เคล็ดลับ “ดับกลิ่น” คนชอบกินบนรถ
เคล็ดลับ “ดับกลิ่น” คนชอบกินบนรถ
คนมันหิว ยิ่งขับรถในชั่วโมงเร่งด่วนก็ยิ่งหิว เลยถือโอกาสเอาข้าว เอาขนมต่างๆ นาๆ มากินในรถ ซึ่งสิ่งที่ตามมาก็คือ กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ ยิ่งถ้าใครลืมสิ่งของเหล่านี้เอาไว้ ให้เน่าคารถละก็ รับรองว่าสยองสุดๆ เพราะไม่ใช่แค่กลิ่นที่จะตามหลอกหลอนคุณ แมลงสาบ จิ้งจก ก็ตามมาด้วยนั่นเอง วันนี้นำเคล็ดลับ “ดับกลิ่น” คนชอบกินบนรถ ง่ายๆ ทุกคนทำได้ มาฝากกันค่ะ...
1 . เปิดหน้าต่างรถยนต์
วิธีขั้นพื้นฐานที่คุณทำได้สบายๆ โดยการเร่งลมแอร์แรงสุดซักหนึ่งนาที เพื่อไล่ความชื้นออกจากช่องแอร์ก่อน จากนั้นนำรถไปจอดตากแดด โดยนำพรมออกมาตากแดดไว้ข้างนอก และเปิดหน้าต่างหรือประตูเพื่อให้ลมถ่ายเทและระบายกลิ่นในรถ ทิ้งไว้สัก 1 ชั่วโมงกลิ่นจะลดลง
ซึ่งวิธีนี้เป็นวิธีธรรมดาๆ แต่ได้ผลมาก ความร้อนจากแสงแดดจะช่วยขจัดกลิ่นเหม็นอับได้เป็นอย่างดี และรังสียูวียังช่วยฆ่าเชื้อโรคด้วย แต่ที่สำคัญก่อนตากแดด ควรตรวจเช็คสิ่งของในรถว่ามีสิ่งไหนที่อาจจะโดนความร้อนแล้วเกิดไฟไหม้ได้ ควรเอาของพวกนี้ออกก่อนนะ
2 . ถ่านหุงต้ม
ถ่านหุงต้ม ดูดกลิ่นได้ดี แค่เอาถ่านมาห่อผ้าหรือใส่กล่องที่มีรูระบายอากาศแล้วนำไปวางไว้ในรถซักสองอาทิตย์ ถ่านสามารถดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้แทบทุกกลิ่น ทั้งกลิ่นอับ กลิ่นหืน กลิ่นเหม็น บอกลากลิ่นพวกนี้ไปได้เลย
เทคนิคนี้ใช้ได้กับในตู้เย็นด้วยนะ ถ้าใครที่ไม่ชอบกลิ่นในตู้เย็นใช้วิธีเดียวกันนี้ ก็ลดกลิ่นในตู้เย็นได้!ับกลิ่นแล้วยังเอาถ่านไปใช้ต่อได้อีก คุ้มจริงๆ
3 . ใบชาแห้ง หรือสมุนไพร
ใบชาแห้ง สมุนไพรหรือดอกไม้ ใบเตย ดอกมะลิ ดอกรัก หรือดอกไม้แห้งต่างๆ หรือใบชาก็สามารนำมาใส่ไว้ในรถเปลี่ยนจากกลิ่นอับๆ ได้ เห็นได้บ่อยๆ เวลาขึ้นรถแท็กซี่ แล้วพบกับช่อใบเตยอยู่ที่บริเวณคอนโซลด้านหลังรถ เค้าใช้มาดับกลิ่นนั่นเอง
สำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นใบเตยก็ขอแนะนำอีกอย่างก็คือ พวงมาลัยดอกมะลิ คนขายพวงมาลัย ก็ชอบนำ ดอกมะลิ มาร้อย ขายให้คนคล้องไว้หน้ารถ ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ เมื่อสัมผัสกับแอร์ เป็นกลิ่นหอมจากธรรมชาติ แถมยังปลอดภัยต่อสุขภาพ ยิ่งถ้าเป็นใบชาแห้ง นอกจากจะช่วยดับกลิ่นแล้ว ยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายเมื่อสูดดมเข้าไป หาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป เพียงนำมาใส่ถุงแล้วนำไปไว้ในรถ ช่วยลดกลิ่นกวนใจ แถมนำไปชงเป็นเครื่องดื่มไว้จิบแก้กระหายได้ด้วย
4 . น้ำส้มสายชู
ของคู่ครัวทุกบ้าน ที่หาได้ง่ายๆ มีฤทธิ์เป็นกรดอ่อนๆ สามารถช่วยขจัดคราบสกปรก และดูดกลิ่นได้ดีเพียงแค่นำน้ำส้มสายชูมาใส่ถ้วยไว้ซัก 4 – 5 ช้อนโต๊ะ แล้วนำไปวางไว้ในรถขณะจอด แนะนำว่าให้ใส่ไว้ตอนจอดดีกว่าเพราะบางคนก็อาจจะไม่ได้ชอบกลิ่นของมันนัก ทิ้งไว้ในรถสัก 1 คืน ความเปรี้ยวของน้ำส้มสายชูก็จะช่วยดับกลิ่นไม่พึงประสงค์ในรถได้ แต่ต้องระวังอย่าให้หกเลอะเทอะบนเบาะ หรือในรถนะคะ กลิ่นไม่พึงประสงค์อาจจะหายไปกลายป็นกลิ่นเปรี้ยวของน้ำส้มมาแทนก็เป็นได้
5. เบกกิ้งโซดา
เบกกิ้งโซดา หรือโซดาทำขนมนั่นแหละ นอกจากจะทำให้ขนมขึ้นฟูน่ากินแล้ว ยังสามารถนำมาใช้ทำความสะอาดได้อีกด้วย
เพียงแค่ใช้ เบกกิ้งโซดา โรยบริเวณต่างๆ เช่น บนเบาะ บนพรม บนคอนโซล ทิ้งไว้สักพักแล้วเช็ดออก หรือถ้าจะให้ดีแนะนำให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดเบกกิ้งโซดาออก
6. ทรายแมว
แน่นอนว่าเจ้าสิ่งนี้ถูกออกแบบให้มีความสามารถในการกลบกลิ่น ดูดซับกลิ่นได้ในระดับเยี่ยมอยู่แล้ว บ้านไหนที่เป็นทาสแมวคงจะทราบคุณสมบัติข้อนี้ดี วิธีการก็ง่ายๆ เพียงแค่ใช้ทรายแมวใส่ถ้วย และนำไปวางในรถ ปิดประตูให้แน่นหนา จากนั้นทิ้งไว้และไปเดินเล่นสักสองสามชั่วโมง หรือทิ้งไว้ในรถสัก 1 คืน รับรองว่ากลิ่นในรถเจือจางลงอย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะ
7. สเปรย์ปรับอากาศ
ใครที่ชอบความสะดวกสบายก็ต้องอันนี้เลย หาซื้อได้ง่ายตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป แถมยังใช้ได้ทุกส่วนของบ้านด้วย สามารถเลือกกลิ่นที่ตัวเองชอบได้ด้วย ตอบโจทย์คนยุคใหม่แน่นอน ซึ่งสเปรย์ปรับอากาศนอกจากจะกำจัดกลิ่นเหม็นอับแล้วยังฆ่าเชื้อโรคได้อีกด้วย เพื่อนๆ คนไหนไม่มีเวลาจะทำตามข้ออื่นๆ เราขอแนะนำข้อนี้เลย รับรองว่าสะดวก!
การกินอาหาร ก่อให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ตกค้าง ถ้าทำตามทุกข้อแล้วกลิ่นยังไม่หายไปเราข้อแนะนำให้ นำรถไปอบโอโซน เผลอๆ คุณอาจจำเป็นต้องทุ่มทุนรื้อพรมในรถทั้งหมดออกมาซัก รวมถึงทำความสะอาดเบาะ เพราะกลิ่นต่างๆจะติดอยู่กับพรมและเบาะ โดยเฉพาะถ้าเป็นเบาะผ้าด้วยแล้ว รับรองงานใหญ่แน่นอน!!
รู้แบบนี้แล้วยังอยากกินอาหารบนรถกันอยู่ไหม? บางท่านก็ยังจำเป็นที่จะต้องทำ เราแนะนำให้เลือกกินอาหารที่กลิ่นไม่แรง ก่อนจะลงรถทิ้งเศษอาหารหรือขยะให้เรียบร้อย ไม่ปล่อยให้เน่าคารถ อาจจะช่วยให้กลิ่นไม่ได้เหลือตกค้างอยู่บนรถ กินอาหารบนรถอาจจะต้องจอดกินให้เสร็จเรียบร้อยก่อนจะขับออกไป เพราะการกินอาหารบนรถก้อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คุณเกิดอุบัติเหตุได้อีกด้วย