บทความ | สาระน่ารู้อื่นๆ

ชวนมาลอง! 4 วิธี ประหยัดไฟบ้าน ในหน้าร้อน ที่ทำง่ายและเห็นผล

ชวนมาลอง! 4 วิธี ประหยัดไฟบ้าน ในหน้าร้อน ที่ทำง่ายและเห็นผล
18/04/2022  สาระน่ารู้อื่นๆ

ชวนมาลอง! 4 วิธี ประหยัดไฟบ้าน ในหน้าร้อน ที่ทำง่ายและเห็นผล

บางคนอาจเคยสงสัยว่า ทั้ง ๆ ที่ยอมทนร้อน เปิดพัดลมแทนแอร์มาเป็นเดือน เพื่อประหยัดรายจ่ายให้มากที่สุด แต่พบว่าค่าไฟแทบจะไม่ต่างจากตอนเปิดแอร์ตามปกติสักเท่าไหร่เลย ซึ่งสาเหตุง่าย ๆ ก็เพราะว่านอกจากแอร์แล้ว ในบ้านยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้ากินไฟ (มาก) และมักจะทำงานหนักขึ้นในช่วงหน้าร้อนด้วย เพียงแค่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน เช่น 

  • เครื่องดูดฝุ่น ขนาด 1,400-2,000 วัตต์ จะเสียค่าไฟ 6-8 บาท /ชม.
  • เตารีดไฟฟ้า 1,000-2,800 วัตต์ ค่าไฟ 3.5-10 บาท/ ชม.
  • เครื่องเป่าผม ขนาด 1,600-2,300 วัตต์ ค่าไฟ 6-9 บาท /ชม.
  • เครื่องซักผ้า ฝาบน - ฝาหน้า ขนาด 10 kg ค่าไฟ 2-8 บาท /ชม.
  • เตาแม่เหล็กไฟฟ้า 1-2 หัวเตา ขนาด 2,000-3,500 วัตต์ ค่าไฟ 8-14 บาท /ชม

จะเห็นได้ว่าถึงคุณจะปิดแอร์ทั้งเดือน แต่ถ้ายังมีการใช้เครื่องไฟฟ้าเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง หรือใช้บ่อยขึ้นกว่าปกติ ย่อมทำให้ค่าไฟแพงขึ้นเมื่อเทียบกับฤดูอื่น ๆ อยู่ดี และเพื่อไม่ให้ทุกคนต้องตกอยู่สถานการณ์ที่ลำบากกาย ลำบากใจ รวมทั้งลำบากกระเป๋าสตางค์ SMILE INSURE จึงมีวิธีประหยัดไฟในหน้าร้อนที่เห็นผลมาฝากกัน

1. เริ่มด้วยวิธีประหยัดไฟสุดเบสิก 

ข้อแรกที่ทำได้ง่ายที่สุด แต่ใครหลายคนอาจจะบังคับตัวเองให้ทำได้ยากที่สุด คือ “ถอดปลั๊ก” พัดลม ไมโครเวฟ เครื่องซักผ้า ทีวี เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ และปิดสวิตซ์ไฟทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน เสมือนการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม เพราะเมื่อไหร่ที่ปลั๊กไฟเสียบกับเต้ารับ จะทำให้มีกระแสไฟวิ่งเข้าสู่สายไฟตลอดเวลา ซึ่งนั่นหมายถึงค่าไฟที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยเช่นกัน ดังนั้นทางที่ดีควรถอดปลั๊กไปเลย เพื่อหยุดกระแสไฟและค่าไฟตั้งแต่เนิ่น ๆ 

2. ทำความสะอาดคืออีกหนึ่งสุดยอดวิธีประหยัดไฟ

รู้ไหมว่าปัจจัยที่ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานหนักในช่วงหน้าร้อน ไม่ได้มีแค่อากาศนอกบ้านที่ร้อนจัดเท่านั้นนะ แต่ยังมีเรื่องปัจจัยภายในของเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง “ความสะอาด” ด้วย เช่น พัดลมตัวเก่งที่ปล่อยให้ฝุ่นเกาะมานานเป็นปี ตู้เย็นที่น้ำแข็งเกาะเต็มช่องฟรีซ ฯลฯ 

ซึ่งความสกปรกเหล่านี้ไม่ดีต่อการใช้ไฟฟ้าเอามาก ๆ เพราะจะทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานหนักขึ้น จากปกติที่ต้องทำงานหนักเป็นเท่าตัวท่ามกลางอากาศร้อนจัดอยู่แล้ว

3. ยึดหลักเก่าไป-ใหม่มา

นอกจากนี้ ถ้าสังเกตเห็นว่าเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นไหนเริ่มเก่า ถึงคราวต้องซ่อม ก็ให้รีบซ่อมทันที แต่ถ้าคิดดูแล้วว่าซื้อใหม่คุ้มกว่า ก็อย่าลังเลที่จะซื้อ เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าสภาพร่อแร่ จะตามมาด้วยการใช้ไฟมาก และค่าไฟแพง ส่วนการเลือกสิ่งใหม่มาใช้แทนนั้น ให้ดูจากมาตรฐานการรับรอง อาทิ ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5, สัญลักษณ์ มอก. เพื่อการันตีคุณภาพการใช้งานว่าจะช่วยประหยัดไฟและรายจ่ายได้ในระดับหนึ่ง

4. ใช้แอร์ได้แต่ใช้ให้เป็น

แอร์เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ถูกออกแบบมาช่วยคลายร้อนให้สิ่งมีชีวิตอยู่แล้ว บวกกับอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นทุกปี การใช้ไฟในหน้าร้อนที่ต้องเลิกใช้แอร์ไปเลย 100% จึงเป็นวิธีที่ไม่น่าสนใจสักเท่าไหร่ ในเมื่อติดแอร์แล้วก็ควรใช้ให้คุ้ม ด้วยการ

  • ไม่วางสิ่งของกีดขวางทางที่ลมแอร์ออก
  • เปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียสขึ้นไป 
  • ในช่วงไม่กี่นาทีแรกที่เปิดแอร์ ให้เปิดพัดลมช่วยกระจายความเย็นให้ทั่วห้องก่อน แล้วค่อยปิด
  • ตั้งเวลาเปิด – ปิดแอร์ ไม่เปิดทิ้งไว้ตลอดทั้งวัน
  • เปิดพัดลมแทนแอร์ในช่วงที่อากาศไม่ร้อนมาก อย่างตอนเช้า ช่วงเย็น หรือกลางคืน พร้อมกับเปิดประตูหรือหน้าต่างระบายอากาศให้ถ่ายเท ไม่อบอ้าว

ประหยัดไฟไม่ได้ช่วยแค่ประหยัดเงิน

สิ่งสำคัญที่อยากเน้นย้ำคือ เทคนิคการใช้ไฟในหน้าร้อนอย่างประหยัดที่นำมาฝากกันในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยให้หลายบ้านมีรายจ่ายลดลงแล้ว ยังช่วยลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุไฟฟ้าลัดวงจรและไฟไหม้ จากเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียบปลั๊กทิ้งไว้ หรือทำงานหนักเกินไปได้อีกด้วย 

อย่างไรก็ตาม คุณและครอบครัวไม่ควรมองข้ามการเตรียมแผนรับมือเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงหน้าร้อนแบบนี้ ด้วยการมองหา “ประกันภัยบ้าน” จากผู้ให้บริการชั้นนำ เพื่อสร้างความอุ่นใจให้ทุกช่วงเวลาที่อยู่บ้าน


ขอบคุณข้อมูลจาก:

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ