ปีนี้ถือเป็นปีทองของรถยนต์ไฟฟ้า เพราะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นมากทั่วโลก จากหลายสิ่งที่ทำให้คนหันมาสนใจรถยนต์ประเภทนี้ ด้วยความที่ประหยัดน้ำมัน ไร้มลพิษเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และระบบการทํางานที่เงียบทำให้รถประเภทนี้เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น

ทำไมรถยนต์ไฟฟ้าถึงเป็นที่นิยมในปี 2024

ในปี 2024 รถยนต์ไฟฟ้ากำลังได้รับความสนใจและยอมรับเพิ่มมากขึ้นจากผู้บริโภคทั่วโลก สาเหตุหลักมาจากหลายปัจจัยดังนี้

ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีแบตเตอรี่

หนึ่งในข้อจำกัดสำคัญของรถไฟฟ้าในอดีตคือระยะทางวิ่งไกลจำกัด แต่ในปัจจุบันเทคโนโลยีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนได้รับการพัฒนาให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น สามารถจัดเก็บประจุไฟฟ้าได้มากกว่าเดิม 

ทำให้รถไฟฟ้ามีระยะทางวิ่งเพิ่มขึ้นถึง 300-500 กิโลเมตรต่อการชาร์จ จึงลดความกังวลในประเด็นระยะทางได้

ต้นทุนการผลิตลดลง

จากการผลิตในระดับอุตสาหกรรมเพิ่มขึ้น และเทคโนโลยีการผลิตก้าวหน้ามากขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าลดลง ราคาขายจึงแข่งขันได้กับรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน คาดว่าในอีก 2-3 ปีข้างหน้า ราคารถไฟฟ้าจะถูกกว่ารถยนต์ทั่วไป

อ่านเพิ่มเติม: 6 เทคนิค ถนอมแบตเตอรี่ รถ EV ระยะยาว

มาตรการส่งเสริมจากภาครัฐ

หลายประเทศทั่วโลก ได้กำหนดนโยบายและมาตรการต่างๆ เพื่อส่งเสริมให้ผู้บริโภคหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า อาทิเช่น การให้เงินอุดหนุน ลดภาษีนำเข้า จัดสร้างสถานีชาร์จพลังงาน เพื่อเป็นการลดมลพิษและพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิล

ข้อกังวลด้านสิ่งแวดล้อม

กระแสการรักษาสิ่งแวดล้อมและต่อต้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้แพร่หลายมากขึ้น ผู้คนจำนวนมากหันมาให้ความสำคัญกับการใช้พลังงานสะอาดเพื่อลดการปล่อยคาร์บอน รถยนต์ไฟฟ้าจึงเป็นทางเลือกที่น่าดึงดูด

อ่านเพิ่มเติม: 5 ข้อควรระวัง! สําหรับมือใหม่หัดขับรถ EV

ด้วยปัจจัยเหล่านี้ จึงทำให้ปี 2024 เป็นปีที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้ามีการเติบโตสูงขึ้นอย่างมาก ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคทั้งในแง่ของความประหยัดและการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม คาดว่าจะมียอดขายสูงสุดถึง 12 ล้านคันทั่วโลกในปีนี้

ข้อดีของรถ EV

เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

รถไฟฟ้าไม่ปล่อยมลพิษทางอากาศ เช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ หรือคาร์บอนมอนอกไซด์ ช่วยลดมลพิษและปัญหาภาวะโลกร้อน

ประหยัดค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิง

รถไฟฟ้าใช้พลังงานจากแบตเตอรี่แทนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งมีราคาถูกกว่ามาก ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเติมเชื้อเพลิงได้

เงียบและนุ่มนวล

เนื่องจากใช้มอเตอร์ไฟฟ้าแทนเครื่องยนต์สันดาปภายใน จึงทำให้รถไฟฟ้ามีเสียงดังน้อยและขับขี่นุ่มนวลกว่า

บำรุงรักษาง่าย

รถไฟฟ้ามีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวน้อยกว่ารถที่ใช้เครื่องยนต์ธรรมดา ทำให้มีความจำเป็นต้องบำรุงรักษาน้อยลง

อัตราเร่งสูง

มอเตอร์ไฟฟ้าสามารถสร้างแรงบิดสูงได้ตั้งแต่ความเร็วต่ำ ทำให้รถไฟฟ้ามีอัตราเร่งดีเยี่ยม

กระแสไฟฟ้ากลับ (Regenerative Braking)

ระบบนี้ช่วยชาร์จแบตเตอรี่ขณะเบรกหรือลงทางลาดชัน ช่วยประหยัดพลังงานและเพิ่มระยะทางวิ่งได้ไกลขึ้น แม้ข้อดีเหล่านี้จะน่าสนใจ แต่ข้อจำกัดบางประการ เช่น ระยะทางวิ่งจำกัด เวลาชาร์จนาน และราคาสูง ยังเป็นอุปสรรคสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า

เหตุผลที่ไม่ควรชาร์จแบตเตอรี่รถ EV เต็ม 100%

แม้ว่าการชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าให้เต็ม 100% จะดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่จริงๆแล้วมันอาจส่งผลเสียต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ได้ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ใช้ในรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่จะทนทานที่สุดเมื่อระดับประจุอยู่ระหว่าง 20-80% 

เนื่องจากการชาร์จเต็ม 100% หรือปล่อยให้ประจุหมดจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น

ดังนั้นจึงแนะนำว่าไม่ควรชาร์จแบตเตอรี่รถ EV ให้เต็ม 100% บ่อยๆ เว้นแต่ในกรณีที่จำเป็นต้องใช้ระยะทางไกล ควรหยุดชาร์จที่ประมาณ 80-90% เพื่อยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้นานที่สุด

 อ่านเพิ่มเติม: รู้ก่อนซื้อรถ EV จะต้องเตรียมอะไรบ้าง?

ประกันรถ EV สําคัญแค่ไหน

1. ต้นทุนซ่อมแพง

รถยนต์ไฟฟ้ามีเทคโนโลยีที่ซับซ้อนและราคาอะไหล่แพงกว่ารถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายใน หากเกิดอุบัติเหตุ ค่าซ่อมแซมอาจสูงมาก ประกันภัยจะช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่ายเหล่านี้

2. ราคารถสูง

รถยนต์ไฟฟ้ามีราคาค่อนข้างสูง การมีประกันภัยคุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย หากเกิดอุบัติเหตุหรือรถหาย

3. แบตเตอรี่มีราคาแพง

แบตเตอรี่เป็นองค์ประกอบที่มีราคาสูงที่สุดของรถยนต์ไฟฟ้า ประกันภัยบางประเภทอาจคุ้มครองความเสียหายของแบตเตอรี่ด้วย ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายการเปลี่ยนใหม่

4. ค่าบริการที่สูง

การซ่อมและบำรุงรักษารถยนต์ไฟฟ้ามีค่าใช้จ่ายสูงกว่ารถยนต์ทั่วไป ประกันภัยอาจครอบคลุมค่าบริการเหล่านี้ได้

5. ความรับผิดต่อบุคคลภายนอก

เช่นเดียวกับรถยนต์ประเภทอื่น ประกันภัยช่วยคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลที่สาม หากรถยนต์ไฟฟ้าของคุณเป็นต้นเหตุให้บุคคลอื่นได้รับบาดเจ็บหรือทรัพย์สินเสียหาย

ดังนั้น การทำประกันภัยสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจึงมีความสำคัญมาก เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองอย่างครอบคลุมและช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากความเสียหายหรืออุบัติเหตุต่างๆ