ต้องรู้! เงื่อนไขของประกันชั้น2+ มีอะไรบ้าง?
ต้องรู้! เงื่อนไขของประกันชั้น2+ มีอะไรบ้าง?
เมื่อความคุ้มครองของกรมธรรม์ประกันชั้น 1 ใกล้สิ้นสุด เชื่อว่าหลายคนคงจะมีคำถามนี้เกิดขึ้นในหัว โดยเฉพาะกับช่วงนี้ที่เงินเฟ้อขึ้นเรื่อยๆ และค่าครองชีพสูงก็ขึ้นแบบไม่มีหยุดพัก เพราะรายได้เริ่มเดือนชนเดือน จนอาจขาดสภาพคล่องในไม่อนาคตอันใกล้
ถ้าอยากได้ความคุ้มครองเยอะๆ แต่ไม่อยากจ่ายแพงแบบนี้ จะเป็นไปได้ไหมนะ?
แต่การจะยกเลิกทำประกันไปเลยก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีสักเท่าไหร่ เพราะนั่นอาจหมายถึงการต้องแบกความรับความเสี่ยงอย่างเลี่ยงไม่ได้ ถ้าเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันขึ้นมาในระหว่างนี้ จากที่อยากประหยัดค่าใช้จ่าย อาจต้องกลายเป็นจ่ายหนักกว่าเดิมหลายเท่า
ดังนั้นคำแนะนำที่มักจะได้รับกลับมาจากกระทู้รีวิวต่างๆ คือ ทำประกันรถยนต์ชั้น2บวก หรือที่เรียกกันติดปากว่า “ประกันชั้น2+” แทน เพราะขึ้นชื่อเรื่องความคุ้มครองที่แทบจะไม่ต่างจากประกันชั้น 1 เลย แต่จ่ายเบี้ยถูกกว่าหลายพันบาท
แต่ก่อนจะตกปากรับคำทำประกันชั้น2+ ตามคำแนะนำของใคร อย่าลืมย้อนถามตัวให้แน่ชัดว่ารู้ข้อมูลด้านล่างนี้อย่างครบถ้วนแล้วหรือยัง?
ประกันชั้น2+ คืออะไร?
ประกัน2+ หรือ ประกันชั้น2บวก คือ ประกันภัยรถประเภท 5 ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้คนมีรถ เพราะประกันชั้น 2 ที่คุ้มครองความเสียหายแค่ของรถคู่กรณีเป็นหลัก และคุ้มครองรถของผู้เอาประกันเฉพาะกรณีรถหายหรือไฟไหม้เท่านั้น
เริ่มไม่ตอบโจทย์ความต้องการของคนใช้รถในสมัยนี้อีกต่อไปแล้ว และขณะเดียวกัน คนเราก็ไม่ได้สะดวกจ่ายแพงเพื่อประกันชั้น 1 เสมอไป
เงื่อนไขของประกันชั้น2+ มีอะไรบ้าง?
ข้อมูลจากคปภ. บอกไว้ว่า ประกันชั้น2+ มาพร้อมเงื่อนไขที่ครอบคลุมเกือบทุกด้าน ดังนี้
1. คุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก (Third Party Bodily Injury: TPBI) รวมถึงผู้โดยสารในรถคันเอาประกันภัย
2. คุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก (Third Party Property Damage: TPPD)
3. คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ที่เอาประกันภัย (Own Damage: OD) กรณีรถชนแบบมีคู่กรณี หรือรถชนรถเท่านั้น (ไม่รวมความเสียหายที่เกิดจากไฟไหม้)
4. คุ้มครองการสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย (Fire and Theft: F&T) ให้ความคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์หรือส่วนหนึ่งส่วนใดของรถยนต์ อุปกรณ์ เครื่องตกแต่ง และส่วนควบที่ติดประจำอยู่กับตัวรถยนต์ ที่ถูกไฟไหม้ หรือเกิดการสูญหายจากการกระทำที่ผิดกฎหมายของผู้อื่น เช่น ลักทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ ชิงทรัพย์ เป็นต้น
หมายเหตุ ไฟไหม้ในที่นี้ หมายถึง ความเสียหายต่อรถยนต์ที่เป็นผลมาจากไฟไหม้ ไม่ว่าจะเป็นการ ไหม้โดยตัวของมันเอง หรือเป็นการไหม้ที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากสาเหตุอื่น
โดยเงื่อนไขความคุ้มครองในแต่ละด้าน จะขึ้นอยู่กับแพ็กเกจประกันที่เลือกซื้อ แต่ทั้งนี้ สามารถสรุปได้ง่ายๆ ว่า ประกันชั้น2+ เป็นตัวเลือกที่ช่วยตอบโจทย์ความต้องของคนที่กำลังมองหาประกันที่คุ้มครองมากกว่าประกันชั้น 2 แต่ไม่ต้องจ่ายแพงเท่าประกันชั้น 1 นั่นเอง
ความแตกต่างของประกัน2+ กับประกันอื่น ๆ
1. ประกันชั้น2+ Vs ประกันชั้น 1
ประกันรถชั้น2+ ให้ความคุ้มครองน้อยกว่าประกันชั้น 1 คือ คุ้มครองความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก
และผู้โดยสารในรถคันเอาประกันภัย คุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์คันเอาประกันภัย รวมถึงคุ้มครองการสูญหายและไฟไหม้ของตัวรถยนต์คันเอาประกันภัย แต่จะไม่คุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
นอกจากนี้ ประกันรถชั้น2+ จะต้องมีคู่กรณีเท่านั้น ถึงจะเคลมได้ แต่ประกันชั้น 1 นั้น จะมีหรือไม่มีคู่กรณีก็สามารถเคลมได้
2. ประกันชั้น2+ Vs ประกันชั้น 2
ความน่าสนใจของประกันสองบวกคือ มีเงื่อนไขความคุ้มครองมากกว่าประกันชั้น 2 เพราะได้เพิ่มเติมความคุ้มครองความเสียหายกรณีรถชนรถเข้าไปด้วย แต่ทั้งนี้ ก็ยังคงไม่คุ้มครองกรณีชนต้นไม้ กำแพงบ้าน เสาไฟฟ้า หรือสิ่งอื่นๆ ที่นอกเหนือจากรถยนต์เหมือนกับประกันชั้น 2
3. ประกันชั้น2+ Vs ประกันชั้น 3
ค่าเบี้ยประกันของประกันรถชั้น 2+ แพงกว่าประกันชั้น 3 แต่ก็มีความคุ้มครองที่มากกว่าด้วย เพราะประกันรถยนต์ชั้น 3 คุ้มครองแค่ความรับผิดต่อชีวิต ร่างกาย หรืออนามัยของบุคคลภายนอก รวมถึงผู้โดยสารในรถยนต์คันเอาประกันภัย และคุ้มครองความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอกเท่านั้น
แต่ประกัน2+ จะคุ้มครองความเสียหายต่อรถยนต์ที่เอาประกันภัยกรณีรถชนรถ รวมถึงคุ้มครองกรณีรถสูญหายและไฟไหม้
4. ประกันชั้น 2+ กับประกันชั้น 3+
ประกันรถชั้น 2+ มีเบี้ยประกันแพงกว่าประกันชั้น 3+ และมีเงื่อนไขคุ้มครองความเสียหายต่อรถคันเอาประกันมากกว่า โดยประกันรถชั้น 2+ จะคุ้มครองรถคันเอาประกัน กรณีที่รถชนรถ รถสูญหาย และรถไฟไหม้ แต่ประกันชั้น 3+ คุ้มครองกรณีที่รถชนยานพาหนะทางบกเท่านั้น ไม่คุ้มครองกรณีรถสูญหายและไฟไหม้
ประกันชั้นสองบวกราคาเท่าไหร่?
จากข้อมูลด้านบน จะเห็นได้ว่าความพิเศษของประกันชั้น2+ หรือ ประกัน2บวกคือ มีเงื่อนไขความคุ้มครองมากกว่าประกันประเภทอื่นอย่างชัดเจน และค่อนข้างจะใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 แต่มีข้อดีที่จ่ายเบี้ยประกันน้อยกว่า
โดยราคาประกันชั้น2+ ส่วนใหญ่จะเริ่มต้นที่ 5,xxx บาท ขณะที่ประกันชั้น 1 เริ่มต้นที่ 1x,xxx บาท ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ รุ่น ปีของรถ ประวัติการเคลม ทุนประกัน และบริษัทประกันภัย
ตัวอย่าง รถ TOYOTA HILUX REVO (2400cc/4dr) จดทะเบียนปี 2017
ประกันชั้น2+ ของคุ้มภัยโตเกียวมารีน เริ่มต้น 6,500 บาท, เมืองไทยประกันภัย เริ่มต้น 7,200 บาท, วิริยะประกันภัยเริ่มต้น 7,500 บาท
เช็คราคาประกันชั้น2+ อื่น ๆ เพิ่มเติม คลิก SMILE INSURE
สรุปได้ว่าความพิเศษของประกันชั้น2+ หรือ ประกัน2บวกคือ มีเงื่อนไขความคุ้มครองมากกว่าประกันประเภทอื่นอย่างชัดเจน
และค่อนข้างจะใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 แต่มีข้อดีที่จ่ายเบี้ยประกันน้อยกว่าหลายพันบาท ดังนั้นถ้าอยากขับรถอย่างมั่นใจ แต่ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น ประกันชั้น2+ ก็เป็นตัวเลือกที่ดี่ที่สุด
ซื้อประกันรถยนต์ 2+ ที่ไหนดี?
เมื่อรู้เงื่อนไขทั้งหมดของประกันชั้น2+ และเริ่มสนใจขึ้นมาแล้วล่ะก็ สิ่งสุดท้ายที่ควรไม่ควรมองข้ามคือ แหล่งซื้อประกันรถ ซึ่งในปัจจุบัน ทุกคนสามารถซื้อประกันได้จาก 2 แหล่งหลักๆ
ได้แก่ บริษัทประกันหรือพนักงานตัวแทนบริษัทประกัน และโบรกเกรอร์ (นายหน้า) แต่จะซื้อประกันรถยนต์ 2+ จากที่ไหนดี? เรามีคำแนะนำมาฝาก รับรองว่าจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายมากขึ้น
1. ซื้อประกัน2+ จากแหล่งที่ตอบโจทย์ความต้องการได้
อย่างแรกที่อยากให้ย้อนมอง คือ ความต้องการของเจ้าของรถเอง ว่าอยากใช้งบประมาณไม่เกินเท่าไหร่ ต้องการทุนประกันมากน้อยแค่ไหน หรืออยากเน้นไปที่การบริการด้านใดเป็นพิเศษหรือไม่ เพราะปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้คัดกรองบริษัทประกัน หรือโบรกเกอร์ที่ถูกใจได้ง่ายขึ้น
2. ซื้อประกัน2+ จากแหล่งที่น่าไว้วางใจ
สำหรับบริษัทประกันเอง ควรมีใบอนุญาตประกอบกิจการประกันภัยจากคปภ. และเอกสารอื่นๆ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เอกสารจดทะเบียนบริษัท เอกสารจ่ายภาษีนิติบุคคล เป็นต้น
ส่วนพนักงานตัวแทนบริษัทประกัน และโบรกเกอร์ ควรมีเอกสารอนุญาตการประกอบอาชีพด้านประกันภัยจากคปภ. ด้วย เพื่อยืนยันการมีตัวตนอยู่จริง และยืนยันการประกอบอาชีพอย่างถูกกฎหมาย
3. ซื้อประกัน2+ จากแหล่งที่เข้าถึงง่าย ไม่ยุ่งยาก
ประกันรถเป็นเรื่องที่รอไม่ได้ ถ้ากรมธรรม์ใกล้สิ้นสุดแล้ว ก็ต้องรีบทำประกันใหม่ให้เร็วที่สุด แต่การใช้วิธีดั้งเดิมอย่างเดินทางไปติดต่อบริษัทประกันด้วยตัวเองอาจไม่ทันการ ดังนั้นบริษัทประกันหรือโบรกเกอร์ที่ดี ควรช่วยเหลือให้ทุกคนเข้าถึงการซื้อประกันได้ง่ายขึ้น
และทำทุกอย่างได้ครบในเวลาสั้นๆ เช่น มีเว็บไซต์ของตัวเอง ที่ให้บริการได้ทุกขั้นตอน ตั้งแต่การให้ข้อมูล ไปจนถึงจ่ายเงิน และส่งกรมธรรม์ออนไลน์ เป็นต้น
“ถ้าอยากทำประกันรถที่คุ้มค่าทั้งค่าเบี้ยและความคุ้มครอง ควรทำความเข้าใจลักษณะเฉพาะประกันก่อนตัดสินใจ”
นี่คือข้อมูลเกี่ยวกับประกันชั้น2บวก หรือ “ประกันชั้น2+” ที่ทุกคนควรรู้ก่อนตัดสินใจทำประกัน เพราะถึงแม้จะมีความคุ้มครองใกล้เคียงกับประกันชั้น 1 มากๆ แต่ก็ยังมีความแตกต่างกันอยู่