บทความ | สาระน่ารู้อื่นๆ

อยู่บ้านจอดรถนานๆ ต้องดูแลยังไง?

อยู่บ้านจอดรถนานๆ ต้องดูแลยังไง?
11/06/2020  สาระน่ารู้อื่นๆ

ในช่วงที่ผ่านมาที่เราต้องเราไม่ได้ขับรถออกไปไหน พอจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานานก็อาจทำให้รถของเรามีอาการเสื่อมสภาพได้ค่ะ ดังนั้นเราจึงต้องมีวิธีคอยดูแลรถหรูอย่างถูกต้อง SMILE INSUER รวบรวมวิธีมาให้ทุกคนได้เช็ค และทำตามกันแล้วค่า


1. เช็คแบตเตอรี่รถยนต์กันซะหน่อย

เมื่อจอดรถไว้นานๆ ไม่ได้ขับ ก็อาจจะทำให้แบตเตอรี่เริ่มคายประจุ ทำให้อายุของแบตเตอรี่สั้นลงอย่างรวดเร็ว รถบางรุ่นจอดไว้ไม่ได้ขับไปไหนแค่ไม่กี่เดือนแบตเตอรี่ก็เสียแล้วใช่มั้ยล่ะคะ วิธีการดูแลแบตเตอรี่ที่ดีที่สุดคือการรักษาไฟให้เต็มอยู่เสมอ 

โดยอาจจะใช้เครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถยนต์คุณภาพสูง  หรือการถอดขั้วแบตเตอรี่ เพื่อป้องกันกระแสไฟรั่วออกจนหมดค่ะ วิธีถอดคือ ถอดที่ขั้วลบออกก่อน จากนั้นขันน๊อตที่ล็อคขั้วให้คลายตัวแล้วดึงออกมา 

จากนั้นค่อยถอดขั้วบวก หลังจากดึงขั้วบวกออกมาแล้วต้องระวังไม่ให้ขั้วสายบวกนี้ไปสัมผัสกับส่วนโลหะของรถนะคะ เพราะอาจทำให้ระบบลัดวงจรเสียหายได้


2. หมั่นสตาร์ทรถวอร์มเครื่อง

วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดแล้วค่ะ ถ้าไม่อยากให้แบตเตอรี่หมดอย่างรวดเร็วก็ควรสตาร์ทเครื่องยนต์บ่อยๆ ตอนที่เรายังอยู่บ้าน โดยสตาร์ททิ้งเอาไว้สัก 10 นาที ให้อยู่ในอุณหภูมิทำงานเทียบเท่าปกติ แต่วอร์มเครื่องอย่างเดียวคงไม่พอ 

เพราะว่าจะมีแต่เครื่องยนต์เท่านั้นที่ได้ทำงาน ชิ้นส่วนอื่นๆ เช่น เบรก, ระบบเกียร์ ก็ควรได้ทำงานเหมือนกัน ให้ใช้วิธีการเหยียบเบรกเข้าเกียร์ในตำแหน่งต่างๆ เพื่อให้ระบบน้ำมันเกียร์ได้ทำงานบ้าง 

หรือถ้าสะดวกจริงๆ ก็ขับรถออกไปข้างนอกบ้างจะดีที่สุดค่ะ อาจจะเป็นการวนรอบหมู่บ้าน หรือสถานที่ใกล้ๆ บ้านสักนิดหน่อยก็จะดีค่ะ


3. ดูแลหม้อน้ำก็สำคัญ 

รถของเราควรตรวจสอบระดับน้ำ สภาพสีของน้ำ รวมไปถึงการตรวจสอบพัดลมหม้อน้ำบ่อยๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง หรือถ้าไม่สะดวกก็สัปดาห์ละครั้ง พยายามสังเกตดูใต้ท้องรถยนต์ของเราให้ดีว่า มีคราบน้ำยาหล่อเย็น หรือน้ำยาหม้อน้ำหยดลงมาหรือไม่

ยิ่งตอนนี้อากาศบ้านเราร้อนมากๆ แถมรถก็ติดทำให้ระบบการทำงานยิ่งทำงานหนักเพิ่มมากขึ้นไปด้วย แล้วถ้าขับๆ ไป เจอความร้อนขึ้นสูงผิดปกติละก็ ให้รีบเช็คระดับน้ำที่หม้อพักน้ำด่วนๆ เลยนะคะ


4. ตรวจสอบระบบเบรก

เพราะน้ำมันเบรกก็มีเสื่อมสภาพได้ เหมือนกับของเหลวอื่น ๆ นะคะ สิ่งที่เราต้องทำคือ

  • เช็คผ้าเบรก เราควรถอดออกมาเช็คเนื้อผ้าเบรกบ้าง เพราะอาจมีเศษหินหรือสิ่งต่างๆ มาติดอยู่ทำให้จานเบรกเป็นรอยได้
  • จานเบรก อย่าลืมเช็คสิ่งแปลกปลอมที่ติดอยู่บนจานเบรก ถ้าเกิดมีร่องลึกเป็นเส้นยาวที่เกิดจากเศษหินมาติด แนะนำให้เปลี่ยนได้เลยนะคะ 
  • ท่อและสายต่างๆ ถ้ามองด้วยสายตาของเราอาจจะดูได้ไม่หมดทุกที่ เพราะมันยังมีส่วนที่ลึกลงไปอีก ให้เราดูเฉพาะส่วนที่สามารถมองเห็นจากด้านบนหรือห้องเครื่องได้แทนนะคะ เช็คดูว่าสายยังนิ่มไม่เสียรูปมั้ยหรือแตกร้าวรึเปล่า เพราะถ้าเกิดมันแข็งมากๆ เวลาใช้งานน้ำมันเบรกอาจจะซึมออกทางนั้นจนทำให้รถเบรกแตกได้ค่ะ


5. อย่าลืมเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง

ปกติแล้วไม่ว่าใช้รถมากหรือน้อย เมื่อครบกำหนดวันก็ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอยู่แล้ว แต่ยิ่งการที่รถเราจอดนิ่งๆ ไม่ได้นำมาขับ ยิ่งต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องเลยค่ะ เพราะหากมีการสตาร์ทเครื่องยนต์ในขณะที่เครื่องเย็น 

เนื่องจากมีความเย็นจับตัวเป็นเวลานาน ความชื้นที่สะสมจะทำให้เกิดคราบเขม่าและทำให้เครื่องยนต์เกิดสนิมได้ ถ้าเราปล่อยให้น้ำมันเครื่องเก่าๆ ไว้ในระบบรถเรานานๆ 

ก็จะส่งผลให้ชิ้นส่วนภายในรถเสียหายได้แน่นอนค่ะ แย่กว่านั้นก็อาจลามไปถึงระบบอื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับการทำงานของเครื่องยนต์ด้วย


6. เช็คลมยางกันบ้าง

รถของเราเมื่อไม่ได้ขับนานๆ ลมยางก็จะค่อยๆ ลดลงไปเรื่อยๆ เราควรหมั่นเช็คลมยางอย่างน้อยเดือนละครั้ง ผู้ขับสามารถสังเกตอาการของรถได้ว่าแรงดันลมยางรถเราทำให้พวงมาลัยหนักเกินไปมั้ย 

ถ้าหนักเกินไปแสดงว่าลมยางเริ่มอ่อนแล้ว ปกติการเติมลมยางควรเติมอย่างพอดีไม่มากและไม่น้อยเกินไป ถ้าเติมลมยางให้ความดันสูงเกินไปจะทำให้ดอกยางบริเวณกลางสึกมากกว่าด้านข้าง ส่วนเติมลมยางน้อยเกินไป จะทำให้ดอกยางด้านข้างๆ สึกเร็วกว่าตรงกลาง 

แต่ในกรณีนี้เราควรเติมลมยางให้แข็งกว่าปกติเพราะการที่เราจอดรถไว้นานๆ น้ำหนักตัวรถจะส่งผลให้แรงดันลมยางลดน้อยลงทีละนิดๆ นั่นเองค่ะ 


7. จอดในที่ร่มไม่อับชื้น เปิดช่องระบายอากาศ

จอดรถในที่ร่มเพื่อป้องกันไม่ให้แสงแดดประเทศของเรามาทำร้ายสีรถ และชิ้นส่วนพลาสติกในห้องโดยสาร ส่วนการเอาผ้ามาคลุมไว้แทบไม่จำเป็นเลยค่ะ เพราะการเอาผ้ามาคลุมรถเป็นเวลานานๆ อาจทำอันตรายกับสีได้ 

และนอกจากนี้ ภายในห้องโดยสารตามปกติจะมีความชื้นอยู่ ซึ่งเป็นแหล่งอาหารชั้นดีของเชื้อรากับแบคทีเรียเลย วิธีการป้องกันก็แค่แง้มหน้าต่างรถลงมานิดหน่อย เพื่อให้อากาศภายในห้องโดยสารมีการหมุนเวียนอยู่ตลอดเวลา แต่เราก็ต้องหมั่นทำความสะอาดคราบฝุ่นภายในรถด้วยนะคะ

เพิ่มเพื่อน

หมั่นดูแลรถง่ายๆ ตามวิธีที่ Smile Insure แนะนำแบบนี้ก็ไม่ทำให้รถของเรา ต้องเสื่อมสภาพแล้วล่ะค่ะ แต่ในช่วงที่รถจอดอยู่บ้านไม่ค่อยได้ขับไปไหน การทำประกันภัยรถยนต์ไว้ก็จะอุ่นใจกว่าแน่นอน 

Smile Insure ขอแนะนำประกันชั้น 2+ ที่ช่วยคุ้มครองกรณีรถหาย ไฟไหม้ โจรกรรม แต่ค่าเบี้ยประกันคุ้มค่าและถูกกว่าประกันชั้น 1 หากสนใจทำประกันภัยรถยนต์ชั้นอื่นๆ ติดต่อ Smile Insure ได้เลยนะคะ 

ปรึกษาและซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์กับ คลิก SMILE INSURE
สอบถามข้อมูลประกันทุกประเภท ได้ที่ INBOX:
 m.me/smileinsure  LINE ไอดี @smileinsure หรือคลิก https://lin.ee/v4icShM หรือโทร Call Center 02-233-99999

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ