ข้อดีของประกันกลุ่มที่ทุกองค์กรควรมี!
ปัจจุบันค่ารักษาพยาบาลแพงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกันกลุ่มจึงเป็นสวัสดิการอันดับต้นๆ ที่พนักงานทุกคนกำลังต้องการ และสำหรับองค์กร การเสนอประกันกลุ่มให้กับพนักงานสามารถสร้างความรู้สึกมั่นคง ความพึงพอใจในที่ทำงาน
เป็นสวัสดิการที่ช่วยดึงดูดและรักษาพนักงานอย่างมีคุณภาพ ประกันกลุ่มยังช่วยให้พนักงานสามารถเข้าถึงการประกันได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องผ่านการตรวจสุขภาพ ลดภาระค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของพนักงาน
ประกันกลุ่มคือรูปแบบของประกันสุขภาพที่ครอบคลุมกลุ่มคนจำนวนมาก โดยทั่วไปมักจะเป็นพนักงานในองค์กรหรือบริษัทเดียวกัน เป็นประกันกลุ่มที่ทำสัญญาระหว่างบริษัทประกันกับนายจ้างหรือองค์กร
จะให้ความคุ้มครองสมาชิกหรือพนักงานทุกคนในกลุ่มทั้งหมดภายใต้กรมธรรม์เดียว โดยจะมีเงื่อนไขและความคุ้มครองเหมือนกัน ซึ่งค่าเบี้ยประกันกลุ่มมักจะถูกกว่าการทำประกันรายบุคคล
ประกันกลุ่มสําหรับองค์กรค่าเบี้ยถูกกว่าประกันรายบุคคล
ประกันกลุ่มต้นทุนต่ำแต่พนักงานได้รับผลประโยชน์สูง
ต้นทุนที่ต่ำ ประกันกลุ่มมักมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับการซื้อประกันรายบุคคล เนื่องจากบริษัทประกันภัยมักจะเสนอราคาพิเศษสำหรับกลุ่มใหญ่ การใช้ประกันกลุ่มช่วยลดค่าใช้จ่ายโดยรวมให้กับองค์กร
ผลประโยชน์ที่สูง แม้ว่าต้นทุนจะต่ำ แต่บริษัทประกันภัยมักจะยังคงให้ผลประโยชน์ที่ครอบคลุมสำหรับพนักงาน เช่น คุ้มครองสุขภาพจากการเจ็บป่วย, คุ้มครองชีวิต, และความคุ้มครองจากอุบัติเหตุ ซึ่งช่วยให้พนักงานรู้สึกปลอดภัยและได้รับการดูแลอย่างดี
บริษัท / องค์กร สามารถใช้ประกันกลุ่มลดหย่อนภาษีได้
ค่าใช้จ่ายที่หักลดหย่อนภาษีได้ เบี้ยประกันกลุ่มที่บริษัทจ่ายให้กับพนักงานถือเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจ ซึ่งสามารถหักลดหย่อนจากรายได้รวมของบริษัทได้ ทำให้บริษัทลดจำนวนภาษีที่ต้องชำระ
ประกันกลุ่มช่วยเพิ่มความคุ้มครองให้พนักงาน
การมีประกันกลุ่มที่ครอบคลุมหลายด้าน เช่น ประกันสุขภาพ, ประกันชีวิต, และประกันอุบัติเหตุ ไม่เพียงแต่ช่วยลดค่าใช้จ่ายทางภาษี แต่ยังช่วยเสริมสร้างความพึงพอใจและรักษาพนักงาน
เงื่อนไขการพิจารณาประกันกลุ่มสําหรับองค์กร
ข้อยกเว้นและข้อจำกัด
ประกันกลุ่มอาจมีข้อยกเว้น เช่น ไม่ครอบคลุมการรักษาโรคที่เกิดจากกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง หรือโรคที่เกิดจากการกระทำผิดกฎหมาย
ขอบเขตการคุ้มครอง
ตรวจสอบว่าการคุ้มครองครอบคลุมถึงการรักษาพยาบาลที่ต้องนอนพักในโรงพยาบาล (IPD) หรือการรักษาพยาบาลนอกสถานพยาบาล (OPD)
การเลือกแผนประกันกลุ่มที่เหมาะสมจะต้องพิจารณาความต้องการเฉพาะขององค์กรและพนักงาน รวมถึงเงื่อนไขและข้อกำหนดของกรมธรรม์ ควรปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านประกันภัยเพื่อให้ได้แผนที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด
ปรึกษาเรื่องประกันกลุ่มเพื่อให้พนักงานของคุณอุ่นใจ Add Line @smileinsure หรือ ทัก Messenger คลิกเลย
ข้อกำหนดและเงื่อนไขการลดหย่อนภาษีประกันกลุ่ม
การจดทะเบียน
ประกันกลุ่มต้องผ่านการจดทะเบียนกับกรมสรรพากรและได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะสามารถนำค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อนภาษีได้
เอกสารและหลักฐาน
บริษัทต้องเก็บรักษาเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการจ่ายเบี้ยประกันกลุ่ม เช่น ใบเสร็จรับเงิน, สัญญาประกันภัย, และเอกสารที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการหักลดหย่อนภาษี
ข้อบังคับและข้อกำหนดเฉพาะ
ต้องตรวจสอบข้อบังคับและข้อกำหนดของกรมสรรพากรที่อาจเปลี่ยนแปลงได้ในแต่ละปี เพื่อให้แน่ใจว่าใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีได้อย่างถูกต้อง
ข้อดีของการมีประกันกลุ่มในองค์กร
1. สร้างความพึงพอใจให้กับพนักงาน
การมีประกันกลุ่มช่วยให้พนักงานรู้สึกได้รับการดูแลและสนับสนุนจากองค์กร ทำให้มีความพึงพอใจและความผูกพันกับองค์กรเพิ่มขึ้น
2. เสริมสร้างภาพลักษณ์องค์กร
องค์กรที่ให้ความสำคัญกับสวัสดิการพนักงานจะมีภาพลักษณ์ที่ดีในสายตาของลูกค้าและคู่ค้า
3. ประกันกลุ่มช่วยให้ค่าใช้จ่ายที่ลดลง
การทำประกันกลุ่มมักจะมีค่าเบี้ยประกันที่ต่ำกว่าการทำประกันบุคคล เพราะบริษัทประกันภัยจะใช้ข้อมูลและความเสี่ยงรวมของกลุ่มเพื่อกำหนดเบี้ยประกัน ทำให้สามารถแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายได้
4. ประกันกลุ่มให้ความสะดวกในการจัดการ
การทำประกันกลุ่มช่วยให้การจัดการเรื่องประกันภัยเป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น เพราะบริษัทหรือองค์กรจะเป็นผู้ดูแลการดำเนินการต่างๆ เช่น การชำระเบี้ยประกันและการบริหารจัดการเคลม
5. ประกันกลุ่มให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม
ประกันกลุ่มมักจะมีความคุ้มครองที่ครอบคลุมและหลากหลาย เช่น การประกันชีวิต, การประกันสุขภาพ, การประกันอุบัติเหตุ ซึ่งช่วยให้สมาชิกในกลุ่มได้รับความคุ้มครองที่ดีขึ้น
6. ประกันกลุ่มสำหรับองค์กร / บริษัท สมัครง่ายไม่ยุ่งยาก
สมาชิกในกลุ่มสามารถเข้าร่วมประกันได้ง่ายกว่าการทำประกันเป็นรายบุคคล เพราะบางครั้งไม่ต้องผ่านการตรวจสุขภาพหรือขั้นตอนที่ยุ่งยาก การใช้ประกันกลุ่มเป็นเครื่องมือในการลดหย่อนภาษีจึงเป็นกลยุทธ์ที่ดีในการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายและเพิ่มสวัสดิการให้กับพนักงานในองค์กร