รู้ไหม? ใบขับขี่หมดอายุ ก็ต่ออายุประกันรถได้!
“ใบขับขี่พกพา” เป็นสิ่งที่คนใช้รถยนต์ทุกคนต้องมี เพื่อใช้แสดงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ว่าตัวเองได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก ว่าสามารถขับขี่รถได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ภายในช่วงเวลาที่ได้ระบุไว้บนใบขับขี่ ซึ่งถ้าเจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าใครปล่อยให้ใบขับขี่หมดอายุ จะต้องจ่ายค่าปรับ เพราะถือว่าทำผิดกฎหมาย
แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการนำใบขับขี่หมดอายุมาใช้ จะเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย แต่สำหรับการต่ออายุประกันรถกับบริษัทประกันภัยรถยนต์นั้น ยังเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ตามปกติ และไม่ต้องจ่ายค่าปรับอะไรเพิ่มเติม
เมื่อมาถึงตรงนี้ หลายคนคงสงสัยกันแล้วใช่ไหมว่า มันเป็นแบบนั้นได้อย่างไร? ทำไมบริษัทประกันรับต่ออายุประกันรถให้คนที่ใบขับขี่หมดอายุ? แล้วแบบนี้ยังควรให้ความสำคัญกับการต่ออายุใบขับขี่อยู่ไหม? มาหาคำตอบไปพร้อมกันเลย
“ใบขับขี่หมดอายุ” ในทางกฎหมาย
ใบอนุญาตขับรถ หรือใบขับขี่พกพา (Driving license) เป็นเอกสารสำคัญตามกฎหมาย พระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2522 ที่ระบุให้คนขับขี่รถยนต์ประเภทต่างๆ ซึ่งมีอายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และมีความรู้ความสามารถเพียงพอกับการใช้รถบนท้องถนน ต้องมีและพกพาตลอดเวลาที่ขับขี่รถ โดยใบขับขี่จะใช้งานได้ภายในช่วงระยะเวลาที่ระบุไว้เท่านั้น
หากเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจแล้วพบว่าใครไม่พกพาใบขับขี่ติดตัวไว้ หรือพกไว้แต่ใบขับขี่เกิดหมดอายุ แม้เพียงวันเดียว ก็จะโดนโทษปรับได้ ตามรายละเอียดด้านล่างนี้
- มาตรา 6582 ผู้ใดขับรถเมื่อใบอนุญาตขับรถสิ้นอายุ หรือระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับรถ หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับรถ หรือถูกยึดใบอนุญาตขับรถ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
- มาตรา 66 ผู้ใดขับรถโดยไม่แสดงใบอนุญาตขับรถ และสำเนาภาพถ่ายใบคู่มือจดทะเบียนรถ ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 1,000 บาท
นอกจากนี้ การที่ไม่ต่อใบขับขี่ก่อนวันหมดอายุ จะทำให้ต้องเสียเวลาทำขั้นตอนต่างๆ เพิ่มขึ้นด้วย ดังนี้
1. เปลี่ยนประเภทใบขับขี่จาก 2 ปี เป็น 5 ปี
- ใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ต้องอบรม 5 ชั่วโมง และสอบข้อเขียนใหม่
- ใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี ต้องอบรม 5 ชั่วโมง สอบข้อเขียน สอบปฏิบัติ และยื่นใบรับรองแพทย์ใหม่ (อายุเอกสารไม่เกิน 1 เดือน)
2. เปลี่ยนประเภทใบขับขี่จาก 5 ปี เป็น 5 ปี
- ใบขับขี่หมดอายุเกิน 1 ปี แต่ไม่เกิน 3 ปี ต้องอบรม 2 ชั่วโมง และสอบข้อเขียนใหม่
- ใบขับขี่หมดอายุเกิน 3 ปี ต้องอบรม 2 ชั่วโมง สอบข้อเขียน สอบปฏิบัติ และยื่นใบรับรองแพทย์ใหม่ (อายุเอกสารไม่เกิน 1 เดือน)
ทางด้านประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ หากใบขับขี่หมดอายุ หรือชำรุด หรือสูญหาย ส่วนใหญ่แล้ว บริษัทประกันก็ยังคงอนุญาตให้ใช้ใบขับขี่นั้นในการต่ออายุประกันรถได้* เพราะถือว่าเจ้าของใบขับขี่มีสิ่งยืนยันความรู้ความสามารถในการขับขี่รถยนต์แล้ว
แต่มีข้อแม้ว่า ควรมีใบขับขี่ตัวจริงหรือสำเนา มาประกอบการต่ออายุประกันด้วย เพื่อให้บริษัทประกันสามารถตรวจสอบได้ว่าผู้ขับขี่มีคุณสมบัติเพียงพอตามที่กฎหมายกำหนดจริงๆ
เพราะใบขับขี่ตัวจริงหรือสำเนา เป็นหนึ่งในเอกสารสำคัญสำหรับการต่ออายุประกันรถ ที่ต้องใช้ควบคู่กับสำเนาบัตรประชาชน สำเนาหนังสือจดทะเบียนรถยนต์ สำเนากรมธรรม์ประกันรถเดิม และใบเตือนต่ออายุประกัน
ใบขับขี่หมดอายุต่ออายุประกันรถได้ แต่อาจมีข้อจำกัดเวลาเคลมประกัน
อีกเรื่องที่ทุกคนควรรู้คือ ถึงแม้ใบขับขี่ที่หมดอายุจะใช้ต่ออายุประกันรถได้ตามปกติ แต่ก็อาจมีข้อจำกัดในการเคลมประกัน เวลาเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันได้ โดยสามารถแบ่งได้เป็น 3 กรณี คือ
1. เกิดอุบัติเหตุ ผู้ทำประกันรถที่มีใบขับขี่หมดอายุ เป็นฝ่ายถูก
เมื่อทำเรื่องต่ออายุประกันรถเสร็จเรียบร้อยแล้ว และยังไม่มีเวลาไปต่ออายุใบขับขี่ แต่บังเอิญโดนชนท้าย ถูกเฉี่ยวชน หรือเกิดอุบัติเหตุใดๆ ก็ตาม ที่พิสูจน์ได้ว่าผู้ทำประกันรถเป็นฝ่ายถูก
ประกันภัยรถยนต์ของผู้ทำประกันจะให้ความคุ้มครอง และจ่ายค่าสินไหมทดแทน ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์อย่างครบถ้วน ขณะที่ประกันของคู่กรณีก็จะให้ความคุ้มครองด้วยเช่นกัน
2. เกิดอุบัติเหตุ ผู้ทำประกันรถที่มีใบขับขี่หมดอายุ เป็นฝ่ายผิด
แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุรถชนจากความประมาทเลินเล่อ หรือการทำเรื่องผิดกฎหมายของผู้ทำประกันรถ เช่น ใช้ความเร็วรถเกินกำหนด เมาแล้วขับ (มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ สำหรับคนมีใบขับขี่ชั่วคราว หรือมีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเกิน 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ สำหรับคนมีใบขับขี่ 5 ปี) ใช้รถผิดประเภท เป็นต้น
แม้ว่าจะทำเรื่องต่ออายุประกันรถเสร็จเรียบร้อยแล้ว ประกันภัยรถยนต์จะให้ความคุ้มครอง และจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้ฝั่งคู่กรณี หรือบุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหาย ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ แต่จะไม่คุ้มครองความเสียหายทางฝั่งของผู้ทำประกัน
3. เกิดอุบัติเหตุ ผู้ทำประกันรถอ้างว่ามีใบขับขี่หมดอายุ แต่บริษัทฯ ตรวจพบว่าไม่ใช่เรื่องจริง
สำหรับกรณีนี้ ถึงแม้ผู้ทำประกันจะจ่ายค่าเบี้ยเพื่อต่ออายุประกันรถ และได้รับเล่มกรมธรรม์มาแล้ว แต่ถ้าบริษัทประกันตรวจพบว่า ความจริงผู้ทำประกันไม่เคยทำใบขับขี่มาก่อนเลย หรือโดนเพิกถอน ตัดสิทธิ์ใบขับขี่ เพราะทำผิดกฎหมาย บริษัทฯ มีสิทธิที่จะบอกยกเลิกกรมธรรม์ภายหลังได้
ซึ่งนั่นหมายความว่า หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นในอนาคต ประกันจะไม่คุ้มครองทั้งผู้ทำประกันและคู่กรณี แต่จะคุ้มครองบุคคลภายนอก*
เทคนิคจำวันหมดอายุใบขับขี่เพื่อให้การต่ออายุประกันรถคุ้มครอง 100%
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่อยากมีใบขับขี่หมดอายุ เพราะอยากได้รับความคุ้มครองตามเงื่อนไขในกรมธรรม์หลังจากต่ออายุประกันรถครบทุกอย่าง วันนี้ SMILE INSURE มี 2 เทคนิคง่ายๆ มากฝาก
1. วันหมดอายุใบขับขี่คือวันเดียวกับวันเกิดของเจ้าของ
บางคนอาจไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน แต่ถ้าลองสังเกตดีๆ จะเห็นว่าวันสิ้นอายุใบขับขี่นั้นตรงกับวันเกิดของตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะเป็นข้อกำหนดของกรมการขนส่ง กระทรวงคมนาคม ดังนั้นถ้าคุณจำปีเริ่มต้นที่ออกใบขับขี่ได้ คุณก็จะคำนวณวัน เดือน และปี ที่ใบขับขี่จะหมดอายุได้ไม่ยากเลย
2. ดาวน์โหลดแอป DLT QR License
แอปพลิเคชั่น DLT QR License คือแอปสำหรับสมัครใช้งานใบขับขี่พกพาแบบดิจิทัล (Electronic Driving License) หรือใบขับขี่เสมือนจริง ที่สามารถใช้แทนใบขับขี่ตัวจริงได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย เหมาะกับคนที่จำรายละเอียดวันหมดอายุใบขับขี่ไม่ได้ แต่กระเป๋าสตางค์ หรือใบขับขี่ไม่อยู่กับตัว เพราะในแอปจะโชว์รายละเอียดสำคัญทุกอย่างของใบขับขี่ตัวจริงได้ครบถ้วน
ดาวน์โหลดเวอร์ชั่น Android: https://bit.ly/3GOlSJM
ดาวน์โหลดเวอร์ชั่น iOS: https://apple.co/30wPUuE
อย่างไรก็ตาม คนที่มีใบขับขี่หมดอายุควรย้ำเตือนกับตัวเองเสมอว่า แม้จะสามารถใช้ต่ออายุประกันรถได้ แต่ก็ยังถือว่ามีความผิดทางกฎหมายอยู่ดี มีโอกาสถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกปรับได้ตลอดเวลา และมีความเสี่ยงที่จะเคลมประกันตามเงื่อนไขต่างๆ ได้ไม่ครบถ้วน เพราะคาดเดาล่วงหน้าไม่ได้เลยว่า อุบัติเหตุในแต่ละครั้ง คุณจะเป็นฝ่ายถูกหรือผิด
ดังนั้นทางที่ดี ไม่ควรชะล่าใจ หรือผัดวันประกันพรุ่ง จนใบขับขี่หมดอายุ หรือถ้างานยุ่งจนลืมวันหมดอายุไปแบบไม่ตั้งใจ ก็ควรรีบหาเวลาว่างไปต่อใบขับขี่ใหม่ หรือเลือกใช้สิทธิลากิจได้ตามกฎหมาย
หมายเหตุ: *เงื่อนไขการใช้ใบขับขี่หมดอายุในการต่ออายุประกันรถ รวมถึงข้อยกเว้นในการให้ความคุ้มครอง เป็นไปตามที่แต่ละบริษัทกำหนด ควรสอบถามตัวแทนประกันหรือโบรกเกอร์ให้แน่ชัดก่อนตัดสินใจทำประกันทุกครั้ง