รถเก่าทําประกันได้ไหม? ทำแบบไหนได้บ้าง? หาคำตอบได้ที่นี่
รถเก่าทําประกันได้ไหม? ทำแบบไหนได้บ้าง? หาคำตอบได้ที่นี่
ถ้าหมอคู่กับคนป่วย พลาสเตอร์ยาคู่กับแผล “รถยนต์และประกันภัย” ก็นับเป็นอีกหนึ่งคู่ขวัญที่ไม่ควรแยกออกจากกัน เพราะอุบัติเหตุคือเรื่องที่มักจะเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด สามารถนำไปสู่ความเสียหายด้านร่างกายและทรัพย์สินที่เกินกว่าจะคาดฝันได้ ซึ่งการขับขี่ด้วยความระมัดระวังอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ ดั่งคำพูดที่ว่า “ถ้าเราไม่ชนเขา เขาก็ชนเรา” การมีประกันติดรถไว้จึงเป็นหนทางที่จะช่วยผ่อนหนักเป็นเบาได้
โดยปกติถ้าเป็นรถใหม่ป้ายแดง เจ้าของรถก็ทำประกันกันอยู่แล้ว แต่พอเป็นรถเก่าที่ใช้จนชินมือหรือเป็นรถมือสองที่ซื้อต่อมาอีกทีนั้น เชื่อว่าคนเกินกว่าครึ่งจะละเลยการทำประกันไป ทำให้หลายครั้งที่เกิดอุบัติเหตุรถชนแล้วคู่กรณีไม่สามารถชดใช้ค่าเสียหายใด ๆ ได้ เพราะไม่มีประกันมาช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่าย สร้างความเสียหายครั้งใหญ่ให้แก่อีกฝ่าย ซึ่งนั่นยิ่งช่วยตอกย้ำว่าการมีประกันไว้ก่อนยังไงก็อุ่นใจกว่า และ “ประกันรถเก่า” หรือ “ประกันรถมือสอง” ก็สำคัญไม่แพ้ประกันรถใหม่เลย
สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้ และเริ่มสนใจการทำประกันรถเก่าขึ้นมาแล้ว ลองตามมาดูกันดีกว่าว่ารถเก่าที่คุณมีอยู่จะทำประกันแบบไหนได้บ้าง?
รู้จัก "ประกันรถยนต์"
เรื่องพื้นฐานที่ชาว 4 ล้อต้องรู้คือ ประกันภัยรถยนต์แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ
- ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับ หรือที่เรียกกันว่า พ.ร.บ. เป็นประกันภัยที่กำหนดให้รถทุกคันต้องมี
- ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ที่เจ้าของรถยนต์สามารถเลือกทำเพิ่มเติมได้ตามรูปแบบที่ต้องการ ซึ่งประกันรถเก่าและประกันรถมือสองจะจัดอยู่ในหมวดนี้
รถเก่าแค่ไหนถึงจะทำประกันรถไม่ได้
“อายุของรถ” เป็นหนึ่งในเงื่อนไขหลักที่บริษัทประกันจะนำประเมินการออกประกันรถให้ โดยเฉพาะกับรถเก่าและรถมือสอง เพราะอายุรถสามารถบอกสภาพรถอย่างคร่าว ๆ ได้ว่าเป็นอย่างไร จะหาอะไหล่ตามท้องตลาดได้ยากหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่อายุของรถเก่าที่สามารถทำประกันได้คือประมาณ 10 ปี แต่ถ้าเกินกว่านี้และสภาพรถยนต์ยังดีเยี่ยม ไม่มีประวัติการชนหรือมีแต่น้อยมาก ผู้เอาประกันมีประวัติการชำระเบี้ยประกันในอดีตที่ดี หรือเป็นลูกค้าเก่า ก็ยังสามารถทำประกันภัยได้อยู่ สรุปง่าย ๆ ว่า ข้อจำกัดของรถเก่าในการทำประกันภัยขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแต่ละบริษัทประกันภัยนั่นเอง
รถเก่า และรูปแบบของประกันภัย
ประกันภัยรถยนต์แบบสมัครใจ แบ่งได้เป็น 5 รูปแบบ คือ ประกันชั้น 1 ประกันชั้น 2 ประกันชั้น 2+ ประกันชั้น 3 และประกันชั้น 3+ ซึ่งแต่ละรูปแบบก็มีเงื่อนไขต่ออายุของรถที่ต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่แล้วประกันชั้น 1 จะรับทำให้กับรถที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี ส่วนประกันชั้นอื่น ๆ จะรับรถยนต์ที่มีอายุเกิน 7 ปีขึ้นไป
โดยประกันภัยแต่ละแบบมีความคุ้มครองที่ต่างกันไป ดังนี้
ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1
ให้ความคุ้มครองครบทั้ง 3 หมวด คือ คุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก (ความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน) การคุ้มครองรถสูญหาย - ไฟไหม้ และคุ้มครองความเสียหายต่อรถ (ค่าสินไหมทดแทนระหว่างระยะเวลาประกันภัยที่ไม่รวมความเสียหายจากไฟไหม้ เช่น กระโปรงหลังแตกจากการถอยชนเสา)
ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2
ให้ความคุ้มครองใกล้เคียงกับการประกันภัยรถยนต์ประเภท 1 แต่จะไม่คุ้มครองความเสียหายที่เกิดขึ้นกับตัวรถ
ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 2+ (2 พลัส)
ให้ความคุ้มครองเหมือนประกันชั้น 2 แต่เพิ่มความคุ้มครองต่อตัวรถด้วย ซึ่งต้องมีคู่กรณีและต้องชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น
ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 3
เป็นประกันภัยที่ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนต่อบุคคลภายนอก (ทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน) ตามกฎหมายเท่านั้น โดยผู้ที่ได้รับความคุ้มครองต้องไม่ใช่ฝ่ายผิด
ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 3+ (3 พลัส)
ให้ความคุ้มครองแบบประกันชั้น 3 แต่เพิ่มความคุ้มครองต่อตัวรถด้วย ซึ่งต้องมีคู่กรณีและต้องชนกับยานพาหนะทางบกเท่านั้น
ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ใช้รถเก่า และไม่อยากพบเจอกับความสูญเสียที่ไม่คาดคิด การทำประกันรถเก่าหรือประกันรถมือสองเอาไว้แต่เนิ่น ๆ คือตัวเลือกที่น่าสนใจและมีประโยชน์ไม่น้อยเลยทีเดียว
ขอบคุณข้อมูลจาก: