ทำประกันชั้น 1 รถ EV คุ้มค่าแค่ไหน?
“ประกันชั้น 1” เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่มักจะทำให้รถยนต์ของตัวเอง เพราะเป็นประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมมากที่สุด หรือพูดง่ายๆ ว่า ‘คุ้มค่าที่สุด’ เมื่อเทียบกับค่าเบี้ยที่จ่ายไป
แต่พอยุคนี้ที่คนจำนวนมากหันมาใช้รถ EV กันมากขึ้น หลายคนก็เกิดความสงสัยว่า การทำประกันชั้น 1 ให้รถ EV ยังเป็นเรื่องที่คุ้มค่าอยู่ไหม? และจะคุ้มค่าแค่ไหน
เพราะอย่างที่รู้กันว่า ค่าเบี้ยประกันรถยนต์ EV นั้น สูงกว่าค่าเบี้ยของรถยนต์ทั่วไปพอสมควร สำหรับใครที่กำลังสงสัยเรื่องนี้ วันนี้เรามีข้อมูลน่าสนใจมาฝาก
ประกันรถ EV ชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง?
ประกันรถ EV ชั้น 1 ให้ความคุ้มครองรอบด้าน เช่นเดียวกับประกันชั้น 1 ของรถยนต์ทั่วไป ดังนี้
คุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก รวมถึงผู้โดยสารในรถคันเอาประกันภัย โดยจะช่วยรับผิดชอบค่าสินไหมทดแทนที่เกี่ยวข้องกับความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก (บุคคลภายนอก หมายถึง คู่กรณี หรือผู้ที่ได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุครั้งนั้นๆ แต่ไม่นับรวมผู้ที่เป็นฝ่ายผิดตามกฎหมาย ลูกจ้าง คู่สมรส บิดา มารดา และบุตรของผู้เป็นฝ่ายผิด)
คุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ไม่เกินจำนวนเงินทุนประกันที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
อ่านเพิ่มเติม: เปรียบเทียบประกันรถยนต์แต่ละชั้น คุ้มต่างกันยังไง?
คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย คือ ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับรถยนต์ อุปกรณ์ เครื่องตกแต่ง และส่วนควบที่ติดประจำอยู่กับตัวรถยนต์ แต่ไม่รวมความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้ เช่น กระโปรงหน้ารถบุบจากการขับชนต้นไม้ข้างทาง เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติม: แนะนํา 4 รุ่น รถ EV ยอดนิยมในประเทศไทยปี 2023
คุ้มครองการสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์ โดยกรณีรถสูญหาย ประกันชั้น 1 จะรับผิดชอบค่าสินไหมทดแทนเมื่อส่วนหนึ่งส่วนใดของรถยนต์ รวมทั้งอุปกรณ์ เครื่องตกแต่ง และส่วนควบที่ติดประจำอยู่กับตัวรถยนต์ ถูกไฟไหม้ หรือสูญหาย เพราะถูกลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ หรือเป็นผลมาจากการพยายามกระทำดังกล่าว แต่ไม่รวมการสูญหายจากการกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ส่วนกรณีรถไฟไหม้ ประกันชั้น 1 จะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนทั้งจากสาเหตุการไหม้โดยตัวของรถเอง และไฟไหม้ที่เป็นผลสืบเนื่องจากสาเหตุอื่นด้วย
นอกจากนี้ ประกันรถ EV ชั้น 1 ของบางบริษัทประกันรถยนต์ ยังมีบริการพิเศษอื่นๆ เพิ่มเติมอีก เช่น ให้ความคุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับแบตเตอรี่ ในกรณีที่เกิดจากการชน หรือกระแทก คุ้มครองเครื่องชาร์จแบตเตอรี่รถ EV ที่ติดตั้งในบ้าน (EV Charger)
กรณีที่ถูกโจรกรรม หรือไฟไหม้ บริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง บริการรถยกตามระยะทางที่กำหนด บริการจัดส่งช่างเทคนิคฟรี กรณีพ่วงแบตเตอรี่และเปลี่ยนยางอะไหล่ ฟรีค่าบำรุงรักษาบางรายการ
ฟรีค่าตรวจเช็กสภาพรถประจำปี ไม่หักค่าเสื่อมราคา 4 รายการหลัก ในกรณีอุบัติเหตุที่เกิดความเสียหายต่อยางหรือแบตเตอรี่ เป็นต้น
*เงื่อนไขความคุ้มครองขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละบริษัทกัน ควรสอบถามให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจทำประกัน
ประกันรถ EV ชั้น 1 ดีอย่างไร ทำไมถึงควรทำ?
นอกจากความคุ้มครองแบบรอบด้านที่ผู้ทำประกันจะได้รับแล้ว การทำประกันรถ EV ชั้น 1 ยังมีข้อดีอีกมากมาย ได้แก่
ประกันรถ EV ชั้น 1 ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายจากเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นแบบไม่คาดคิด เช่น รถเสีย รถชน เป็นต้น
ประกันรถ EV ชั้น 1 ช่วยให้เจ้าของรถวางแผนการใช้จ่ายได้ดีมากยิ่งขึ้น และยังคงมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีเหมือนเดิม รวมถึงเหลือเงินไปใช้จ่ายกับเรื่องอื่นมากขึ้นด้วย แม้ในยามที่เหตุการณ์ไม่คาดฝัน เพราะไม่ต้องนำเงินเก็บออกมาใช้ และไม่ต้องไปกู้เงินมาซ่อมบำรุงรถ
ประกันรถ EV ชั้น 1 ช่วยเพิ่มความอุ่นใจตลอดการขับขี่ เพราะประกันรถยนต์เปรียบเสมือนผู้ช่วยคนสำคัญที่จะเดินทางไปกับผู้ขับขี่ทุกเส้นทาง และพร้อมให้ความช่วยเหลือตลอดเวลา ไม่ว่าจะเดินทางไปใกล้ไกลแค่ไหน ก็อุ่นใจ มั่นใจ ได้เต็มที่
ดังนั้น “ประกันรถ EV ชั้น 1” จึงเป็นสิ่งที่ควรทำ และทำต่อเนื่องในทุกๆ ปี ควบคู่กับการทำพ.ร.บ. และต่อภาษีรถ เพื่อประโยชน์สูงสุดต่อตัวผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร ทรัพย์สินภายในรถ รวมถึงคู่กรณี
เหตุผลที่ประกันรถ EV ชั้น 1 ค่าเบี้ยสูงกว่ารถทั่วไป
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลายคนคงรู้กันอยู่แล้วประกันรถ EV ชั้น 1 เป็นประกันที่คุ้มครองครอบคลุมรอบด้านมากที่สุด และมีประโยชน์อย่างไรบ้าง แต่สิ่งที่ยังทำให้หลายคนลังเลที่จะทำประกันประเภทนี้อยู่ เป็นเพราะค่าเบี้ยประกันรถ EV นั้นสูงกว่าประกันรถยนต์รถทั่วไปอยู่ 20-30%
โดยมีสาเหตุดังนี้
แบตเตอรี่รถ EV ใหญ่กว่าและแพงกว่ารถน้ำมัน เมื่อรถเสีย หรือเกิดอุบัติเหตุ ส่วนใหญ่แล้ว จำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ยกชุด ในราคาหลายแสนบาท บริษัทประกันจึงจำเป็นต้องเพิ่มราคาค่าเบี้ยให้ครอบคลุมค่าใช้จ่าย
คนไทยยังใช้รถ EV น้อย ทำให้บริษัทประกันไม่มีกรณีศึกษามากพอที่จะใช้อ้างอิงได้ จำเป็นต้องใช้อัตราส่วนค่าสินไหมทดแทน (Loss Ratio) ที่อ้างอิงจากต่างประเทศแทน ซึ่งระบุไว้ว่ารถ EV มี Loss Ratio สูงกว่ารถยนต์ทั่วไปถึง 30-40%
อ่านเพิ่มเติม: เปรียบเทียบก่อนซื้อ รถไฟฟ้า vs รถน้ำมัน เลือกอะไรดี?
ในไทยยังมีศูนย์บริการรถ EV น้อย ทั้งที่เป็นศูนย์ของแบรนด์รถยนต์เอง และอู่นอกที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านรถ EV โดยเฉพาะ ทำให้ค่าซ่อมรถยังมีราคาสูงอยู่ เมื่อเทียบกับรถยนต์ทั่วไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้ส่งผลโดยตรงต่อการเคลมค่าซ่อมรถ
รถ EV หาอะไหล่ยาก ส่วนใหญ่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ
บริษัทที่รับทำประกันรถ EV มีอยู่อย่างจำกัด จึงทำให้ยังไม่เกิดการแข่งขันทางด้านราคากันมากเท่าที่ควร
เมื่อรู้เหตุผลแบบนี้แล้ว ก็พูดได้ว่า ถึงแม้เบี้ยประกันรถ EV ชั้น 1 จะสูงกว่าประกันชั้น 1 ของรถยนต์ทั่วไป แต่ก็ถือว่าเหมาะสม เพราะรถ EV ยังเป็นเรื่องใหม่สำหรับประเทศไทย หลายๆ อย่างจึงแตกต่างจากรถยนต์ทั่วไปอยู่
ทำประกันรถ EV ชั้น 1 คุ้มค่าแค่ไหน?
จากข้อมูลทั้งหมดที่นำมาฝากกันในวันนี้ สรุปได้ว่า การทำประกันรถ EV ชั้น 1 เป็นเรื่องที่ “คุ้มค่า” เพราะให้ความคุ้มครองครบถ้วนที่สุด แต่จะคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหนนั้น
ก็ขึ้นอยู่กับการตอบโจทย์ความต้องการของเจ้าของรถแต่ละคน ทั้งในเรื่องของไลฟ์สไตล์ พฤติกรรมการขับขี่ รวมถึงงบประมาณที่มีอยู่นะคะ