เมื่อซื้อบ้านใหม่มือ 1 ไม่ว่าจะซื้อผ่อนกับธนาคาร หรือซื้อสดด้วยเงินของตัวเอง หลายคนก็มักจะทำประกันบ้าน หรือประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัยด้วย เพื่อเพิ่มความคุ้มครอง และลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน 

เพราะเห็นว่าบ้านมีราคาสูง และยังใหม่อยู่ ถ้าได้รับความเสียหายขึ้นมา นอกจากจะน่าเสียดายแล้ว ยังอาจทำให้เจ้าของบ้านแบกรับค่าใช้จ่ายต่างๆ ไม่ไหว 

แต่พอเป็นบ้านมือ 2 ที่ซื้อขายกันเองโดยไม่ผ่านธนาคาร บางคนก็เลือกที่จะไม่ทำประกันบ้านแล้ว เพราะคิดว่าบ้านเก่าคงทำประกันไม่ได้ หรือบางคนก็คิดว่าประกันเป็นสิ่งไม่จำเป็น 

และไม่คุ้มค่าสำหรับบ้านเก่า ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว ประกันบ้านมือ 2 ยังเป็นสิ่งที่ทำได้ ควรทำ และสำคัญกว่าที่คิด 

บ้านมือ 2 ทำประกันบ้านได้ไหม?

ไม่ว่าจะเป็นบ้านมือ 2, 3, 4… ที่เปลี่ยนมือเจ้าของบ้านมาแล้วกี่ครั้ง ก็ยังคงทำประกันบ้าน หรือประกันอัคคีภัยสำหรับที่อยู่อาศัยได้ เพราะประกันประเภทนี้ไม่ได้มีข้อกำหนดเรื่องอายุของบ้าน หรือจำนวนครั้งในการซื้อขายบ้าน

แต่ทั้งนี้ ก็มีเกณฑ์หลายอย่างที่บริษัทประกันจะนำมาใช้กำหนดค่าเบี้ยประกัน และพิจารณาอนุมัติกรมธรรม์ เช่น ลักษณะสิ่งปลูกสร้าง 

(เช่น บ้านที่ทำด้วยไม้ทั้งหลัง บ้านไม้ผสมปูน บ้านปูนทั้งหลัง) รูปแบบบ้าน (เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ บ้านตึกแถว) ขนาดของบ้านและพื้นที่ใช้สอย เป็นต้น

ประกันบ้านคุ้มครองอะไรบ้าง?

ประกันบ้าน เป็นการประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองบ้าน (ไม่รวมฐานราก) รวมถึงที่อยู่อาศัยในรูปแบบต่างๆ เช่น ทาวน์เฮาส์ คอนโดมิเนียม แฟลต เป็นต้น และทรัพย์สินภายในบ้าน อาทิ เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และสิ่งอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการอยู่อาศัย จากเหตุการณ์เหล่านี้

• ไฟไหม้ รวมถึงไฟไหม้ป่า พุ่มไม้ พงรก และการเผาป่าเพื่อปราบพื้นที่

• ฟ้าผ่า (รวมถึงความเสียหายต่อเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เกิดจากการลัดวงจรจากฟ้าผ่า)

• การระเบิดทุกชนิด

• ภัยเนื่องจากน้ำ อันเกิดขึ้นโดยอุบัติเหตุจากการปล่อยการรั่วไหล หรือการล้นออกมาของน้ำหรือไอน้ำ จากท่อน้ำ ถังน้ำ ระบบทำความร้อน ระบบทำความเย็น ระบบปรับอากาศ เครื่องสูบน้ำ รวมถึงน้ำฝนที่ไหลผ่านเข้าไปภายในอาคารจากการเสียหายของหลังคา หน้าต่าง ประตู วงกบประตูหน้าต่าง ช่องลม ช่องรับแสงสว่าง ท่อน้ำหรือรางน้ำ

อ่านเพิ่มเติม: สัตว์ป่าพังบ้าน! เคลมประกันบ้านได้ไหม?

• ภัยจากน้ำท่วม หมายถึง น้ำซึ่งไหลล้นหรือไหลออกจากทางน้ำปกติซึ่งจะเป็นทางน้ำธรรมชาติ หรือจะเป็นทางน้ำที่สร้างขึ้น (ไม่รวมรางน้ำบนหลังคา) หรือเกิดจากท่อน้ำสาธารณะแตก ทำให้เกิดการท่วมของน้ำจากภายนอกของอาคารที่เอาประกันภัยไว้ หรืออาคารที่เก็บทรัพย์สินที่เอาประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันภัยฉบับนี้ รวมถึงน้ำท่วมอันเกิดจากลมพายุ น้ำป่า และโคลนถล่ม

• ภัยจากลมพายุ

• ภัยจากการเฉี่ยว และหรือการชนของยานพาหนะหรือสัตว์พาหนะ เช่น ช้าง ม้า วัว ควาย เป็นต้น

• ภัยจากอากาศยาน และหรือวัตถุที่ตกจากอากาศยาน รวมถึงจรวด ซึ่งขับเคลื่อนด้วยตัวเองและยานอวกาศยกเว้นจรวดที่เป็นอาวุธ

• ภัยจากแผ่นดินไหว หรือภูเขาไฟระเบิด หรือคลื่นใต้น้ำ หรือสึนามิ ที่มีสาเหตุจากธรรมชาติ และให้หมายความรวมถึงน้ำท่วม อันมีสาเหตุจากแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟระเบิด ที่มีสาเหตุจากธรรมชาติ ทั้งนี้ไม่คุ้มครองความเสียหายโดยตรงหรือโดยทางอ้อม ที่เกิดจากภัยแผ่นดินไหวหรือภูเขาไฟระเบิดอันเกิดจากวัตถุใดๆ จากอวกาศ

อ่านเพิ่มเติม: ซื้อบ้านใหม่ทั้งที ควรทำประกันอะไรบ้าง?

• ภัยจากลูกเห็บ ให้หมายความรวมถึง น้ำฝน น้ำค้างแข็ง หิมะ ทราย หรือ ฝุ่นละอองดังกล่าวไหลผ่านเข้าไปในอาคาร ตามร่องแตกร้าวของอาคาร สิ่งปลูกสร้างที่ได้รับความเสียหายอันเกิดจากลูกเห็บโดยตรงเท่านั้น หรือน้ำจากเครื่องพรมน้ำหรือท่อน้ำอื่นๆ ที่เกิดเสียหายขึ้นเนื่องจากลูกเห็บโดยตรง

แต่ประกันบ้านจะไม่ให้ความคุ้มครองทรัพย์สินส่วนบุคคล อย่างเช่น โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าเงิน คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต เครื่องประดับ เป็นต้น 

*เงื่อนไขความคุ้มครองขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละบริษัทประกัน 

บ้านมือ 2 จําเป็นต้องทําประกันบ้านหรือไม่?

จากความคุ้มครองทั้งหมดนั้น พูดได้ว่า ประกันบ้าน “จำเป็น” กับบ้านมือ 2 ไม่ต่างจากบ้านใหม่มือ 1 และอาจจะจำเป็นมากกว่าด้วย เพราะผู้ซื้อบ้านมือ 2 ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าตลอดระยะเวลาที่สร้างบ้าน หรือตลอดระยะเวลาที่เจ้าของบ้านคนเดิมอาศัยอยู่ ตัวบ้านเคยชำรุด 

หรือมีปัญหาตรงไหนมาแล้วบ้าง? อีกทั้งโครงสร้างของบ้าน เช่น รางน้ำฝน ท่อประปา ระบบป้องกันไฟฟ้าลัดวังจร ฯลฯ ทั้งในจุดที่มองเห็น และมองไม่เห็น ก็อาจเสื่อมสภาพตามกาลเวลาได้

ดังนั้น การทำประกันบ้านมือ 2 จึงเป็นตัวช่วยที่จะเพิ่มความอุ่นใจ และเพิ่มความคุ้มครองให้เจ้าของบ้านคนใหม่ สามารถอยู่อาศัยได้อย่างปลอดภัย ไม่ต่างจากการอยู่บ้านใหม่มือ 1

อ่านเพิ่มเติม: 7 เรื่องสำคัญ ที่คนอยากซื้อบ้านใหม่ต้องรู้!

อย่างไรก็ตาม ถ้าการซื้อบ้านมือ 2 นั้น ดำเนินการผ่านการกู้สินเชื่อบ้านของธนาคาร ธนาคารจะกำหนดให้ผู้ซื้อบ้านหรือผู้กู้สินเชื่อต้องทำประกันบ้านอยู่แล้ว และอาจจะแนะนำให้ผู้กู้ทำประกันประเภทอื่นเพิ่มเติมด้วย 

เช่น ประกันชีวิตที่มีวงเงินคุ้มครองครอบคลุมราคาบ้านได้ เพื่อเป็นหลักประกันว่าการกู้สินเชื่อซื้อบ้านมือ 2 ในครั้งนั้นๆ จะไม่กลายเป็นหนี้สูญ แต่ผู้ซื้อบ้านก็สามารถเลือกแผนประกันตามความสนใจได้อย่างอิสระ ไม่จำเป็นต้องทำประกันบ้านที่เสนอขายโดยธนาคารนั้นๆ เสมอไป

สำหรับใครที่อ่านจบ และเริ่มสนใจทำประกันบ้านมือ 2 ขึ้นมาแล้ว วิธีที่ดี และง่ายที่สุดคือ การทำประกันออนไลน์กับโบรกเกอร์ชั้นนำ เพราะเป็นช่องทางที่จะช่วยให้คุณเปรียบเทียบข้อมูลประกันบ้านของแต่ละบริษัทได้เป็นอย่างดี

และจะได้รับคำแนะนำอย่างตรงไปตรงมา ทั้งในเรื่องของความคุ้มครอง และค่าเบี้ยประกัน ทำให้สามารถตัดสินใจเลือกประกันที่ถูกใจได้เอง โดยไม่ต้องเจอการชักจูงใจจากใคร อีกทั้งยังรอรับกรมธรรม์ส่งตรงถึงอีเมลได้อย่างรวดเร็วด้วย 

เรียกได้ว่าสะดวก รวดเร็ว ทันใจ เหมาะกับยุคดิจิทัล ที่ต้องการความสะดวกสบาย และการใช้ชีวิตที่รวดเร็วแบบนี้