รถกระบะแต่ง ทําประกันได้ไหม?
ในปัจจุบันการแต่งรถกระบะกลายเป็นหนึ่งในเทรนด์ยอดนิยมของผู้ที่ชื่นชอบการปรับแต่งรถเพื่อเพิ่มความสวยงาม หรือความสามารถในการใช้งานที่ดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ชื่นชอบการขับขี่ในรูปแบบที่โดดเด่นและแตกต่าง การตกแต่งอาจเป็นการปรับเปลี่ยนภายนอก เช่น การติดตั้งอุปกรณ์เสริม หรือการดัดแปลงเครื่องยนต์เพื่อเพิ่มสมรรถนะ
ซึ่งไม่เพียงแค่ทำให้รถดูสวยงามมากขึ้น แต่ยังสามารถเพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัยได้ในบางกรณีแต่การแต่งรถกระบะอาจส่งผลต่อการตัดสินใจทำประกันรถกระบะ
เนื่องจากหลายบริษัทประกันอาจมีข้อจำกัดหรือเงื่อนไขพิเศษที่ต้องพิจารณาเมื่อรถที่ทำประกันมีการตกแต่ง และข้อควรระวังเมื่อทำประกันสำหรับรถกระบะแต่ง
ความนิยมของรถกระบะในปัจจุบัน
ในปัจจุบัน รถกระบะทั้ง มือ1 และ รถกระบะมือสอง ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากทั้งในกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปทั้งในเชิงบุคคลและใช้รถกระบะเชิงพาณิชย์ รวมถึงกลุ่มผู้ชื่นชอบการแต่งรถ เนื่องจากความทนทานและการใช้งานที่หลากหลายของรถกระบะ
ซึ่งสามารถใช้ในการทำงานหนักและเดินทางไกลได้ดี อีกทั้งยังสามารถดัดแปลงหรือปรับแต่งให้มีความสวยงามและสมรรถนะที่ดีขึ้น
รถกระบะแต่งสามารถทําประกันได้ไหม?
การติดตั้งอุปกรณ์เสริมรถกระบะหรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า “แต่งรถ” เป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคล แต่สิ่งที่คนชอบแต่งรถอาจจะไม่รู้ คือ การแต่งรถที่มากเกินพอดี
อาจเป็นสาเหตุให้ประกันรถยนต์ปฏิเสธความคุ้มครองได้ นั่นเท่ากับว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ผู้ขับขี่หรือเจ้าของรถ ต้องรับผิดชอบความเสียหายเองทั้งหมด
อุปกรณ์เสริมรถมีกี่ประเภท?
อุปกรณ์เสริมรถที่มีอยู่ในปัจจุบัน สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้
1. อุปกรณ์เสริมรถเพื่อความสวยงาม
หมายถึง อุปกรณ์เสริมรถใดๆ ก็ตาม ที่ติดตั้งเพื่อจุดประสงค์ในด้านความสวยงาม เช่น สติกเกอร์ อุปกรณ์ตกแต่งเบาะ สปอยเลอร์ สเกิร์ต เป็นต้น
2. อุปกรณ์เสริมรถเพื่อการใช้งาน
หมายถึง อุปกรณ์เสริมรถ ที่ติดตั้ง เพื่อจุดประสงค์ในการดัดแปลง หรือปรับเปลี่ยนสมรรถนะของรถ ให้ทำงานแตกต่างไปจากมาตรฐานเดิมของศูนย์รถยนต์ เช่น เครื่องยนต์ ล้อแม็กซ์ ยางรถ ซุ้มล้อ ชุดเบรก เป็นต้น
เงื่อนไขความคุ้มครองสำหรับรถกระบะแต่ง
1. มีการแจ้งกับบริษัทประกัน
ก่อนทำประกันอย่างละเอียดว่า ติดตั้งอุปกรณ์เสริมรถอย่างไร และติดตั้งตรงไหนบ้าง
2. อุปกรณ์เสริมรถไม่ผิดเงื่อนไขของกรมธรรม์
คือ ไม่ได้เป็นการดัดแปลงเครื่องยนต์ ไม่เป็นการดัดแปลงเพื่อใช้รถผิดประเภท ไม่ใช่การรถแบบผิดกฎหมาย หรือไม่เป็นอันตรายต่อบุคคลอื่นบนท้องถนน โดยประกันรถยนต์ที่ให้ความคุ้มครองรถยนต์ที่ติดตั้งอุปกรณ์เสริมรถได้
คือ ประกันรถยนต์ชั้น 1 ประกันรถยนต์ชั้น 2+ และประกันรถยนต์ชั้น 3+ เพราะเป็นประกันที่ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์คันเอาประกัน แต่ก็มีข้อจำกัดอยู่ว่า ราคาอุปกรณ์เสริมต้องไม่เกิน 20,000 บาท และ ต้องติดจากจากศูนย์ที่ได้มาตรฐาน ส่วนความคุ้มครองหากแจ้งประกันเรื่องอุปกรณ์เสริมแล้ว เมื่อเกิดเหตุก็จะได้รับการประกัน
รวมไม่เกินทุนประกันที่เลือกทำไว้ หากพบว่ามีการปกปิด หรือ แจ้งรายละเอียดของอุปกรณ์เสริมไม่ครบ บริษัทประกันมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธการรับประกัน และ ไม่รับผิดชอบค่าเสียหาย
ตัวอย่างรถกระบะแต่งที่ประกันคุ้มครอง
ถ้าอยากให้การติดตั้งอุปกรณ์เสริมรถในการแต่งรถกระบะแต่ละครั้ง ได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันรถยนต์ ควรเลือกใช้อุปกรณ์เสริมที่ไม่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสมรรถนะของรถ และไม่ทำให้บุคคลอื่นๆ เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เช่น
อุปกรณ์เสริมรถเพื่อความสวยงาม
- สปอยเลอร์ หรือสเกิร์ต ที่ไม่ยื่นออกจากตัวรถมากเกินไป ที่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้รถคันอื่น หรือคนเดินริมถนน
- ทำสีรถใหม่ไม่เกิน 30% ของตัวรถ
- ติดตั้งเครื่องเสียงภายในรถ
อุปกรณ์เสริมรถเพื่อการใช้งาน
- เปลี่ยนขนาดยางรถยนต์
- ล้อแมกซ์
- อุปกรณ์ก๊าซ LPG/NGV
ตัวอย่างรถกระบะแต่งที่ประกันไม่คุ้มครอง
นอกจากประกันจะไม่ให้ความคุ้มครองแล้ว เจ้าของรถยังมีสิทธิ์ถูกปรับตามกฎหมายด้วย เช่น
อุปกรณ์เสริมรถเพื่อความสวยงาม
การถอดเบาะออก หรือติดตั้งเบาะเพิ่ม (อ้างอิงตามข้อมูลการจดทะเบียนรถยนต์)ถือว่าเป็นการใช้อุปกรณ์เสริมรถที่มีความผิดตาม พ.ร.บ. รถยนต์ พ.ศ. 2522 มาตรา 12 ที่ระบุว่า “รถใดที่จดทะเบียนแล้ว หากปรากฏในภายหลังว่ารถนั้นมีส่วนควบหรือเครื่องอุปกรณ์สำหรับรถไม่ครบถ้วนถูกต้องตามที่กำหนดในกฎกระทรวง
หรือเพิ่มสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้าไปซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจของผู้อื่น ห้ามมิให้ผู้ใดใช้รถนั้นจนกว่าจะจัดให้มีครบถ้วนถูกต้องหรือเอาออกแล้ว” มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท
อุปกรณ์เสริมรถอื่นๆ ที่ทำให้รูปลักษณ์ของรถเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
หรือมีการยื่นออกมานอกตัวรถมากเกินไป จนเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ เช่น ติดสติกเกอร์รอบคันจนไม่เห็นสีเดิมของรถ โดยไม่มีการแจ้งต่อกรมการขนส่งทางบกและบริษัทประกัน สปอยเลอร์ท้ายรถที่ยื่นออกมาจากตัวรถมากผิดปกติ เป็นต้น
สรุป รถกระบะแต่งสามารถทำประกันได้ แต่ต้องแจ้งรายละเอียดการติดตั้งอุปกรณ์ให้บริษัททราบและไม่ผิดเงื่อนไขกรมธรรม์ โดยประกันชั้น 1, 2+, 3+ และต้องติดตั้งโดยศูนย์มาตรฐาน อุปกรณ์บางอย่างอาจทำให้ถูกปฏิเสธความคุ้มครอง เช่น การดัดแปลงเบาะ ติดสติกเกอร์ทั้งคัน เป็นต้น
ดังนั้นต้องแจ้งข้อมูลการแต่งรถอย่างละเอียดและครบถ้วน เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองจากประกันสูงสุด
แต่ไม่ว่าคุณจะชอบแต่งรถกระบะแบบสายเท่ สายหวาน หรือสายซิ่ง ก็อยากเน้นย้ำว่า อย่าลืมทำประกันรถยนต์เอาไว้ด้วย เพื่อเพิ่มความคุ้มครองให้คุณและรถ โดยแนะนำเป็นประกันชั้น1 เพราะให้ความคุ้มครองรอบด้านมากที่สุด และมีทุนประกันในด้านต่างๆ สูงที่สุดด้วย
โดยเฉพาะการทําประกันรถกระบะออนไลน์ยิ่งสะดวกรวดเร็วและสามารถผ่อนประกันรถกระบะได้ ที่ SMILE INSURE
ทําประกันรถกระบะออนไลน์สะดวกรวดเร็วผ่อนสบาย 0% สูงสุด 10 เดือน! ต้องที่ SMILE INSURE เท่านั้น