5 ข้อควรระวัง! เมื่อทำประกันรถยนต์ออนไลน์
5 ข้อควรระวัง เมื่อทำประกันรถยนต์ออนไลน์
ในยุคนี้ ถ้าอยากทำประกันรถยนต์แบบสะดวกสบาย ได้รับเล่มกรมธรรม์รวดเร็วทันใจ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปไหน ก็ต้องทำประกันรถยนต์ออนไลน์ แต่ความสะดวกสบายแบบนี้ ก็มีข้อควรระมัดระวังอยู่เหมือนกัน
เพราะอาจทำให้คุณตัดสินใจเร็วเกินไป จนพลาดสิ่งสำคัญบางอย่างไปได้
ถ้าไม่อยากให้การทำประกันเกิดเรื่องที่ไม่ได้ดั่งใจตามมาทีหลัง ต้องไม่พลาดกับ 5 ข้อควรระวัง ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้
1. ระวังทำประกันรถยนต์ออนไลน์ที่ไม่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์
ปัจจุบันหลายบริษัทประกันและโบรกเกอร์ มีประกันรถยนต์ออนไลน์ให้เลือกซื้อมากมาย หลายประเภท และหลายเงื่อนไขความคุ้มครอง ถ้าเปิดเพียงเว็บไซต์เดียว แล้วตัดสินใจทำประกันรถยนต์ออนไลน์แบบรีบร้อนเกินไป อาจทำให้คุณ “เลือกผิดชีวิตเปลี่ยน”
ถ้าไม่อยากขับรถชน น้ำท่วมรถ ไฟไหม้รถ รถหาย หรือเจออุบัติเหตุต่างๆ แล้วเคลมได้ไม่ทั้งหมด หรือเคลมไม่ได้เลย ควรย้อนดูไลฟ์สไตล์การใช้รถของตัวเองก่อนว่าเป็นอย่างไร? คุ้นเคยกับรถหรือชำนาญเส้นทางหรือยัง? ขับรถอยู่ในเส้นทางเดิมเสมอ หรือต้องไปเจอกับลูกค้าในเส้นทางใหม่ตลอดเวลา? และสภาพรถเป็นอย่างไร?
แล้วนำข้อมูลทั้งหมดมาลิสต์เป็นข้อๆ เพื่อดูว่าอะไรคือสิ่งที่คุณต้องการให้ประกันรถยนต์คุ้มครอง หลังจากนั้นค่อยอ่านเงื่อนไขความคุ้มครองของประกันแต่ละแผนให้ครบถ้วน และนำมาเปรียบเทียบกัน เพื่อเลือกสิ่งที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเองมากที่สุด
2. ระวังทำประกันรถยนต์ออนไลน์ที่ไม่คุ้มกับค่าเบี้ย
ถ้าทุ่มเทจ่ายเงินแพง แล้วได้รับการคุ้มครองดูแลที่ไม่ดีเท่าคนที่จ่ายน้อยกว่า คงเป็นเรื่องน่าเศร้าใจไม่น้อย ดังนั้น “ค่าเบี้ยประกัน” ก็เป็นเรื่องที่ควรระมัดระวังในการคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจทำประกันรถยนต์ออนไลน์ เพราะบางครั้ง แม้จะเป็นประกันรถประเภทเดียวกัน และมีเงื่อนไขความคุ้มครองเหมือนกัน แต่เมื่อมาจากคนละบริษัท ก็อาจมีราคาค่าเบี้ยประกันที่ต่างกัน
ตัวอย่าง
- ประกันรถชั้น 2+ บริษัท A ค่าเบี้ยประกัน 9,900 บาท จะได้รับทุนประกัน 300,000 บาท คุ้มครองกรณีรถสูญหาย/ไฟไหม้ 300,000 บาท คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สิน 1,000,000 บาท และซ่อมอู่
- ประกันรถชั้น 2+ บริษัท B ค่าเบี้ยประกัน 8,800 บาท จะได้รับทุนประกัน 300,000 บาท คุ้มครองกรณีรถสูญหาย/ไฟไหม้ 300,000 บาท คุ้มครองความเสียหายต่อทรัพย์สิน 1,000,000 บาท และซ่อมอู่
จะเห็นได้ว่า เมื่อเปรียบเทียบค่าเบี้ยประกันกับเงื่อนไขความคุ้มครองแล้ว ประกันของบริษัท B มีความคุ้มค่ามากกว่า
3. ระวังเรื่องบริการหลังการขายหลังทำประกันรถยนต์ออนไลน์
อย่างไรก็ตาม ความคุ้มค่าของการทำประกันรถยนต์ออนไลน์ ยังดูได้จากบริการหลังการขายด้วย ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญกับการเคลมประกันมากที่สุด
ถ้าไม่อยากวิ่งวุ่นหลังจากเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนด้วยตัวเอง ควรลองทดสอบการบริการของบริษัทประกันหรือโบรกเกอร์นั้นๆ สักครั้ง ด้วยการติดต่อสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับประกัน หรือขอคำปรึกษาในด้านต่างๆ ก่อนตัดสินใจ รวมถึงอ่านรีวิวจากลูกค้าจริงของบริษัทฯ เพื่อพิจารณาควบคู่กันไป
เช่น คอลเซ็นเตอร์ของบริษัทฯ ให้การช่วยเหลือรวดเร็วทันใจไหม? ตอบคำถามได้เคลียร์หรือเปล่า? ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงหรือไม่? มีสาขาของบริษัทประกัน หรือพาร์ทเนอร์ที่ประกันครอบคลุมในพื้นที่ต่างๆ มากน้อยแค่ไหน? เป็นต้น
บริษัทฯ ที่ดีควรมีบริการหลังการขายที่ครอบคลุมเรื่องพื้นฐานเหล่านี้ เพราะมีผลต่อการส่งเจ้าหน้าที่ประกันไปยังที่เกิดเหตุ และการรับเคลมประกันในอนาคต หรือหากมีบริการน่าประทับใจมากกว่านี้ ก็มั่นใจได้เลยว่าการทำประกันรถยนต์ออนไลน์ในครั้งนั้นๆ จะเป็นประสบการณ์ที่ดีอย่างแน่นอน
4. ระวังถูกมิจฉาชีพหลอกลวง
เพราะความเข้าถึงง่ายของอินเทอร์เน็ต นอกจากจะทำให้การทำประกันรถยนต์ออนไลน์สะดวกสบายมากกว่าเดิมแล้ว ต้องยอมรับว่าอีกด้านหนึ่งก็เป็นช่องทางให้มิจฉาชีพแฝงตัวเข้ามาสร้างความเดือดร้อนได้ด้วย ดังนั้นไม่ว่าคุณจะซื้อประกันรถยนต์ใหม่
หรือจะต่อประกันภัยรถยนต์ออนไลน์ ก็ควรมีสติให้มาก และไม่หลงเชื่ออะไรง่ายเกินไป เพื่อป้องกันข้อมูลสำคัญ ซึ่งรวมถึงเงินสดในบัญชี รั่วไหลไปสู่ผู้ไม่หวังดี โดยทำตามเทคนิคเหล่านี้
เลือกทำประกันรถยนต์ออนไลน์กับบริษัทประกันหรือโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือ มีตัวตนอยู่จริง มีการจดทะเบียนบริษัทถูกต้องตามกฎหมาย และได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการประกันภัยจากคปภ. เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะไม่โดนหลอก
สังเกตลิงก์เว็บไซต์ก่อนคลิกทุกครั้ง เพราะเชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่เข้าถึงเว็บไซต์ด้วยการเสิร์ชผ่าน Search engine อย่าง Google, Yahoo, Microsoft Bing หรือคลิกลิงก์จากที่คนอื่นส่งมาให้ จึงทำให้เจอเว็บไซต์แปลกใหม่มากมาย และอาจโดนล่อลวงได้ง่ายขึ้นวยโฆษณาชวนเชื่อ เช่น ลดราคา 50% คลิกตอนนี้รับเครดิตเงินคืนทันที เป็นต้น โดยคุณสามารถระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการถูกหลอกได้ดังนี้
1. ไม่คลิกลิงก์ที่ได้รับจากบุคคลลที่ไม่รู้จัก ทั้งทาง SMS อีเมล และโซเชียลมีเดียต่างๆสังเกตชื่อเว็บไซต์ (โดเมนเนม) และนามสกุลเว็บไซต์ ถ้าไม่เคยเห็นมาก่อน หรือไม่มีความหมาย เช่น เป็นตัวเลขยาวติดกัน ไม่ใช่โดเมนเชิงพาณิชย์ยอดฮิตอย่าง .com, .co.th. อย่าเสี่ยงคลิกเข้าไป หลีกเลี่ยงการติดตั้งโปรแกรมที่เว็บไซต์แปลกๆ เหล่านั้นบังคับให้ดาวน์โหลดเพิ่มเติม เพื่อแลกกับสิทธิพิเศษ
2. สังเกตหน้าเว็บไซต์หลังจากคลิกลิงก์เข้าไป ถ้าชื่อเว็บไซต์ไม่สัมพันธ์กับข้อมูลในหน้าเว็บไซต์ เช่น ชื่อเว็บไซต์ก่อนคลิกลิงก์ชื่อว่า ABCDINSURE แต่เมื่อคลิกเข้าไปแล้วกลายเป็นหน้าที่ไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับประกันรถเลย แถมยังบังคับให้ดาวน์โหลด และติดตั้งแอปเพิ่มเติม ควรปิดหน้าเว็บไซต์นั้นทันที
5. ระวังบริษัทประกันที่ใกล้ล้มละลาย
เรื่องนี้อาจดูไกลตัวคนที่ไม่ค่อยได้ติดตามข่าวสาร แต่เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามที่สุดเรื่องหนึ่ง เมื่อไหร่ที่คิดจะทำประกันรถยนต์ออนไลน์ แล้วไม่อยากเจอกับเหตุการณ์จ่ายเงินทิ้งเปล่า ไม่มีใครยื่นมือมาช่วยเหลือยามเกิดอุบัติเหตุ หรือรอการชดเชยนานข้ามปี อย่าลืมตรวจเช็กข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับบริษัทประกันนั้นๆ ก่อนทำประกันเสมอ
โดยติดตามจากทั้งข่าวในประเทศและต่างประเทศ (กรณีที่บริษัทฯ มีเครือข่ายอยู่ต่างประเทศ) และเสิร์ชหารีวิวดูสักนิด ว่ามีใครเคยตั้งข้อสังเกตถึงงบการเงินบ้างไหม? หรือมีใครออกมาตั้งกระทู้ร้องเรียนบริษัทหรือยัง? เพื่อให้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจทำประกันเพิ่มมากขึ้น
ซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ดีไหม?
เมื่อมาถึงตรงนี้ บางคนอาจเริ่มสงสัยขึ้นมาแล้วว่า เมื่อมีข้อควรระวังมากมายขนาดนี้ การซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ยังเป็นทางเลือกดีอยู่ไหม? ควรซื้อหรือเปล่า?
ต้องบอกว่า แม้จะมีข้อควรระวังเยอะ แต่การซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ก็ยังมีข้อดีมากกว่าการเดินทางไปซื้อประกันถึงบริษัทฯ อยู่ดี ไม่ว่าจะเป็นความสะดวกสบาย การประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย เพราะซื้อประกันได้ทุกที่ ทุกเวลา ความรวดเร็วทันใจ เพราะรอรับเล่มกรมธรรม์ส่งตรงถึงมือได้แทบจะทันที (ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขแต่ละบริษัท แต่ส่วนใหญ่จะไม่เกิน 1 วัน)
อีกทั้งยังได้ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมด้วย เพราะการทำประกันรถยนต์ออนไลน์ จะช่วยลดการใช้กระดาษได้ในทุกขั้นตอน
ซึ่งถ้าหากคุณระมัดระวัง และเลี่ยงเหตุการณ์ที่จะทำให้เกิดความเสี่ยงได้ตามคำแนะนำทั้ง 5 ข้อ ก็จะทำให้ข้อดีเหล่านี้ยิ่งเห็นชัดมากขึ้น
อย่างไรก็ตามรู้ นอกจากจะทำให้ทุกคนรู้แล้วว่าการทำประกันรถยนต์แบบออนไลน์เป็นทางเลือกที่ดี เรายังมีคำแนะนำเกี่ยวกับการซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์แบบไหนดี? มาฝากกันด้วย โดยประกันรถยนต์ออนไลน์ที่ดี ควรมีคุณสมบัติดังนี้
- ประกันรถยนต์ออนไลน์ที่ดีต้องตอบโจทย์ความต้องการของคุณได้
- ประกันรถยนต์ออนไลน์ที่ดีควรมีช่องทางการจ่ายเงินให้เลือกหลากหลาย
- ประกันรถยนต์ออนไลน์ที่ดีควรส่งกรมธรรม์ถึงมือทันที
- ประกันรถยนต์ออนไลน์ที่ดีต้องมีบริการที่พร้อมช่วยเหลือทั้งก่อนและหลังซื้อประกัน
หรือซื้อผ่าน SMILE INSURE เพราะที่นี่พร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการของคนทำประกันรถยนต์ออนไลน์ กับฟังก์ชั่นช่วยเปรียบเทียบข้อมูลประกันของบริษัทต่างๆ คอลเซ็นเตอร์ที่พร้อมให้ข้อมูลตลอดเวลา การเลือกจ่ายเงินได้หลากหลายรูปแบบ พร้อมโปรโมชั่นดีๆ และการส่งกรมธรรม์คุณให้ทันที ไม่ต้องรอนาน