โดนแน่! “ค้างจ่ายใบสั่ง” อายัดต่อทะเบียนรถ
![โดนแน่! “ค้างจ่ายใบสั่ง” อายัดต่อทะเบียนรถ](https://smileinsure.co.th/public/img/upload/blog/20190701145947_426612189.jpg)
โดนแน่! “ค้างจ่ายใบสั่ง” อายัดต่อทะเบียนรถ
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2562 ที่กรมขนส่งทางบก นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก พร้อมด้วย พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ประกาศเริ่มบังคับใช้มาตรการ 44 ว่า “หากเจ้าของรถยนต์ ผู้ขับขี่ไม่จ่ายค่าปรับใบสั่งตำรวจ จะไม่สามารถต่อทะเบียนรถยนต์ได้” โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2560 ระบุคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 14/2560 เรื่อง มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก ร่วมกัน
โดยกรมการขนส่งทางบก และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเชื่อมโยงข้อมูลใบสั่ง-ค่าปรับร่วมกัน ทำให้ผู้ขับขี่ที่ได้รับใบสั่งสามารถไปเสียค่าปรับได้ทั้งที่สถานีตำรวจ และสามารถเสียค่าปรับพร้อมกับการเสียภาษีรถประจำปีที่สำนักงานขนส่งทางบกได้ แต่ในกรณีที่ผู้ขับขี่ไม่สะดวกเสียค่าปรับ และเสียภาษีรถยนต์พร้อมกัน ทางขนส่งทางบกจะให้ผู้ขับขี่เสียภาษีประจำปีรถยนต์ได้ก่อน แต่จะไม่ได้ “ป้ายวงกลม” หรือ “เครื่องหมายแสดงการเสียภาษี” โดยเจ้าหน้าที่จะออกหลักฐานแสดงการเสียภาษีประจำปีชั่วคราวให้ก่อน ซึ่งมีอายุใช้ได้ 30 วัน หากไม่ดำเนินการชำระค่าปรับภายใน 30 วันอาจจะถูกปรับ 2,000 บาท ในข้อหาขับรถไม่แสดงเครื่องหมายป้ายวงกลม
ทั้งนี้ ใบสั่งจะถูกเชื่อมโยงข้อมูลไปยังระบบของกรมขนส่งทางบกหลังจากวันที่ 1 ตุลาคม 2562 และจะมีผลย้อนหลัง 1 ปี ตามอายุของใบสั่ง กล่าวคือ ผู้ขับขี่ที่เคยได้รับใบสั่งจากตำรวจย้อนหลังจากวันที่ 1 ตุลาคม 2562 กลับไป 1 ปีก็ยังต้องเสียค่าปรับตามใบสั่งตามปกติ ซึ่งมาตรการเชื่อมโยงข้อมูลใบสั่งและการเสียภาษีรถประจำปีมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมาย และลดอุบัติเหตุทางถนน
ขอบคุณข้อมูลจาก:
● สำนักพิมพ์ข่าวสด
● สำนักข่าว SpringNews
● สำนักข่าวไทยรัฐ