เอ๊ะ! ประกันภัยมีกี่ประเภท ต่างกันยังไงล่ะ?
เอ๊ะ! ประกันภัยมีกี่ประเภท ต่างกันยังไงล่ะ?
ก่อนจะทำประกันรถยนต์ เรามาทำความเข้าใจกันดีกว่าค่ะว่าประกันคืออะไร และมีกี่ประเภท เพื่อจะได้เลือกทำประกันได้ถูก และได้ความคุ้มครองตามความเหมาะสม
การประกันภัยรถยนต์มีกี่ประเภท ?
ประกันภัยรถยนต์ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
- ประกันภัยภาคบังคับ
- ประกันภัยภาคสมัครใจ
ประกันภัยภาคบังคับ
ประกันภัยภาคบังคับ หรือที่เรียกกันว่า พ.ร.บ. ประกันภัยประเภทนี้บังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 บังคับให้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ทำประกันประเภทนี้ หากไม่ทำจะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และต้องเก็บรักษา หลักฐาน การมีประกัน ไว้ให้เจ้าหน้าที่ดูด้วยนะคะ ประกันภัยภาคบังคับจะคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีบาดเจ็บ หรือช่วยค่าปลงศพกรณีเสียชีวิตเมื่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตามวงเงินที่คุ้มครองในกรมธรรม์ของรถยนต์ประเภทนั้นๆ และเมื่อเกิดเหตุประกันภัยภาคบังคับให้ความคุ้มครองดังนี้ค่ะ
1. ค่าเสียหายเบื้องต้น ได้รับโดยไม่ต้องรอพิสูจน์ความผิด
1.1 ค่ารักษาพยาบาล จากการบาดเจ็บ (ตามจริง) วงเงินคุ้มครองไม่เกิน 30,000 บาท/คน
1.2 การเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพอย่างถาวร วงเงินคุ้มครองไม่เกิน 35,000 บาท/คน
2. ค่าเสียหายส่วนที่เกินกว่าค่าเสียหายเบื้องต้น สำหรับผู้ประสบภัย (จะได้รับหลังจากพิสูจน์แล้วว่าไม่ได้เป็นฝ่ายละเมิด)
2.1 ค่ารักษาพยาบาล จากการบาดเจ็บ วงเงินคุ้มครองไม่เกิน 80,000 บาท/คน
2.2 การเสียชีวิต หรือทุพพลภาพอย่างถาวร วงเงินคุ้มครองไม่เกิน 300,000 บาท/คน
3.3 สูญเสียอวัยวะ
- นิ้วขาด 1 ข้อขึ้นไป วงเงินคุ้มครองไม่เกิน 200,000 บาท/คน
- สูญเสียอวัยวะ 1 ส่วน วงเงินคุ้มครองไม่เกิน 250,000 บาท/คน
- สูญเสียอวัยวะ 2 ส่วน วงเงินคุ้มครองไม่เกิน 300,000 บาท/คน
2.4 ชดเชยรายวัน 200 บาท รวมกันไม่เกิน 20 วัน กรณีเข้าพักรักษาพยาบาล ในสถานพยาบาลในฐานะคนไข้ใน วงเงินคุ้มครองสูงสุดไม่เกิน 4,000 บาท/คน
2.5 จำนวนเงินความคุ้มครองสูงสุดสำหรับรายการข้อ 2.1-2.4 รวมกันต้องไม่เกิน 304,000 บาท/คน
ประกันภัยภาคสมัครใจ
ประกันภัยภาคสมัครใจ เป็นประกันรถยนต์ที่สามารถซื้อเพิ่มเติมด้วยความสมัครใจ โดยจะได้รับความคุ้มครองต่อเนื่องจากประกันภัยภาคบังคับ ประกันภัยภาคสมัครใจจะคุ้มครองทั้งชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และบุคคลในรถ ซึ่งแยกได้ 5 ประเภท
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1
ประกันภัยชั้น 1 เป็นประเภทที่คุ้มครองครอบคลุมที่สุด และเป็นชั้นที่นิยมทำมากที่สุด โดยคุ้มครองต่อความเสียหายต่อตัวรถในกรณี ไฟไหม้ ภัยธรรมชาติ หรือสูญหาย และจะรับผิดชอบต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และบุคคลในรถ
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2
ประกันภัยชั้น 2 ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเนื่องจากไม่คุ้มครองความเสียหายต่อตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย จะรับผิดชอบต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และบุคคลในรถ ความเสียหายต่อตัวรถในกรณี ไฟไหม้ หรือสูญหาย
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3
ประกันภัยชั้น 3 ประเภทนี้ไม่จำกัดอายุการใช้งาน จะคุ้มครองเฉพาะในกรณีที่คู่กรณีเป็นยานพาหนะทางบกเท่านั้น จะรับผิดชอบชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และบุคคลในรถ
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 2+
ประกันภัยชั้น 2+ หรือที่เรียกว่า 2 พลัส ประกันประเภทนี้จะคล้ายกับประกันชั้น 1 แต่จะแตกต่างจากประเภท 1 ที่ความคุ้มครอง จะคุ้มครองเฉพาะในกรณีที่คู่กรณีเป็นยานพาหนะทางบกเท่านั้น จะคุ้มครองในกรณีรถชนรถ ไฟไหม้ และสูญหาย จะรับผิดชอบต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และบุคคลในรถ
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+
ประกันภัยชั้น 3+ ประกันประเภทนี้จะแตกต่างจากประเภท 1 ที่ความคุ้มครอง เพราะจะคุ้มครองเฉพาะในกรณีที่คู่กรณีเป็นยานพาหนะทางบกเท่านั้น และ แตกต่างจากประเภท 2+ ที่ไม่คุ้มครองในกรณีสูญหาย หรือ ไฟไหม้ จะรับผิดชอบต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และบุคคลภายนอก
การทำประกันภัยภาคบังคับรถทุกคนต้องทำตามกฎหมายกำหนด ส่วนประกันภัยภาคสมัครใจเป็นประกันรถยนต์ที่สามารถซื้อเพิ่มเติมด้วยความสมัครใจ โดยจะได้รับความคุ้มครองต่อเนื่องจากประกันภัยภาคบังคับ ซึ่งหากมองในการรับผิดชอบและความคุ้มครองของประกันทั้ง 2 ประเภท ประกันภัยภาคบังคับจะรับผิดชอบและคุ้มครองแค่ชีวิต และร่างกายของบุคคลภายนอก และบุคคลในรถ ส่วนประกันภัยภาคสมัครใจจะรับผิดชอบและคุ้มครองต่อเนื่องต่อความเสียหายของตัวรถในกรณี ไฟไหม้ ภัยธรรมชาติ หรือสูญหาย และจะรับผิดชอบต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินของบุคคลภายนอก และบุคคลในรถขึ้นอยู่กับประกันที่ท่านทำค่ะ หากสนใจประกันดี ๆ นึกถึง Smile Insure สิคะ เราพร้อมให้คำปรึกษา พร้อมโปรโมชั่นดี ๆ อีกเพียบบ
ขอบคุณข้อมูลจาก: สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)