8 เทคนิคง่ายๆ ทำให้ “แอร์รถเย็นฉ่ำ ไม่มีกลิ่น"
8 เทคนิคง่ายๆ ทำให้ “แอร์รถเย็นฉ่ำ ไม่มีกลิ่น"
เปิดแอร์เท่าไหร่ก็ไม่เย็น อากาศยิ่งร้อนเจอแอร์ไม่เย็นอีก มีเซ็ง แล้วต้องทำยังไงให้แอร์เย็นชื่นใจเวลาขึ้นรถ ต้องปรับหมุนไปที่ไหน? หรือต้องทำยังไง? วันนี้เรามีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ มากฝาก
1. สตาร์ทเครื่องก่อนเปิดแอร์
ก่อนที่เราจะทำการสตาร์ทเครื่องยนต์ในทุกๆครั้ง ควรทำการปิดสวิตช์ควบคุมคอมเพรสเซอร์ ( A/C) ก่อน เพื่อที่จะให้คอมเพรสเซอร์ เป็นตัวฉุดกำลังของไฟฟ้าในขณะที่เราจะสตาร์ทรถยนต์นั่นเอง เมื่อเครื่องยนต์ติดก็อย่างพึ่งรีบเปิดแอร์ ควรปล่อยให้เครื่องยนต์มีอุณภูมิเพิ่มขึ้นสักนิดก่อน เพื่อรักษาคอมเพรสเซอร์แอร์ไม่ให้ถูกกระชากในขณะที่รอบเครื่องยนต์สูง พอรอบเริ่มต่ำลงท่านสามารถเปิดแอร์รถยนต์ได้ตามปกติ
2. เปิดการใช้ความเร็วพัดลมสูง
หลังจากที่เราทำการสตาร์ทแล้วเครื่องยนต์ที่อยู่ในอุณหภูมิพร้อมใช้งาน อย่าเพิ่งรีบปรับอุณหภูมิ แต่ควรทำการเปิดแอร์โดยใช้ความเร็วของพัดลมเสริมก่อน เพื่อเป็นการไล่ความร้อนในระบบแอร์ออกไป โดยหลังจากนั้นเราจึงค่อยทำการปิดสวิตช์ A/C ปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
ควรปรับให้อยู่ในอุณภูมิที่เหมาะสม ไม่ควรปรับให้มากหรือน้อยจนเกินไป ถ้าขึ้นรถมาแล้วร้อนก็ปรับเยอะได้ แต่เมื่อเริ่มเย็นแล้วก็ควรที่จะปรับลดระดับลงมา เพื่อช่วยให้คอมเพรสเซอร์แอร์ทำงานน้อยลง
3. ปรับอุณหภูมิสูงขึ้น แทนการปัดช่องแอร์หนี
ถ้าหากนั่งไปสักพักแล้วรู้สึกว่าอุณหภูมิเย็นเกินไป อย่ารีบหันช่องแอร์หนีไปจากตัว ให้ทำการปรับอุณหภูมิให้สูง แต่ให้ใช้วิธีปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้นแทน คอมเพรสเซอร์จะได้ไม่ทำงานหนักโดยไม่จำเป็น
4. ปิดแอร์ก่อนถึงปลายทาง
ก่อนจะถึงจุดหมายปลายทางประมาณสัก 5–10นาที ให้ปิดสวิตซ์ A/C และเปิดพัดลมไปที่ความเร็วสูงสุดแทน วิธีนี้จะช่วยลดภาระการทำงานของคอมเพรสเซอร์ และไล่ความชื้นออกจากคอล์ยเย็น ในขณะที่เราเปิดแอร์มาตลอดทาง แผงทำความเย็นที่เป็นตัวสร้างความเย็นจะมีความชื้นอยู่ตลอดเวลาซึ่งก็จะมีทั้งไอน้ำและฝุ่นผงที่หลุดผ่านเข้าและเมื่อเราปิดแอร์ทันทีในขณะที่มีความชื้นพร้อมกับฝุ่นผงเมื่อเป็นแบบนี้ทุกวันเข้า ก็จะก่อให้เกิดการสะสมของคราบสกปรกหมักหมม และในที่สุดก็จะเกิดกลิ่นเหม็น
เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะถึงที่หมายสักประมาณ 200-300ม. ให้ปิดปุ่ม A/C ก่อนและทำการเปิดพัดลมสักเบอร์ 3-4 เพื่อเป่าให้แผงทำความเย็นมีความชื้นลดลง เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ลดกลิ่นอับที่มาจากช่องแอร์ได้ ช่วยป้องกันการสะสมของเชื้อแบคทีเรียภายในได้ดี ถ้าทำแบบนี้บ่อยๆ แอร์รถของคุณจะไม่มีกลิ่นเหม็นอับแน่นอน
5. ไม่ควรใช้น้ำหอมชนิดที่มีแอลกอฮอล์
ไม่ควรนำน้ำหอมชนิดที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนประกอบมาเสียบไว้หน้าช่องแอร์ เพราะนั้นอาจจะทำให้ตู้แอร์ผุกร่อนเร็วขึ้นกว่าเดิมได้ หากอยากใช้ให้หาน้ำหอมสำหรับรถโดยเฉพาะเท่านั้น
6. ไล่ความร้อนออกก่อน เย็นเร็วขึ้น
สำหรับรถที่จอดตากแดดเอาไว้นานๆ หรือรถที่กำลังจะจอดทิ้งไว้นานๆ ควรเปิดลมเปล่าระดับแรงสุดเสียโดยยังไม่เปิดสวิตซ์ A/C ก่อน ประมาณ 5 นาที ขั้นตอนนี้จะช่วยไล่ความร้อนหรือความชื้นที่ค้างอยู่ในระบบแอร์ได้ เมื่อความร้อนหรือความชื้นลดลงแล้ว จึงค่อยเปิดสวิตซ์ A/C ตามมาทีหลัง นอกจากจะช่วยชะลอการเสื่อมของเครื่องได้แล้ว ยังทำให้ตู้แอร์มีกลิ่นเหม็นอับลดน้อยลงได้ด้วย
7. ไม่เปิดกระจกรถ หากไม่จำเป็น
การที่เราเปิดปิดกระจกอยู่บ่อยครั้ง ไม่เพียงแต่จะนำความร้อนเข้ามาตัวรถ แต่ยังจะทำให้สิ่งแปลกปลอมจากภายนอกเข้ามาอุดตันในเครื่องแอร์ได้เร็วมากขึ้น จะยิ่งเป็นการเพิ่มภาระให้แอร์ทำงานหนักมากยิ่งขึ้น จากความร้อนภายนอกรถที่มีมากกว่า และทำให้ความเย็นภายในรถไหลออกไปด้านนอกอีกด้วย ทำให้แอร์ไม่ค่อยเย็นได้เช่นกัน
พยายามดูแลเรื่องของความสะอาดภายในรถโดยเฉพาะที่พื้นด้านหน้าฝั่งคนนั่ง พยายามอย่างให้มีฝุ่นเยอะ
8. ถ้าแอร์ไม่เย็น ควรเช็ก!
หากตัวเรามีความรู้สึกว่าแอร์ไม่เย็น ให้รีบปิดน้ำยาแอร์หรือสวิตซ์ A/C ในทันทีโดยยังสามารถใช้พัดลมเป่าได้อยู่ ทั้งนี้ทั้งนั้น เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้คอมเพรสเซอร์เสียหาย จากนั้นจึงนำรถไปตรวจเช็คความผิดปกติของเครื่องแอร์ อาจจะเป็นอาการแอร์ตัน แผงทำความเย็นของแอร์รถยนต์สกปรกจึงทำให้ลมไม่สามารถผ่านออกมาได้ จนเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดน้ำแข็งเกาะจำเป็นต้องทำการล้างแอร์ ต้องเช็กด่วน!
รู้แล้วนำไปใช้! แอร์รถยนต์ ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญภายในรถยนต์ที่ขาดไม่ได้เลย โดยเฉพาะอากาศร้อนๆแบบนี้ ได้เทคนิคทั้ง 8 ข้อไปแล้ว ไม่เย็นให้มันรู้ไป!