7 วิธีขับรถ ช่วยประหยัดค่าน้ำมัน

แม้ว่าราคาน้ำมันในปัจจุบันถูกลงและหลายคนซื้อรถยนต์ขับประหยัด มาให้ใช้กันแพร่หลาย แต่ถ้าไม่รู้จักวิธีขับรถที่ถูกต้องเหมาะสมก็ไม่ช่วยให้ประหยัดน้ำมันและเงินในกระเป๋าเลย

เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ จะช่วยให้ขับรถประหยัดน้ำมันมากขึ้น ปรับพฤติกรรมการขับขี่มีผลต่อการใช้น้ำมันได้

1. วางแผนเดินทางที่ดี หลีกเลี่ยงเส้นทางรถติด

ถ้าต้องขับรถผ่านเส้นทางที่รถติดเป็นประจำ และรถติดมากขยับไปไหนไม่ได้เลย ติดนานมากกกก ควรดับเครื่องยนต์เพราะการติดเครื่องยนต์จอดอยู่เฉยๆ นาน 5 นาที

อีกวิธีหนึ่ง คือ ใส่เกียร์ว่างแทนการเข้าเกียร์เดินหน้าทิ้งไว้ จะช่วยประหยัดน้ำมันได้ หรือถ้าไม่ปลดเกียร์ว่าง ก็ปล่อยให้รถไหลไปเองตามแรงเฉื่อย โดยระวังไม่ให้ เกะกะรถคันหลัง วิธีนี้เครื่องยนต์จะตัดการจ่ายน้ำมันอัตโนมัติ ช่วยประหยัดได้ 3-7% การขับอ้อมเกินไปก็ไม่ดี และถ้าขับรถหลงทาง 10 นาที อาจสิ้นเปลืองน้ำมัน 500 ซีซี เลยทีเดียว

2. ควรตรวจเช็กเครื่องปรับอากาศสม่ำเสมอ

การตรวจเช็กเครื่องปรับอากาศเพื่อให้ระบบทำงานมีประสิทธิภาพและปรับอุณหภูมิแอร์ ให้เหมาะสมระหว่าง 23-25 องศา ถ้าตั้งอุณหภูมิต่ำเกินไป เปิดแอร์เย็นจัดแล้วปรับความแรงลมเพียงอย่างเดียว คอมเพรสเซอร์จะทำงานหนัก เป็นภาระให้เครื่องยนต์มากกว่าปกติ ทำให้สิ้นเปลืองน้ำมัน

ควรปรับระดับความเย็นเท่าที่จำเป็น ไม่เช่นนั้นจะทำให้น้ำมันที่เผาไหม้ไม่หมดหลงเหลืออยู่ในกระบอกสูบ โดยจะเป็นตัวการทำให้เครื่องยนต์สึกหรออีกด้วย ควรหมั่นตรวจเช็กเครื่องปรับอากาศอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นปริมาณน้ำยาทำความเย็น หรือความสกปรกของคอยล์ร้อนคอยล์เย็น และไส้กรอง ฯลฯ เพื่อให้ระบบการทำงานมีประสิทธิภาพพร้อมทั้งจะต้องปรับอุณหภูมิให้พอเหมาะ

3. ไม่ควรอุ่นเครื่องนาน และไม่ควรเร่งเครื่องตอนออกตัว 

การค่อยๆ ออกตัวรุอย่างราบเรียบจะช่วยประหยัดได้ 1-2% การเร่งเครื่องนั้นกินน้ำมันมาก ไม่เร่งเครื่อง ให้เครื่องยนต์เปลี่ยนจังหวะเกียร์ไปเรื่อยๆ ใช้ได้ทั้งเกียร์อัตโนมัติและเกียร์ธรรมดา ช่วยประหยัดได้ 2-5% 

ส่วนการขับลากเกียร์ก็เปลืองน้ำมันเช่นกัน ควรเปลี่ยนเกียร์สูงขึ้นเมื่อถึงรอบที่กำหนด ไม่เหยียบเบรกโดยไม่จำเป็น ถ้าไม่ได้เปลี่ยนเกียร์ ไม่ควรเหยียบคลัทช์ค้างไว้ เพราะจะกินน้ำมันเพิ่มขึ้นและทำให้คลัทช์เสื่อมเร็ว

ควรใช้รอบเครื่องยนต์ในช่วงความเร็วที่เหมาะสม ซึ่งอยู่ระหว่าง 1,900-2,800 รอบ หรือใช้ความเร็วที่เหมาะสมที่ประมาณ 105 กิโลเมตรต่อชั่วโมงกำลังพอดี และพยายามอย่าถอยหลังเร็วเกินไป ซึ่งเกียร์ถอยหลังเป็นเกียร์ที่มีอัตราทดสูงที่สุดในอัตราทดการถอยหลังเร็ว นั่นก็เหมือนกับการทำให้เครื่องยนต์ทำงานหนักโดยใช่เหตุ

4. ความเร็วมีผลต่ออัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง

ควรใช้ความเร็วสม่ำเสมอ เนื่องจากความเร็วที่ประหยัดน้ำมันสูงสุดของรถแต่ละคันไม่เท่ากัน ขับเร็วเกินไปหรือขับช้าเกินไปก็กินน้ำมันเหมือนกัน โดยมากแนะนำให้ใช้ความเร็วคงที่ประมาณ 80-110 กม/ชม.

5. ตรวจเช็กเครื่องยนต์ ระดับน้ำมันเครื่อง และน้ำในแบตเตอรี่ 

ควรตรวจเช็กเครื่องยนต์ ระดับน้ำมันเครื่อง และน้ำในแบตเตอรี่ และปรับปรุงสมรรถนะรถยนต์ให้ดีตลอดเวลา ช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ 3-9% ความบกพร่องของเครื่องยนต์มีผลเสียหลายด้าน ทำให้เครื่องยนต์มีอายุการใช้งานสั้นลงและกินน้ำมันมากขึ้น ควรตรวจสอบประสิทธิภาพของไส้กรองอากาศ ระบบระบายความร้อน เช็กหัวเทียนเสื่อมสภาพ การจุดระเบิดและการเผาไหม้ของเชื้อเพลิง

การเลือกใช้น้ำมันเครื่องตามเกรดที่ผู้ผลิตระบุไว้ในคู่มือจะช่วยให้ระบบหล่อลื่นของเครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด การใช้น้ำมันผิดเกรดจะลดประสิทธิภาพการใช้น้ำมันลงไปถึง 2 เปอร์เซ็นต์ และการนำรถยนต์ไปเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องตามกำหนด จะมีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันน้อยกว่ารถที่ไม่ได้ เปลี่ยนน้ำมันเครื่องเป็นเวลานาน

6. ตรวจเช็กความดันลมยางให้พอดี 

ถ้าลมอ่อนเกินไปจะทำให้รถกินน้ำมันมาก ถ้าเติมลมยางแข็งเกินไป ช่วงล่างสะเทือนมากและทำให้การเกาะถนนลดลง ความดันลมยางอ่อนกว่ามาตรฐาน 1 ปอนด์/ตารางนิ้ว 

ถ้าขับทุกวันเฉลี่ยวันละ 48 กิโลเมตรเป็นเวลา 1 เดือน ทำให้รถยนต์ส่วนบุคคล สิ้นเปลืองน้ำมันเพิ่มขึ้น 2.4 ลิตร ถ้าช่วยเพิ่มระยะทางการขับขี่และการใช้น้ำมันได้สูงสุดถึง 40 เปอร์เซ็นต์ทีเดียว ลมยางที่เหมาะสมนั้นปลอดภัยกว่า สามารถควบคุมรถได้ดีกว่า ใช้งานได้ยาวนานกว่า และยังประหยัดน้ำมันได้มากกว่าอีกด้วย

7. บรรทุกสัมภาระเท่าที่จำเป็น 

เพราะน้ำหนักรถมีผลต่อการกินน้ำมัน ไม่ว่าจะเป็นล้อโต เครื่องเสียง ชุดใหญ่ ชุดแต่งบางส่วน หรือแม้แต่การบรรทุกสิ่งของบนหลังคาก็จะทำให้เกิดแรงต้านด้วย น้ำหนัก ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 10 กิโลกรัม การลดจำนวนของที่เก็บไว้ท้ายรถหรือที่เบาะหลังจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมัน เนื่องจากเครื่องยนต์จะใช้น้ำมันน้อยลงตอนเร่งเครื่อง

การติดตั้งแร็คหลังคารถก็เช่นกัน ที่บรรทุกของบนหลังคา อาจทำให้คุณเปลืองเชื้อเพลิงขึ้นอย่างมาก การติดแร็คเป็นการทำให้ไม่ประหยัดน้ำมัน และสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงพอสมควร เมื่อไม่มีความจำเป็นก็ควรถอดออก ควรเลือกใช้เวลาที่จำเป็นสำหรับการบรรทุกของและเดินทางไกลเท่านั้น 

เคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ แม้จะไม่ได้มีผลอย่างเด่นชัด แต่มันก็จะช่วยให้คุณสามารถประหยัดน้ำมัน ขึ้นได้อีก และสามารถทำให้คุณไม่ต้องเติมน้ำมันบ่อย  ประหยัดค่าเชื้อเพลิงแล้วยังช่วยให้รถและเครื่องยนต์มีอายุการใช้งานที่ยาวขึ้นได้อีก