น้ำท่วมประกันชั้นไหนคุ้มครอง?

กลางวันแดดออกร้อนจนตับจะแตก พอตกกลางคืนฝนตกน้ำท่วมจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ ถ้าเกิดเหตุน้ำท่วมกะทันหันขึ้นมา หากเราเคลื่อนย้ายรถไม่ทันจริงๆ เครื่องยนต์เกิดความเสียหายแน่ๆ ทำประกันไว้ดีกว่า แต่! ถ้าจะทำประกันเพื่อคุ้มครองภัยจากน้ำท่วม ประกันชั้นไหนบ้างนะที่คุ้มครอง และจะชดใช้อย่างไร? วันนี้ Smile Insure จะมาตอบให้หายสงสัยกันค่ะ!!

ประกันภัยที่คุ้มครองความเสียหายจากน้ำท่วมจะมีประกันภัยชั้น1 ซึ่งประกันภัยชั้น 1 จะคุ้มครองครอบคลุมอยู่แล้ว รวมถึงภัยจากธรรมชาติด้วย แต่หากรถมีอายุการใช้งานนานเกินไป หรือประกันชั้น 1 มีราคาค่าเบี้ยที่แพงเกินไป ซึ่งอาจจะไม่คุ้มกับค่าเบี้ยที่ได้ บริษัทประกันยังมีประกันภัยชั้น 2+ และ 3+ ขึ้นมาเพิ่ม ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทประกันภัยว่าจะคุ้มครองน้ำท่วมหรือไม่ แต่การทำประกันชั้น 2+ และ 3+ ในบางบริษัทอาจจะมาพร้อมค่าเสียหายส่วนแรก Deductible ดังนั้นก่อนตัดสินใจซื้อควรตรวจสอบความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจนะคะ

หลายคนคงสงสัยว่าทำประกันแล้วจะได้รับการชดเชยของค่าเสียหายอย่างไรบ้างเรามาดูกันค่ะ ปกติแล้วการชดเชยของค่าเสียหาย มี 2 กรณี 

• กรณีเสียหายทั้งคัน ไม่สามารถซ่อมให้กลับมาเป็นสภาพเดิมได้ ทางบริษัทประกันจะประเมินความเสียหาย ซึ่งถ้าความเสียหายของรถเกินร้อยละ 70 ของมูลค่ารถ ทางบริษัทประกันจะชดเชยตามจำนวนที่เราทำประกันและรถที่เสียหายก็จะเป็นของบริษัทประกัน
• กรณีเสียหายบางส่วน ทางบริษัทประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบซ่อมทั้งหมด ตั้งแต่ซ่อมเครื่องยนต์ และการทำความสะอาดรถ เช่น ฟอกเบาะ ขัดพรม เราสามารถเคลมกับทางบริษัทได้เลยนะคะ 

เมื่อเกิดเหตุน้ำท่วมอย่าลืมถ่ายรูปรถของเราตอนน้ำท่วมรถ และถ่ายรูปรถตอนน้ำลด พร้อมโทรหาประกันเพื่อแจ้งเคลม ทางประกันจะประเมินความเสียหายและซ่อมรถให้กลับมาอยู่ในสภาพเดิม เหตุการณ์แบบนี้คงไม่มีใครอยากพบ แต่ภัยธรรมชาติเราก็ไม่สามารถควบคุมได้ ดังนั้นการทำประกันไว้น่าจะดีกว่า เพื่อเพิ่มความมั่นใจ และไม่ต้องกังวลเมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้ครับ หากสนใจประกันดี ๆ นึกถึง Smile Insure สิคะ เราพร้อมให้คำปรึกษา พร้อมโปรโมชั่นดี ๆ อีกเพียบบบบบ