4 สิ่งต้องห้าม!! เมื่อได้ยินเสียงไซเรนรถฉุกเฉิน
4 สิ่งต้องห้าม!! เมื่อได้ยินเสียงไซเรนรถฉุกเฉิน
ก่อนหน้านี้ไม่นานได้มีข่าวฮือฮาเกี่ยวกับการหลีกทางให้รถฉุกเฉินถึงสองเหตุการณ์ เนื่องจากรถฉุกเฉินต้องนำผู้ป่วยไปส่งโรงพยาบาล แต่กลับเจอรถยนต์ขับนำหน้าไม่ยอมหลบทางให้ จึงทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิต และกลายเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันมากมาย วันนี้ Smile Insure จึงอยากจะมาพูดถึงสิ่งต้องห้ามเมื่อได้ยินเสียงไซเรนค่ะ…
1. สติกระเจิง
สติ คือสิ่งสำคัญในการทำทุกๆอย่างจริงๆนะคะ เพราะถ้าสติกระเจิงหายไปเราอาจจะทำอะไรไม่ถูก ยิ่งถ้าได้ยินเสียงไซเรนดังๆ วิ่งเข้ามาใกล้สติอาจจะหลุดจนทำให้สถานการณ์นั้นแย่กว่าเดิมก็ได้ค่ะ
2. ไม่เปิดสัญญาณไฟเลี้ยว
เมื่อได้ยินเสียงไซเรนผู้ขับขี่ควรมองกระจกข้างและกะระยะห่างของรถเพื่อหลบทาง ซึ่งโดยปกติแล้วจะต้องหลบหรือจอดชิดซ้ายเพื่อให้ฉุกเฉินผ่านไป ตาม พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 76 ข้อที่ 2 ระบุไว้ว่า “สำหรับผู้ขับขี่ต้องหยุดรถหรือจอดรถให้อยู่ชิดขอบทางด้านซ้าย หรือในกรณีที่มีช่องเดินรถประจำทางอยู่ทางด้านซ้ายสุดของทางเดินรถ ต้องหยุดรถหรือจอดรถให้อยู่ชิดช่องเดินรถประจำทาง แต่ห้ามหยุดรถหรือจอดรถในทางร่วมทางแยก”
แต่ถ้าเกิดรถฉุกเฉินขับตามหลังรถของเรา ให้เลือกว่าจะหลบทางไหนพร้อมเปิดสัญญาณไฟเลี้ยวเพื่อให้รถฉุกเฉินรู้ว่าจะหลบไปทางไหนและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุด้วยค่ะ
3. อย่านิ่งเฉย
เมื่อเกิดสถานการณ์รถติดอย่านิ่งเฉยค่ะ ให้ค่อยๆขยับชิดขอบถนนเพื่อให้รถฉุกเฉินผ่านไปได้ค่ะ
4. ห้ามขับตามรถฉุกเฉิน
เมื่อรถฉุกเฉินขับผ่านไป ใครที่คิดจะขับเร่งตาม หยุด!! คิดทันที่ค่ะ ระวังถูกปรับนะคะ เพราะผิดกฎหมาย ตาม พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 127 ระบุไว้ว่า “ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถ ตามหลังรถฉุกเฉินซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่ในระยะต่ำกว่าห้าสิบเมตร” ดังนั้น เมื่อรถฉุกเฉินขับผ่านไป เราก็ควรทิ้งระยะห่างไว้อย่างพอดีนะคะ
ไม่ใช่แค่เราที่ต้องขับรถตามกฎจราจรนะคะ คนขับรถฉุกเฉินเองก็ต้องรักษากฎจราจรและยังต้องรักษาชีวิตของผู้ป่วยที่อยู่บนรถอีกด้วย เมื่อได้ยินเสียไซเรนแค่ขับชิดข้างสักนิด ก็ช่วยชีวิตใครอีกคนได้นะคะ แต่จะดีกว่าไหม ถ้ามีที่ปรึกษาประกันภัยอย่าง Smile Insure เป็นที่ปรึกษาของคุณ หากสนใจประกันดี ๆ นึกถึง Smile Insure สิคะ เราพร้อมให้คำปรึกษา พร้อมโปรโมชั่นดี ๆ อีกเพียบ..
ขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก: สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา