ถอยรถชนรั้วบ้าน! ประกันชั้น 2+ คุ้มครองหรือไม่?
ถอยรถชนรั้วบ้าน! ประกันชั้น 2+ คุ้มครองหรือไม่?
ถ้าเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันบนท้องถนน จนทำให้ขับรถชนรถด้วยกัน ประกันชั้น 2+ คุ้มครองอยู่แล้ว
แต่ถ้าขับรถชนอย่างอื่น เช่น ถอยชนรั้วบ้านล่ะ ประกันชั้น2+ ยังจะคุ้มครองอยู่ไหม?
ถ้าคุณเป็นมือใหม่หัดขับที่ต้องใช้รถเก่าต่อจากคนในบ้าน หรือกำลังอยากเปลี่ยนแผนประกันรถยนต์ของตัวเอง แล้วกำลังสงสัยเรื่องนี้อยู่ ต้องไม่พลาดบทความนี้ เพราะ SMILE INSURE หาคำตอบมาให้แล้ว
ความคุ้มครองของประกันชั้น 2+
ก่อนที่จะไปหาคำตอบเรื่องถอยชนรั้วบ้าน เราชวนทุกคนมาทบทวนเงื่อนไขความคุ้มครองของประกันรถยนต์ 2+ กันก่อน ว่าจริงๆ แล้วครอบคลุมเรื่องไหนบ้าง?
ประกันรถยนต์ 2+ หรือที่หลายคนเรียกกันติดปากว่าประกันชั้น 2+ ถ้าให้ลองเดาจากชื่อ เชื่อว่าหลายคนก็คงรู้ได้ไม่ยากว่า ต้องเป็นประกันรถที่มอบความคุ้มครองมากกว่าประกันชั้น 2 แน่ๆ เพราะเครื่องหมายบวกหมายถึงอะไรที่มากกว่า เหนือกว่า หรือดีกว่า
ซึ่งเมื่อลองค้นหานิยามตามทฤษฎีแล้ว พบว่าการคาดเดานั้นก็ไม่ใช่เรื่องผิด เพราะประกันชั้น 2+ คือ ประกันรถประเภท 5 ที่พัฒนาขึ้นเพื่อเติมเต็มในส่วนที่ประกันชั้น 2 ไม่ให้ความคุ้มครอง และเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนมีรถ ที่ต้องการเพิ่มเงื่อนไขในด้านการรับผิดชอบความเสียหาย แต่จ่ายค่าเบี้ยไม่แพงมาก
เพราะแต่เดิมประกันชั้น 2 จะคุ้มครองความเสียหายของรถคู่กรณีเป็นหลัก และจะคุ้มครองรถของผู้เอาประกันแค่กรณีที่รถสูญหาย หรือไฟไหม้รถเท่านั้น นั่นเท่ากับว่าถ้าเกิดรถชนขึ้นมา รถคันเอาประกันจะต้องรับผิดชอบค่าซ่อมรถของตัวเอง 100% เต็ม ทำให้ประกันชั้น 2 มักจะถูกมองว่าไม่คุ้มค่า โดยเฉพาะกับรถที่ไม่ใช่รุ่นยอดฮิต หาอะไหล่ยาก รวมทั้งรถเก่าที่ยังมีราคาสูง
การมีประกันชั้น 2+ จึงช่วยเติมเต็มช่องว่างตรงนั้น เพราะได้มีการเพิ่มการคุ้มครอง หรือรับเคลมประกันในส่วนรถคันที่เอาประกันด้วย แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขการขับรถชนยานพาหนะทางบกแบบมีคู่กรณีเท่านั้น และจะไม่สามารถเคลมประกันแบบไม่มีคู่กรณีได้เลย หรือสรุปได้ดังนี้
- คุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก และผู้โดยสารในรถคันเอาประกันภัย (Third Party Bodily Injury: TPBI)
- คุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก (Third Party Property Damage: TPPD)
- คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์คันเอาประกันภัย (Own Damage: OD) กรณีรถชนรถแบบมีคู่กรณีเท่านั้น แต่ไม่รวมความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้
- คุ้มครองการสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย (Fire and Theft: F&T) โดยให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของรถยนต์ อุปกรณ์ เครื่องตกแต่ง และส่วนควบที่ติดประจำอยู่กับตัวรถยนต์ ที่ถูกไฟไหม้ หรือเกิดการสูญหายจากการกระทำที่ผิดกฎหมายของบุคคลภายนอก เช่น ลักทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ ชิงทรัพย์ เป็นต้น
แล้วแบบไหนที่เรียกว่าเคลมประกันรถชนรถแบบมีคู่กรณี?
การเคลมประกันแบบมีคู่กรณีในขอบเขตของประกันชั้น 2+ คือ การที่ต้องมีรถยนต์คันที่เป็นคู่กรณีอยู่ในที่เกิดเหตุ ต้องติดต่อคู่กรณีได้ หรือถ้าหากเป็นการชนแล้วหนี รถคันที่เอาประกันจะต้องจำข้อมูลสำคัญต่างๆ ของคู่กรณีได้ เช่น ยี่ห้อรถ รุ่น สี ทะเบียนรถ ฯลฯ
เพื่อนำไปสู่การติดตามรถคันดังกล่าวมาเจรจากันได้ แต่ถ้าชนแล้วหนี แล้วรถคันที่เอาประกันไม่สามารถจำข้อมูลอะไรได้เลย และตามตัวคู่กรณีไม่ได้ ก็จะไม่สามารถเคลมประกันได้
นอกจากนี้ ควรเป็นการขับรถชนรถที่เกิดขึ้นแล้วเท่านั้น ถ้าเป็นการขับรถชนสิ่งกีดขวางข้างทาง หรือเกิดอุบัติเหตุอื่นๆ จากการกระทำของรถคันอื่น เช่น ปาดหน้า เปลี่ยนเลนกระชั้นชิดจนทำให้ตกใจ ฯลฯ ซึ่งนอกเหนือจากรถชนกัน จะไม่สามารถเคลมได้
สนใจทําประกันรถยนต์ กรอกข้อมูลได้ที่นี่
ดังนั้นถ้ารถมีประกันชั้น 2+ หรือกำลังคิดจะทำประกันประเภทนี้ อย่าลืมติดกล้องหน้ารถเอาไว้ เพื่อความอุ่นใจ เผื่อโชคร้ายโดนชนแล้วหนี ขณะเดียวกัน เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจริงๆ ควรตั้งสติให้ดี พยายามจดจำเลขทะเบียน หรือลักษณะรถให้ได้มากที่สุด เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสในการเคลมประกัน
ประกันชั้น 2+ คุ้มครองกรณีถอยรถชนรั้วบ้านไหม?
หนึ่งในเงื่อนไขความคุ้มครองของประกันชั้น 2+ คือ การคุ้มครองรถคันเอาประกันเมื่อชนกับรถด้วยกันเท่านั้น และการคุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
ดังนั้นคำถามที่ว่า ประกันชั้น 2+ คุ้มครองกรณีถอยรถชนรั้วบ้านไหม? คำตอบคือ “ต้องแยกเป็น 2 กรณี” ดังนี้
- ถอยรถชนรั้วบ้านตัวเอง
กรณีนี้ ประกันชั้น 2+ จะไม่คุ้มครองทั้งความเสียหายของรถและรั้ว คุณต้องรับผิดชอบค่าซ่อมแซมทั้ง หมดด้วยตัวเอง - ถอยรถชนรั้วบ้านคนอื่น
ถ้าเป็นกรณีแบบนี้ ประกันจะรับผิดชอบค่าซ่อมรั้วบ้านของคู่กรณีให้ โดยที่คุณไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) เพิ่มเติม แต่ความเสียหายของตัวรถนั้น คุณยังคงต้องรับผิดเอง เพราะรั้วบ้านไม่ถือว่าเป็นคู่กรณี และไม่ใช่ยานพาหนะทางบก จึงไม่เข้าเงื่อนไขที่จะได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์
ทั้งนี้ ไม่ใช่แค่รั้วบ้านเท่านั้นนะ ที่เมื่อขับชนแล้ว ประกันชั้น 2+ จะไม่รับเคลม เพราะเงื่อนไขที่เคลมไม่ได้ยังรวมไปถึงการขับชนต้นไม้ กำแพง เสาไฟฟ้า ขอบทาง และสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากรถยนต์ด้วย
เมื่อตัดสินใจทำประกันประเภทนี้ ควรจำเรื่องนี้ให้ขึ้นใจ และให้ความสำคัญกับการขับขี่รถด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ หรือถ้ายังไม่ชัวร์ในฝีมือการขับรถของตัวเอง อาจลองมองหาประกันประเภทอื่นที่เหมาะสมกว่า เพราะคุณไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลยว่าจะเกิดอุบัติแบบไหนขึ้นกับตัวเอง
ประกันชั้น 2+ ราคาเท่าไหร่?
ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้แล้วเคลียร์กับทุกข้อสงสัย และยังอยากไปต่อกับประกันประเภทนี้ เราชวนมาหาคำตอบเพิ่มเติมกันว่าประกันชั้นสองบวกราคาเท่าไหร่? เพื่อช่วยเตรียมความพร้อมด้านค่าใช้จ่ายให้คุณ
ด้วยความคุ้มครองที่ครอบคลุมมากกว่าประกันชั้น 2 แต่น้อยกว่าประกันชั้น 1 ราคาค่าเบี้ยประกันของประกันชั้น 2+ เลยอยู่ตรงกลางระหว่างประกันสองประเภทนี้ คือ แพงกว่าประกันชั้น 2 แต่ไม่แพงเท่าประกันชั้น 1 โดยเริ่มต้นที่ประมาณ 5,xxx บาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อรถ รุ่นรถ ปีที่จดทะเบียน บริษัทเดิมที่ทำประกัน (ถ้ามี) ทุนประกัน และเงื่อนไขอื่น ๆ ตามต้องการ
เช็กราคาค่าเบี้ยประกันชั้น 2+ ของรถรุ่นอื่น พร้อมรับส่วนลดพิเศษคลิก www.smileinsure.co.th
ประกันชั้น 2+ มีความโดดเด่นในเรื่องของความคุ้มครองอุบัติเหตุกรณีรถชนรถ และจะมีข้อจำกัดในเรื่องความคุ้มครองกรณีการขับชนสิ่งอื่นที่นอกเหนือจากรถยนต์ด้วยกัน เช่น ถ้าถอยรถชนรั้วบ้านตัวเอง ประกันจะรับเคลมค่าเสียหาย ทั้งของรถ และของรั้ว แต่ถ้าถอยชนรั้วบ้านคนอื่น ประกันจะช่วยรับผิดชอบความเสียหายของรั้วบ้านให้ เพราะถือว่าเป็นความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าประกันชั้น 2+ จะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง แต่การมีประกันก็อุ่นใจกว่าไม่มี ถ้าคุณไม่สามารถทำประกันชั้น 1 ได้ ด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม แต่ยังคงต้องการความคุ้มครองในหลายๆ ด้าน เชื่อว่าประกันประเภทนี้ เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด