จอดรถเติมน้ำมัน ทำไมต้องดับเครื่องยนต์?
จอดรถเติมน้ำมัน ทำไมต้องดับเครื่องยนต์?
เวลานำรถไปเติมเชื้อเพลิงที่สถานีบริการน้ำมัน เราจะสังเกตเห็นป้ายเตือนเป็นสัญลักษณ์ต่างๆ ว่าให้ดับเครื่องยนต์, ห้ามใช้โทรศัพท์, ห้ามสูบบุหรี่ และห้ามก่อประกายไฟ เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมต้องทำ?
รู้ไหมว่า? ทุกครั้งที่เราทำการเติมน้ำมัน จะมีไอน้ำมันที่ฟุ้งกระจายอยู่รอบๆ ฝาเติมน้ำมันขณะทำการเติม ใครไม่เคยเห็นลองสังเกตดูนะ พวกไอละอองนี้แหละเป็นตัวการสำคัญของการลุกไหม้ได้ถ้าเกิดความร้อนจากประกายไฟขึ้นมา เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น จากการลุกติดไฟของไอน้ำมัน จึงมีกฎซึ่งถือเป็นมาตรฐานที่สถานีบริการน้ำมันทั่วโลกต้องปฏิบัติตาม คือ
- ต้องดับเครื่องยนต์ทุกครั้งขณะเติม
- ห้ามสูบบุหรี่ขณะเติมน้ำมันหรือในบริเวณปั๊มเองส่วนใหญ่ก็ห้ามสูบกันแล้ว
- ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือขณะเติม เชื่อว่าอาจจะเคยเห็นคลิปไวรัลที่มีการแชร์ต่อๆ จากการใช้มือถือขณะเติมน้ำมันแล้วทำให้เกิดการลุกไหม้ขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นในไทยหรือต่างประเทศจึงเกิดข้อห้ามข้อนี้ขึ้น ความเสี่ยงจากความร้อนของคลื่นไฟฟ้า การลัดวงจรของแบทเตอรีในโทรศัพท์มือถือเป็นตัวจุดไฟได้!
- ห้ามก่อประกายไฟอย่างเด็ดขาด
ล่ะ! ทำไมต้องดับเครื่องยนต์?
1. ป้องกันการเกิดประกายไฟ
ป้องกันการเกิดไฟลุกไหม้จากไอน้ำมันที่ระเหยออกจากถัง โดยปกติแล้วรถยนต์ทุกคันมีโอกาสเสี่ยงที่สายไฟของระบบในรถยนต์เกิดประกายไฟ ขณะเดียวกัน เมื่อลงมาจากรถเราก็ควรทำการเก็บ และงดใช้สมาร์ทโฟนที่อาจทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตย์
2. หมดปัญหาเติมน้ำมันผิดประเภท
พบเจอกันได้บ่อยมากเกี่ยวกับเด็กปั๊มเติมน้ำมันผิด เกิดการสื่อสารที่ผิดพลาด เช่น เราจะเติมน้ำมันเบนซิน E20 แต่พนักงานดันฟังเป็นน้ำมันดีเซล B20 กรณีที่เราไม่ได้ดับเครื่องพร้อมกับเดินลงมา ทำให้กว่าจะรู้ตัวว่าเติมน้ำมันผิดอีกทีก็คือตอนเครื่องพังแล้ว เติมเสร็จจ่ายเงินก็ขับรถออกไปเลยด้วยความเคยชิน
ดังนั้น ดีที่สุดหากเราจะดับเครื่องแล้วลงมายืนดูว่าพนักงานหยิบหัวจ่ายถูกตามที่เราสั่งหรือไม่ แค่นี้ปัญหาเติมน้ำมันผิดก็จะไม่เกิดกับรถของเราได้
3. รถสุดรักสีไม่เปื้อน
จะเปื้อนได้ไง ทำยังไงถึงเปื้อน อยากรู้ต้องลงไปดูเวลาเค้าเติมน้ำมันแล้วล่ะ บางท่านอาจจะด้วยความเคยชินไม่เคยมองว่าเวลาเติมน้ำมัน เด็กปั๊มทำน้ำมันล้นออกมาหรือป่าว มารู้อีกทีก็คือตอนที่สีรถสุดรักเปลี่ยนไปแล้ว..ใครขี่มอเตอร์ไซค์ก็จะรู้ดีว่าถ้าเติมน้ำมันล้นถังออกมา นั่นเปรียบเหมือนกับฝันร้าย บางทีพนักงานก็ไม่ได้ระมัดระวังมากพอในการเสียบหัวจ่าย หรือกระทั้งตอนเติมน้ำมันเสร็จแล้วรีบยกหัวออกจากถัง ทำให้น้ำมันที่ค้างสายอยู่ไหลออกมาเปลอะเปื้อนตัวถัง ซึ่งน้ำมันเบนซินและดีเซลมีฤทธิ์กัดกร่อน และสามารถทำอันตรายต่อชุดสีตัวถังของรถได้
หากคุณลงมาดูการเติมน้ำมันของพนักงานทั้งตอนเสียบหัวจ่าย รวมถึงต้องยกหัวจ่ายออก หากเกิดเหตุการณ์ที่ว่ามาก็สามารถนำผ้ามาเช็ดคราบน้ำมันได้ทันท่วงที แม้จะเสียอารมณ์อยู่บ้างแต่อย่างน้อย ชุดสีก็ไม่ด่างพร้อยจากรอยน้ำมันที่ไหลผ่าน
4. การออกรถในขณะที่สายจ่ายน้ำมันยังคาอยู่ที่รถ
เป็นอีกอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยมาก ไม่ได้สังเกตว่าเด็กปั๊มเก็บสายเรียบร้อยแล้วหรือไม่ รีบร้อนและขาดความระมัดระวัง ออกรถไปในขณะที่ยังเติมน้ำมันยังไม่เสร็จ เมื่อสายจ่ายน้ำมันหลุดเกิดการเสียดสีและประกายไฟ รวมกับน้ำมันที่ไหลออกมาจากสายจ่ายน้ำมัน ก็ส่งผลให้เกิดเพลิงไหม้ตามมาได้ ถ้าเราดับเครื่องยนต์ขณะเติมน้ำมัน ก็จะเป็นการป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นได้
5. ลดการโกงค่าน้ำมัน
เราบอกว่าเติมน้ำมันดีเซล 1,000 บาท แต่พนักงานไม่ได้กดรีเซ็ทการเติมน้ำมันของลูกค้าคนก่อนหน้า ที่อาจเติมไว้เพียง 600 บาท ซึ่งตัวเลขขณะเติมก็จะไหลไปจนถึงยอดที่เราสั่งเอาไว้ ทำให้เราได้น้ำมันเพียง 400 บาท เท่านั้น ซึ่งถ้าเรานั้นลงจากรถมาดู เชื่อว่าเหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นแน่ๆ
ใครที่ขับรถไปเติมน้ำมันแล้วไม่ดับเครื่อง เล่นโทรศัพท์ สูบบุหรี่ ก่อประกายไฟใกล้ๆ ปั๊ม ไม่ว่าจะเป็นผู้ใช้รถหรือผู้ประกอบการไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และจะไม่ต่ออายุใบอนุญาตอีกด้วยนะ รู้แล้วก็ห้ามทำแล้วนะ!!
