จารบี สารหล่อลื่นสำคัญที่ห้ามมองข้าม!
จารบี สารหล่อลื่นสำคัญที่ห้ามมองข้าม!
รถยางกวง ทำไมไม่ถ่วงยางแบน ทำไมไม่หยอดน้ำมัน... หลายๆ คนคงเคยได้ยินเพลงนี้กัน เคยสงสัยกันไหมว่าหยอดน้ำมัน คือน้ำมันอะไร? แล้วทำไปเพื่ออะไร? วันนี้เรามาไขข้อสงสัยเกี่ยวกับน้ำมันแต่ไม่ใช่น้ำมันเชื้อเพลิงนะ แต่เป็นน้ำมันหรือที่ทุกคนรู้จักในชื่อ จารบี แล้วมันคืออะไรกันนะ..
จารบี เป็นสารช่วยหล่อลื่นที่ผลิตมาจากน้ำมันผสมกับสารเพิ่มคุณภาพที่อยู่ในสภาพกึ่งแข็งกึ่งเหลว ช่วยทำหน้าที่ในการหล่อลื่นจุดเสียดสีต่างๆ ที่ไม่สามารถใช้น้ำมันหล่อลื่นปกติได้ เช่น จุดเชื่อมต่อช่วงล่าง, ลูกปืน, ลูกหมากปีกนก, ชุดเพลาขับเคลื่อน ถ้ารถมอเตอร์ไซ์ก็นิยมหยอดที่โซ่กันในสมัยก่อนๆ แต่ตอนนี้เค้ามีน้ำมันที่ใช้สำหรับหยอดโซ่โดยเฉพาะแล้วนะ!
คุณสมบัติของจารบี คือ สามารถเกาะจับชิ้นส่วนที่สัมผัสได้ดี ทำงานได้ในอุณหภูมิทั้งต่ำและสูง ทนแรงเสียดสีได้สูง จึงเหมาะกับการใช้งานในจุดที่ต้องการลดแรงเสียดสีที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา
ในกรณีของผู้ใช้รถยนต์ จะต้องทำการตรวจเช็คทุกๆ ระยะ 10,000 ก.ม. เพื่อทำการอัดจารบี เพื่อให้ยืดอายุของลูกหมากต่างๆ ให้ระบบทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งจะมีจุดหมุนจุดขับเคลื่อนในบางจุดสำหรับอัดจารบีโดยตรง เช่น จุดเชื่อมต่อช่วงล่าง, ลูกปืน, ลูกหมากปีกนก, ชุดเพลาขับเคลื่อนต่างๆ ซึ่งต้องการตัวหล่อลื่นไม่ให้เกิดการติดขัด เพราะเมื่อรถมีการเคลื่อนที่ช่วงล่างนั้นทำงานตลอดเวลา ขับขี่ตลอด จารบีที่อยู่ภายในก็จะเสื่อมคุณภาพตามการใช้งาน หรืออาจจะมีอาการแห้งจากความร้อนจากการเสียดสีกันของลูกหมาก เพราะฉะนั้นรถกะบะที่เน้นใช้งานต้องหมั่นเช็คเรื่องนี้!
แต่ถ้าเป็นรถเก๋ง และรถบางรุ่นก็ได้ออกแบบเป็นระบบปิด ควรเข้าตรวจเช็คและอัดจารบีเพิ่มตามระยะที่ระบุในตารางการบำรุงรักษาในคู่มือรถ หรือถ้าขับแล้วรู้สึกว่า เสียงดังหรือฝืด ควรนำรถเข้าตรวจเช็คช่วงล่างที่ศูนย์บริการ เพื่อเช็คดู เนื่องจากรถบางคันเน้นการใช้งาน ขับบ่อยๆ เดินทางไกลๆ บรรทุกของหนักตลอด ก็ไม่จำเป็นจะต้องครบระยะแล้วมาตรวจก็ได้
แล้ว “จารบี” ที่ว่านี้ มันต้องเติมตรงไหน?
จารบีจะมีการเติมใน 2 จุดใหญ่ๆ ก็คือ..
- จุดที่ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย หรือจุดอับที่ปิดสนิทมาตั้งแต่โรงงาน ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนจารบี เช่น ในชุดเพลาขับ ในชุดช่วงล่าง อยู่ได้นาน ไม่ต้องคอยห่วง เพราะอายุการใช้งานยาวนาน เพราะส่วนใหญ่ใช้งานเป็นจารบีประเภท NGLI class 2 ชนิด Lithium soap calcium
- จุดที่เปลี่ยนจารบีได้เอง หรือจุดที่เปลี่ยนบ่อย ส่วนใหญ่ที่ต้องดูก็คือ ในชุดลูกปืนล้อที่ไม่เชื่อมต่อกับเพลาขับ (ล้อหลังในรถยนต์ขับหน้า, ล้อหน้าในรถยนต์ขับหลัง) แต่ก็มีบางรุ่นที่ใช้แบบชุดลูกปืนสำเร็จมาแล้ว ยกเปลี่ยนทั้งชุดพร้อมจารบีที่อัดมาพร้อมกันไปเลย
จารบี มีอยู่หลายประเภท ก่อนที่เราจะตัดสินใจว่าจะเลือกใช้แบบไหน ควรสังเกตการใช้งานรถของตัวเองด้วยว่าเหมาะกับการเลือกจารบีแบบไหน อย่างเช่น..
- รถที่ใช้ต้องสัมผัสน้ำหรือเกี่ยวข้องกับน้ำหรือไม่ ลุยน้ำบ่อย โดนน้ำบ่อยๆ ถ้าสังเกตการใช้งานของตัวเองแล้วว่ารถอาจจะต้องสัมผัสหรือเกี่ยวข้องกับน้ำ ก็ต้องเลือกใช้จารบีประเภททนน้ำ ถ้าเลือกใช้ผิดประเภท จารบีจะถูกดูดความชื้นหรือน้ำชะล้าง ทำให้ไหลหลุดออกจากจุดหล่อลื่น เท่ากับว่า ไม่ได้เติมจารบี!
- รถที่ใช้ต้องอยู่ในจุดที่อุณหภูมิใช้งานสูงมากน้อยแค่ไหน จอดตากแดดตลอด รวมไปถึงการใช้เครื่องยนต์เร่งเครื่องก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้อุณภูมิสูง เพราะถ้าใช้รถในจุดที่อุณหภูมิสูงกว่า 80 C ควรเลือกใช้จารบีประเภททนความร้อน ถ้าเลือกใช้ไม่ถูกต้อง จารบีจะไหลทะลักออกมาจากจุดหล่อลื่น
- ใช้รถสัมผัสทั้งน้ำและความร้อน ควรเลือกใช้จารบีประเภทอเนกประสงค์ (Multipurpose) คุณภาพดี หรือจารบีคอมเพล็กซ์ (Complex) ซึ่งราคาย่อมแพงกว่าจารบีประเภททนน้ำ หรือความร้อนเพียงอย่างเดียว แต่ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด
- ใช้รถในสภาพแวดล้อมมีฝุ่นเยอะ สิ่งสกปรกเยอะ หรืออุณหภูมิสูงมาก จะเป็นปัจจัยสำคัญทำให้ต้องอัดจารบีบ่อยขึ้น
- เบอร์จารบีต้องเลือกให้ถูก! ถ้าเป็นระบบแบบจุดจ่ายกลางที่ใช้ปั๊มป้อนจารบีไปยังจุดหล่อลื่นต่างๆ ก็ควรใช้จารบีอ่อน คือเบอร์ 0 หรือ 1ก็ได้แล้ว แต่ถ้าอัดจารบีด้วยมือหรือปืนอัด อาจใช้เบอร์ 2 หรือ เบอร์ 3 หรือแข็งกว่านี้ หรือถ้าเป็นพวกกระปุกเฟืองเกียร์ที่ใช้จารบีหล่อลื่น ก็ควรใช้จารบี ประเภทอ่อน คือ เบอร์ 0 หรือ 1 เพราะ การอัดจารบี จะต้องอัดจารบีโดยให้มีเนื้อที่ว่างบ้างเล็กน้อย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทะลัก เมื่อจุดใช้งานนั้นๆ ทำงานด้วย และเพื่อให้การหล่อลื่นจุดใช้งานต่างๆ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ควรจะเปลี่ยน หรืออัดจารบีเพิ่มตามระยะที่ระบุไว้
รู้แล้วก็อย่าลืมหมั่นตรวจเช็คสภาพรถและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันจารบีกันด้วยนะ ถ้าไม่อยากเครื่องพัง เครื่องน็อคหรือจะน้ำมันเครื่องแห้ง ต้องใส่ใจรถกันด้วย!