ติดฟิล์มรถยนต์แบบไหน กันร้อนได้ดีที่สุด
ติดฟิล์มรถยนต์แบบไหน กันร้อนได้ดีที่สุด
อยากติดฟิล์มกรองแสงรถยนต์ แต่ไม่รู้ฟิล์มรถยนต์ยี่ห้อไหนดี ราคาประมาณเท่าไหร่ ติดฟิล์มรถยนต์แบบไหน กันร้อนได้ดีที่สุด วันนี้หาคำตอบมาให้ทุกคนแล้ว..
ฟิล์มรถยนต์เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่มีความสำคัญและมีส่วนช่วยในการดูแลรักษารถยนต์ โดยเฉพาะภายในห้องโดยสาร ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้อน หน้าฝน หรือหน้าหนาว ฟิล์มเป็นตัวเพิ่มอุณหภูมิภายในรถยนต์และยังมีส่วนทำให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในห้องโดยสารเสื่อมสภาพเร็วด้วย
ฟิล์มกรองแสงรถยนต์ มีกี่ประเภท?
ฟิล์มกรองแสงคือวัสดุที่ถูกสร้างขึ้นมาให้มีลักษณะโปร่งใส มีคุณสมบัติในการลดความร้อน ลดรังสียูวี รังสีอินฟราเรด ซึ่งจะช่วยลดความร้อนจากแสงแดดและรังสีต่างๆ ที่มากับแสงแดดที่จะเข้ามาภายในห้องโดยสาร แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ ๆ
1. ฟิล์มกรองแสงที่ไม่มีส่วนผสมของสารป้องกันรังสีที่มาจากแสงแดด
ฟิล์มชนิดนี้จะสามารถกรองได้เฉพาะแสงจากดวงอาทิตย์ให้อ่อนลงได้เท่านั้น ฟิล์มประเภทนี้จะลดความเข้มของแสงได้เพียงอย่างเดียว แต่ไม่สามารถกรองหรือลดอันตรายจากความเข้มของรังสีต่าง ๆ ที่มาพร้อมแสงแดดได้
ฟิล์มแบบนี้จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมและสามารถกันความร้อนได้เพียง 50% เป็นฟิล์มที่มีราคาถูกที่สุด และอายุการใช้งานก็สั้นเพียง 3-5 ปีเท่านั้น
2. ฟิล์มกรองแสงที่มีส่วนผสมของสารป้องกันรังสีที่มาจากแสงแดด
ในการผลิตฟิล์มชนิดนี้ จะมีการเพิ่มวัสดุพิเศษเข้าไปในชั้นฟิล์ม วัสดุพิเศษจะมีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันและกรองรังสีต่าง ๆ ในแสงแดดที่จะทำอันตรายต่อทั้งอุปกรณ์ภายในห้องโดยสารและตัวผู้โดยสาร
ฟิล์มประเภทนี้ยังสามารถแบ่งย่อยออกได้เป็น 4 ประเภท ตามวัสดุพิเศษที่ใช้และกระบวนการผลิต
- ฟิล์มปรอท, ฟิล์มเคลือบโลหะ และฟิล์มลดความร้อน ลดความร้อนได้ 35-90% เนื้อฟิล์มจะเป็นสีสะท้อนคล้ายกระจกเงา มีอายุการใช้งาน 3-7 ปี
- ฟิล์มอินฟราเรด เป็นฟิล์มที่ใช้สารพิเศษที่มีคุณสมบัติไปตัดรังสีอินฟราเรดมาใช้ในการเคลือบ ทำให้ป้องกันความร้อนได้ค่อนข้างดีที่สุด และสามารถสะท้อนรังสียูวีได้จึงมีราคาค่อนข้างสูง
- ฟิล์มนิรภัย เป็นฟิล์มที่มีความหนาตั้งแต่ 4 มิลลิเมตรขึ้นไป มีคุณสมบัติในการช่วยยึดเกาะแผ่นกระจกให้คงรูปร่างเดิมมากที่สุดเมื่อถูกกระแทก
- ฟิล์มใสประเภทนาโน เป็นฟิล์มที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตโดยใช้อนุภาคนาโนมาเคลือบฟิล์มแทน ทำให้สามารถป้องกันได้ทั้งความร้อนและรังสียูวีได้ดีเยี่ยม อีกทั้งเนื้อฟิล์มยังใส ทำให้ไม่บดบังทัศนวิสัยในการขับรถ และมีอายุการใช้งานที่ทนทานนาน 7-10 ปี
แล้วเราจะเลือกติดฟิล์มกี่เปอร์เซ็นต์ดี?
- ฟิล์ม 40% คือฟิล์มที่มีค่าของแสงส่องผ่านได้ 35% ขึ้นไป
- ฟิล์ม 60% คือฟิล์มที่มีค่าของแสงส่องผ่านได้ประมาณ 20%
- ฟิล์ม 80% คือฟิล์มที่มีค่าของแสงส่องผ่านได้ประมาณ 5%
ค่าเปอร์เซ็นต์ยิ่งสูงก็ยิ่งกันแสงแดดได้มาก แต่ก็จะยิ่งทึบมากขึ้นตามไปด้วย
สำหรับประเทศไทย กฎหมายอนุญาตให้ติดฟิล์มกระจกบังหน้าที่มีความเข้มไม่เกิน 40% และไม่เกิน 60% สำหรับกระจกบานอื่น
เลือกฟิล์มกรองแสงรถยนต์ ยังไง?
- ช่วงเวลาที่ใช้รถยนต์ หากคุณติดฟิล์มที่ทึบ หรือ หนาจนเกินไป แต่มีความจำเป็นจะต้องใช้รถยนต์ในช่วงกลางคืนบ่อยๆ อาจทำให้เกิดความไม่ปลอดภัยขณะขับขี่ได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาเรื่องสายตา
- ความเป็นส่วนตัว การใช้ฟิล์มที่ค่อนข้างทึบ จะทำให้คนภายนอกคาดเดาได้ยากว่าคนขับเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ทำให้ลดความเสี่ยงเหล่ามิจฉาชีพได้
- ระยะเวลาที่อยู่ในรถยนต์ ควรเลือกใช้ ฟิล์มกระจกรถยนต์ ที่มีความสม่ำเสมอในการสะท้อนความร้อน และ มีความทนทานค่อนข้างสูงในเรื่องของอายุการใช้งานเป็นหลัก
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) เคยทำการทดสอบประสิทธิภาพกรองแสงของการติดฟิล์มรถยนต์ 6 ยี่ห้อยอดนิยม ดังนี้
- 3M รุ่น FX20
- Lamina รุ่น ARL20C
- Hi-Kool รุ่น MO 15 HC
- Xtra-Cole รุ่น XC 20 NE
- FuchiCool รุ่น C 60 B
- ไม่มียี่ห้อ รุ่น ไม่มีปรอท
สรุปผลการทดสอบ การทดสอบฟิล์มกรองแสงติดรถยนต์นี้ผลที่ได้พบว่าทุกๆ ยี่ห้อสามารถป้องกันแสง UV ได้ใกล้เคียงกัน การป้องกันความร้อน ถ้าค่าความแตกต่างของอุณหภูมิด้านนอกกับด้านในมีน้อย แสดงว่าสามารถกันความร้อนได้ดีและพบว่า..
- Hi-Kool มีความสามารถกันความร้อนความร้อนได้ดีกว่าทุกยี่ห้อ แต่ความสามารถของการส่องผ่านแสงช่วงสายตามองเห็น ผ่านเข้ามาได้ค่อนข้างน้อย
- ฟิล์ม 3M อาจเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการส่องผ่านแสงช่วงสายตามองเห็นค่าความสว่างของแสง
- ฟิล์มยี่ห้อ Xtra-Cole อาจจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับ ความสามารถในการป้องกันความร้อน และทัศนวิสัยที่ดีในการขับขี่ จะเลือกแบบไหนก็เลือกได้ตามสไตล์คุณเลย
แต่ถ้าเรื่องประกันรถไม่รู้จะเลือกแบบไหน ให้ SMILE INSURE ช่วยสิคะ เราพร้อมให้คำปรึกษา และมีโปรโมชั่นดีๆให้คุณอีกเพียบ