7 เทคนิค ขับรถตอนกลางคืนให้ปลอดภัย ถึงที่หมายสบายใจ หายห่วง
7 เทคนิคขับรถตอนกลางคืนให้ปลอดภัย ถึงที่หมายแบบสบายใจ หายห่วง
ข่าวเกี่ยวกับอุบัติเหตุจากการขับรถตอนกลางคืนนั้นมีให้เห็นอยู่บ่อยครั้ง เพราะกลางคืนเป็นช่วงเวลาที่ทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลงมาก โดยเฉพาะในเขตชานเมืองหรือต่างจังหวัดที่ไฟส่องสว่างไม่ทั่วถึง ทำให้พอยิ่งดึกก็ยิ่งมองไม่เห็น หลายคนเลยเลือกที่จะไม่ขับรถตอนกลางคืนไปเลย เพื่อความปลอดภัย แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะเลือกแบบนั้นได้ ด้วยหน้าที่การงาน ภาระที่ต้องจัดการ หรือมีเหตุจำเป็นในการเดินทาง
บทความนี้เลยจะมาแชร์เทคนิคการขับรถตอนกลางคืนให้ปลอดภัย เพื่อให้ทุกคนที่มีความจำเป็นสามารถถึงที่หมายปลายทางได้แบบสบายใจ หายห่วง ด้วยวิธีที่ทำตามได้ง่าย ๆ ดังนี้
1. พักผ่อนให้พอก่อนเดินทาง
การขับรถต้องใช้ร่างกายหลายส่วน ทั้งสายตา มือ แขน ขา รวมถึงสมองสำหรับสั่งการและตัดสินใจ ถ้าเกิดขับรถอยู่แล้วสมองล้า สั่งให้ร่างกายง่วง ตัดสินใจช้าลง และหลับตาเพื่อเข้าสู่การนอนหลับ แม้จะในช่วงสั้น ๆ ก็อาจทำให้เกิดความสูญเสียครั้งใหญ่ได้ ดังนั้นก่อนขับรถตอนกลางคืน คนขับควรพักผ่อนให้เพียงพอ นอนหลับอย่างน้อย 7 ชั่วโมงขึ้นไปหรือตามห้วงเวลาที่ร่างกายตัวเองหลับสนิททุกครั้ง เพื่อให้สมองและร่างกายสดชื่นเต็มที่
2. ตรวจสภาพรถให้ครบถ้วน
สภาพรถเป็นอีกหนึ่งปัจจัยของการเกิดอุบัติเหตุ ไม่ว่าจะเป็นรถชนกันเพราะไฟสว่างไม่พอ ดัดแปลงไฟให้สว่างเกินไปจนกระทบสายตาของเพื่อนร่วมถนน หรือโดนชนเพราะรถจอดเสียกลางทาง ก่อนเดินทางทุกครั้งจึงควรตรวจเช็กสภาพรถให้พร้อมกับการใช้งานในระยะและเส้นทางที่ยาวนาน เช่น ไฟรถทั้งด้านหน้าและหลัง ที่ต้องมีความสว่างเพียงพอกับการใช้ช่วงกลางคืน เบรกต้องใช้ได้ แบตเตอรี่เหลือเพียงพอ ฯลฯ โดยจะตรวจเองหรือนำไปที่อู่ใกล้บ้านก็ได้เช่นกัน
3. ใช้ไฟรถให้เป็น
ต่อเนื่องจากการตรวจสภาพรถ เมื่อไฟรถดีแล้วคนขับรถก็ควรใช้ให้เป็นด้วย เพื่อให้ปลอดภัยจริง ๆ เช่น เปิดไฟหน้ารถระดับปกติเสมอเมื่อแสงอาทิตย์เริ่มหมด กระพริบไฟสูงเพื่อแจ้งเตือนรถที่วิ่งแช่อยู่เลนขวาเพื่อขอแซง เปิดไฟสูงส่องทางตอนกลางคืนเป็นระยะ เพื่อให้เห็นสภาพถนนชัดเจน ใช้ไฟตัดหมอกเมื่อเจอหมอกหรือควันปกคลุมท้องถนน เปิดไฟฉุกเฉินทุกครั้งเมื่อรถมีปัญหาและต้องจอดไหล่ทาง เป็นต้น
4. อย่าขับเร็วเกิน
ไม่ว่าจะขับขี่บนเส้นทางที่ชินตาหรือเส้นทางที่ไม่เคยไป ก็ควรให้ความสำคัญกับการใช้ความเร็วรถที่เหมาะสม และทิ้งระยะห่างจากคันหน้าให้มากพอ เพราะความมืดอาจทำให้เห็นไม่ชัดเจนว่าสภาพถนนเป็นอย่างไร มีทางเลี้ยว ทางแยก แผงกั้นทาง รถจอดไหล่ทาง หรือมีอะไรกีดขวางอยู่บ้าง รวมทั้งมีเพื่อนร่วมถนนที่พฤติกรรมน่ากลัวอยู่หรือไม่ โดยเฉพาะในวันที่สภาพแวดล้อมไม่เป็นใจอย่างฝนตกหนักหรือหมอกลงหนาก็จะยิ่งเห็นยากขึ้น ถ้าขับรถไม่เร็วเกินไปจะช่วยให้เบรกทัน และหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุรุนแรงได้ทันท่วงที
5. แวะพักสักนิด
สำหรับใครที่ขับรถยาวนานแล้วเกิดอาการง่วงขึ้นมา ควรพักผ่อนเป็นระยะ เช่น จองโรงแรมเพื่อนอนหลับ หรือจอดรถพักสายตาสักพักในที่ปลอดภัย เช่น จุดพักรถ ปั๊มน้ำมัน เป็นต้น อย่าฝืนขับทั้ง ๆ ที่ไม่ไหว เพราะแค่เพียงพริบตาเดียวก็อาจเกิดอุบัติเหตุรุนแรงขึ้นได้
6. ไม่ควรไว้ใจใคร
ข้อนี้สำคัญมากสำหรับคนที่ขับรถคนเดียว เวลาเจอคนโบกรถหรืออุบัติเหตุระหว่างทาง พยายามอย่าจอดรถลงไปช่วยเหลือเอง แต่ให้ขับรถเลยไปจอดรถในที่ปลอดภัย มีไฟส่องสว่างและเป็นเขตบ้านเรือน แล้วค่อยโทรแจ้งตำรวจและกู้ภัย เพราะไม่มีทางรู้เลยว่าสิ่งที่เจออยู่นั้นจริงหรือมิจฉาชีพ อีกทั้งยังเสี่ยงโดนรถคนอื่นมาชนซ้ำท่ามกลางความมืด หรือโชคร้ายกลายเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีนั้นได้
7. ทำประกันภัยเสริมความมั่นใจ
เทคนิคสุดท้ายที่อยากให้ทุกคนมีคือ “ประกันภัยรถยนต์” ผู้ช่วยที่เพิ่มความมั่นใจในทุกครั้งที่ต้องขับรถตอนกลางคืน เพราะเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมา จะมีทีมคอยช่วยเหลือเสมอ พร้อมให้ความคุ้มครองครอบคลุมทั้งตัวคุณ ผู้โดยสาร และรถ
ถ้าคุณจำเป็นต้องขับรถกลางคืน อย่าลืมนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ เพื่อให้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัยและเพิ่มความสบายใจในทุกเส้นทางนะคะ