บทความ | สาระน่ารู้อื่นๆ

เช็กให้ชัวร์ อาการแบบนี้เป็นหวัดหรือภูมิแพ้กันแน่?

เช็กให้ชัวร์ อาการแบบนี้เป็นหวัดหรือภูมิแพ้กันแน่?
18/07/2023  สาระน่ารู้อื่นๆ

เพราะฤดูฝนทำให้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย จนบางครั้งร่างกายปรับตัวไม่ทันจึงทําให้เราเป็นหวัด คัดจมูก หรือมีอาการจาม นํ้ามูกไหล แต่อาการเหล่านี้หลายคนอาจจะสงสัยว่าใช่อาการของหวัดจริงหรือเปล่า? 


เพราะหนึ่งในอาการยอดฮิตที่คนส่วนใหญ่มักพบเจอและจะแสดงอาการกำเริบบ่อยครั้งเมื่อเข้าสู่ช่วงที่อากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงตามฤดูก็คือ “โรคภูมิแพ้อากาศ” ที่เกิดจากการแพ้อากาศนั่นเอง

ถ้าคุณกำลังสงสัยอยู่ว่าอาการเหล่านี้ตกลงแล้วเป็นอะไรกันแน่ วันนี้ SMILE INSURE จะพามาทำความเข้าใจกันก่อน ว่าอาการที่เป็นอยู่มันคืออะไรกัน เกิดจากเป็น หวัด หรือ โรคภูมิแพ้อากาศกันแน่?

อาการแบบไหนที่เรียกว่าเป็น “หวัด”

“หวัด” เกิดจากการติดเชื้อไวรัสซึ่งมีหลายสายพันธุ์ มักพบในช่วงที่มีอากาศเปลี่ยนแปลง ความรุนแรงของโรคไม่มาก และสามารถหายเองได้ภายในไม่กี่วัน 

สามารถติดต่อผ่านทางน้ำมูก น้ำลาย และเสมหะ โดยการหายใจเอาเชื้อที่กระจายจากการไอ จาม หรือมือที่เปื้อนเชื้อโรคสัมผัสจมูกหรือตา

เช็กให้ชัวร์ อาการแบบนี้เป็นหวัดหรือภูมิแพ้กันแน่? | SMILE INSURE


อาการของหวัด ได้แก่

  • คัดจมูก
  • น้ำมูกไหลลักษณะใส
  • ไอมีเสหะ
  • จาม
  • เจ็บคอ
  • เสียงแหบ
  • อาจมีไข้ต่ำๆ ปวดศีรษะเล็กน้อย

ในผู้ใหญ่อาการจะน้อยมากอาจมีแค่คัดจมูกและน้ำมูกไหล (ยกเว้นผู้ที่มีโรคประจำตัวเป็นโรคทางการหายใจ) อาการของโรคมักเป็นไม่เกิน 2 – 5 วัน แต่อาจมีน้ำมูกไหลนาน 10 – 14 วัน 

ซึ่งหวัดจะติดต่อโดยการหายใจเอาละอองน้ำมูก น้ำลาย และเสมหะของผู้ป่วยที่ไอ หรือ จาม และการสัมผัสมือ หรือการใช้สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ร่วมกับผู้ป่วย

เช็กให้ชัวร์ อาการแบบนี้เป็นหวัดหรือภูมิแพ้กันแน่? | SMILE INSURE


โดยปกติแล้วอาการหวัดจะหายได้เองในช่วง 7-10 วัน โดยไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะ  เพียงแค่พักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำสะอาดในปริมาณมากๆ ต่อวัน 

เพื่อให้ร่างกายได้ขับของเสีย และเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เพียงเท่านี้ก็สามารถหายจากการเป็นหวัดได้แล้ว

เช็กให้ชัวร์ อาการแบบนี้เป็นหวัดหรือภูมิแพ้กันแน่? | SMILE INSURE


“ภูมิแพ้อากาศ” เกิดจากอะไร?

เกิดจากการกระตุ้นการทำงานของสารที่ก่อให้เกิดอาการแพ้ หรือฮีสตามีน (Histamine) ในร่างกาย โดยสารก่อ ภูมิแพ้ ได้แก่ อากาศ ฝุ่น ไรฝุ่น ละอองเกสรดอกไม้ การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ 

และความชื้นในอากาศ ก็มีผลทำให้ผู้ป่วยมีอาการจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล คันจมูกจนทำให้มักขยี้จมูกจนเกิดรอยแดง จมูกแดง และมีเสมหะในลำคอ บางรายอาจมีอาการคันตา แสบตา น้ำมูกไหล หรือหูอื้อร่วมด้วย

 เช็กให้ชัวร์ อาการแบบนี้เป็นหวัดหรือภูมิแพ้กันแน่? | SMILE INSURE


การรักษา & ดูแลตัวเองอย่างไรให้หายจาก “ภูมิแพ้อากาศ”

1. ใช้การรักษาเพื่อบรรเทาอาการ

 เช่น ทานยาแก้แพ้เพื่อบรรเทาอาการคัน จาม น้ำมูกไหล ร่วมกับการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือเพื่อกำจัดฝุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยกระตุ้นภูมิแพ้

 ถ้าหากมีอาการภูมิแพ้อากาศเรื้อรัง และรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน สามารถพิจารณาใช้ยาพ่นจมูก โดยควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาทุกครั้ง

2. พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น 

ไม่ว่าจะเป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นฉุน ควันบุหรี่ ควันธูป ควันรถ เพื่อป้องกันไม่ให้อาการภูมิแพ้หนักขึ้น รวมไปถึงหลีกเลี่ยงการเผชิญการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิและความชื้นอย่างเฉียบพลัน 

เช่น หลังจากเดินตากแดดร้อนๆ มา ควรยืนในที่ร่มเพื่อให้ร่างกายได้ปรับอุณหภูมิก่อน จึงค่อยเดินเข้าห้องแอร์ที่มีอุณหภูมิต่ำมากๆ

3. ทำความสะอาดบ้าน 

สำหรับผู้ป่วยภูมิแพ้ที่ไวต่อฝุ่นละอองต่างๆ การทำความสะอาดบ้านทั้งด้านในบ้านและด้านนอกบอก โดยเฉพาะห้องนอนถือเป็นสิ่งที่สำคัญ ควรเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง 

รวมไปถึงการแต่งบ้านให้มีของใช้น้อยๆ เพื่อลดการกักเก็บฝุ่น ตลอดจนการเปิดกระจก หรือผ้าม่าน เพื่อให้อากาศสามารถถ่ายเทได้ดีขึ้นไม่อึดอัด และห้องไม่อับ

เช็กให้ชัวร์ อาการแบบนี้เป็นหวัดหรือภูมิแพ้กันแน่? | SMILE INSURE

4. ออกกำลังกาย 

เป็นที่รู้กันอยู่ว่าการออกกำลังกายช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ  รวมถึง “โรคภูมิแพ้” เพราะการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอจะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ทำให้อาการภูมิแพ้อากาศค่อยๆ หายไป

5. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ 

เพราะการนอนหลับพักผ่อน เป็นการพักผ่อนสมอง พักร่างกายให้ได้ชาร์จแบตหลังถูกใช้งานมาตลอดทั้งวัน

6. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ 

การดูแลรักษาสุขภาพที่ถูกต้องไม่ใช่เพียงแค่ ออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอเท่านั้น สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงก็คือ “อาหาร” ถือเป็นอีกหัวใจสำคัญ ของการดูแลสุขภาพร่างกาย 

การทานอาหารครบทั้ง 5 หมู่ โดยเฉพาะโปรตีน ผัก และผลไม้ จึงเป็นเหมือนอาหารเสริมที่มีประโยชน์ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานให้กับร่างกายให้สุขภาพแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

 เช็กให้ชัวร์ อาการแบบนี้เป็นหวัดหรือภูมิแพ้กันแน่? | SMILE INSURE


ความแตกต่างระหว่าง “หวัด” และ “ภูมิแพ้อากาศ”

ภูมิแพ้อากาศ จะมีอาการคันจมูก รวมถึงอาการอื่นๆ เช่น คันตา น้ำตาไหล ซึ่งจะมีอาการที่กินเวลานานมากกว่า 2 สัปดาห์ขึ้นไป 

ส่วนอาการของหวัด จะมีอาการคัดจมูก น้ำมูกไหลใสใส ในช่วงแรก แล้วค่อยๆ มีสีที่เข้มขึ้น โดยระยะเวลาของโรคหวัดจะอยู่ในช่วง 3-10 วัน ซึ่งต่างจากภูมิแพ้อากาศ

เช็กให้ชัวร์ อาการแบบนี้เป็นหวัดหรือภูมิแพ้กันแน่? | SMILE INSURE


มาถึงตรงนี้หลายคนคงแยกออกแล้วว่าอาการดังกล่าวที่เคยเป็นนั้นมาจากการเป็นหวัด หรือ ภูมิแพ้อากาศกันแน่ 

ซึ่งในช่วงนี้อากาศเปลี่ยแปลงบ่อยและมีฝนตกบ่อยมากขึ้นทุกวัน SMILE INSURE จึงอยากจะให้ทุกท่านดูแลรักษาสุขภาพให้ดีเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง 

และตัวช่วยสำคัญที่เราจะลืมไม่ได้เลย ก็คือการทำ “ประกันสุขภาพ” เพราะถือเป็นตัวช่วยเสริมในเรื่องความคุ้มครองยามเจ็บป่วย 

ที่จะทำให้คุณหมดกังวลเรื่องค่ารักษาพยาบาล เพราะมีประกันสุขภาพดีๆ ไว้ดูแลคุณยามเจ็บป่วยฉุกเฉิน ถ้าสนใจทำประกันสุขภาพ คลิก SMILE INSURE ได้เลย

ขอบคุณข้อมูลจาก

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ