่านั้น
โดยลดหย่อนได้สูงสุดไม่เกินคนละ 15,000 บาท หรืออธิบายง่ายๆ ได้ว่า ประกันของพ่อลดหย่อนได้ไม่เกิน 15,000 บาท และประกันของแม่ลดหย่อนได้ไม่เกิน 15,000 บาท
ส่วนกรณีที่พ่อแม่มีลูกหลายคน ลูกทุกคนจะสามารถใช้สิทธิลดหย่อนได้ แต่ต้องคำนวณแบบหารเฉลี่ย เช่น เบี้ยประกันสุขภาพของแม่ 15,000 บาท และในครอบครัวมีลูก 5 คน นั่นหมายความว่า พี่น้องแต่ละคนจะลดหย่อนภาษีได้คนละ 3,000 บาท เป็นต้น
3. ประกันสุขภาพคู่สมรส
นอกจากนั้น ยังใช้สิทธิลดหย่อนของประกันที่ทำให้คู่สมรสได้อีกด้วย แต่จะต้องเป็นคู่สมรสตามกฎหมาย (จดทะเบียนสมรสกัน) เท่านั้น และคู่สมรสจะต้องไม่มีรายได้ โดยลดหย่อนได้ตามจริง แต่ต้องไม่เกิน 15,000 บาท/ปี
ทั้งนี้ กรณีจดทะเบียนสมรสระหว่างปีภาษี คู่สมรสตายระหว่างปี หรือคู่สมรสหย่าระหว่างปี จะยังคงหักลดหย่อนได้ตามปกติ
นอกจากนี้ ประกันสุขภาพที่นำมาลดหย่อนภาษีได้ ควรมีเงื่อนไขที่เข้าเกณฑ์ตามข้อมูลด้านล่างนี้อย่างน้อย 1 เงื่อนไขด้วย
1. ประกันที่ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล การชดเชยทุพพลภาพ และการสูญเสียอวัยวะ เนื่องจากการเจ็บป่วยและบาดเจ็บ
2. ประกันอุบัติเหตุเฉพาะที่ให้ความคุ้มครองเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล การทุพพลภาพ การสูญเสียอวัยวะ และการแตกหักของกระดูก
3. ประกันภัยโรคที่ร้ายแรง (Critical Illnesses)
4. ประกันภัยการดูแลระยะยาว (Long Term Care)
ทำประกันสุขภาพลดหย่อนภาษีที่ไหนดี?
สำหรับบริษัทประกันหรือโบรกเกอร์ที่ควรทำประกันสุขภาพด้วย ควรเป็นบริษัทที่ได้รับความเชื่อถือจากคปภ. และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าเก่า ทั้งในเรื่องของประวัติการเคลม งบกำไร-ขาดทุน บริการหลังการขาย และข้อร้องเรียนในอดีต
เพื่อแสดงออกถึงความสามารถในการมอบความคุ้มครองตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ และความสามารถในการส่งต่อข้อมูลของคุณไปยังกรมสรรพากร
เพราะต้องไม่ลืมว่าการที่จะใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้นั้น ผู้ทำประกันจะต้องแจ้งความประสงค์ขอยกเว้นภาษีไปยังบริษัทประกันก่อน เพื่อให้เขานำส่งข้อมูลไปยังกรมสรรพากรอีกทอดหนึ่ง
ถ้ารู้แล้วว่าประกันสุขภาพดีอย่างไร และช่วยลดหย่อนภาษีได้มากแค่ไหน ก็อย่าปล่อยให้โอกาสดีๆ หลุดลอยไป ติดต่อ SMILE INSURE เพื่อหาประกันที่ถูกใจได้แล้ววันนี้ โทร Call Center 02-233-9999 หรือ SMILE INSURE